ตำรวจตลาดหุ้น หรือ ก.ล.ต.สหรัฐฯ สั่งปรับ แบงก์-โบรกเกอร์ นับสิบเพราะใช้แชตส่วนตัวคุยงาน รวมค่าปรับทั้งหมดร่วมหมื่นล้าน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (ก.ล.ต.สหรัฐฯ) สั่งปรับธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) เป็นเงินราว 10,088 ล้านบาท (289 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โทษฐานละเมิด กฎหมายตลาดหลักทรัพย์ (Securities Exchange Act of 1934)
ตำรวจตลาดหุ้น (ก.ล.ต.สหรัฐฯ) สืบพบว่า บริษัทในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ 11 แห่ง ใช้แชตส่วนตัวคุยงานกับลูกค้า โดยใช้แอปฯ อย่าง iMessage และ WhatsApp
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ใช้แชตส่วนตัวคุยงานมันผิดอะไร ?
ก.ล.ต.สหรัฐฯ ระบุว่า ธนาคารและบริษัทโบรเกอร์ที่ถูกปรับ ละเมิดกฎหมายของตลาดหลักทรัพย์ ที่ว่าด้วยการใช้ระบบติดต่อสื่อสารที่ไม่สามารถตรวจสอบและเก็บประวัติการคุยตามที่กฎหมายกำหนด
โดยผู้ปฎิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ถูกบังคับด้วยกฎหมายที่จะต้องเก็บประวัติการคุยกับลูกค้าไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้ผู้ตรวจสอบสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่า มีการทุจริตในการสื่อสารกับลูกค้าหรือไม่ ? และเป็นหลักฐานในการป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นด้วย
ดังนั้นการที่โบรกเกอร์ใช้เบอร์สำนักงาน และ อีเมลบริษัท จึงมักเป้นวิธีการมที่ใช้กัน ซึ่งการใช้แอปฯแชตอื่น ๆ อย่าง iMessage และ WhatsApp ทำให้มีโอกาสที่แชตจะถูกลบและสูญหายตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบภายนอกไม่ได้
Sanjay Wadhwa รองผู้อำนวยการฝ่ายบังคับใช้กฎหมายของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ระบุว่า “การดำเนินการในวันนี้เกิดจากการกวาดล้างอย่างต่อเนื่องของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ เพื่อให้แน่ใจว่าหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การควบคุม ซึ่งรวมถึงโบรกเกอร์และที่ปรึกษาการลงทุน ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการบันทึกข้อมูลของพวกเขา ซึ่งจำเป็นสำหรับเราในการตรวจสอบและบังคับใช้การปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ความล้มเหลวในการจัดเก็บบันทึกเหล่านี้บั่นทอนความสามารถของเราในการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมักเป็นค่าใช้จ่ายของนักลงทุน”