โดรน ฉลาดขึ้น นักบินตกงานไหม ? เปิดมุมมองจากกองทัพอากาศ และผู้เชี่ยวชาญ

ถ้านึกย้อนกลับไปก่อนโควิด-19 อาชีพ "นักบิน" ทั้งสายการบินพาณิชย์และนักบินรบ ต่างเป็นอาชีพที่มั่นคงที่สุดในโลกอาชีพหนึ่ง แต่ปัจจุบันเมื่ออากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ทำได้ทั้งแท็กซี่บินได้ไร้คนขับ ส่งคน ส่งของ ไปจนถึงรบกับศัตรูได้ นั่นอาจทำให้อาชีพนี้สั่นคลอนหรือไม่ ?

นาวาอากาศเอก ทรงศักดิ์ ธรรมสาร จากกองทัพอากาศ ระบุถึงความเป็นมาและการพัฒนาเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ ว่า ที่ผ่านมาอากาศยานไร้คนขับในประเทศไทยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2531 ไปไหนช่วงนั้นจะเรียกว่า Remotely Piloted Aircraft (RPA) , Remotely Piloted Vehicle (RPV) ซึ่งล้วนแปลว่าอากาศยานที่ถูกควบคุมระยะไกลไร้คนขับ แต่ปัจจุบันในทางการทหารจะเรียกโดรนว่า Unmanned Aerial Vehicles (UAVs) 

โดรน ฉลาดขึ้น นักบินตกงานไหม ?

นาวาอากาศเอก ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา อากาศยานไร้คนขับใช้ในการป้องกันประเทศเท่านั้น แต่เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วตั้งแต่การเกิดขึ้นของ โดรนยี่ห้อ DJI ทำให้อากาศยานไร้คนขับเข้ามาในชีวิตประจำวันของประชาชนและภาคธุรกิจมากขึ้น ส่วนตัวมองว่าหลังจากนี้อากาศยานไร้คนขับจะเข้ามาทดแทนนักบินในหลายภารกิจทั้งในภาคพลเรือนและในการรบ สังเกตได้จากบางภารกิจที่ต้องใช้ระยะเวลาในการบิน 30-40 ชั่วโมง ซึ่งเกินข้อจำกัดของนักบินที่จะเข้าไปอยู่ในห้องนักบินบนเครื่องบินรบ

แต่เมื่อพูดถึงว่า นักบินจะไปอยู่ไหน หากใช้ดดรนกันอย่างแพร่หลาย นาวาอากาศเอก ทรงศักดิ์ มองว่า นักบินเองก็จะถูกย้ายมาอยู่ที่ศูนย์ควบคุมเพื่อบังคับโดรนแทน

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• จีน สั่งห้ามบินโดรนในจุดชมวิว หวั่นกระทบสัตว์ หลังมีนกโฉบโดรนไปหลายลำ
• Meituan เปิดตัวโดรนดลิเวอรี่ส่งเครื่องดื่ม ใช้เวลาส่ง 12 นาที ถึงหน้าบ้าน
• Wuling จับมือผู้ผลิตโดรน DJI เปิดตัว Baojun KiWi รถ EV ไร้คนขับ ในราคา 4.5 แสนบาท

ขณะที่กรณีที่ ปัญญาประดิษฐ์จะถูกนำมาใช้จริงทางการทหารเพื่อทำลายล้างศัตรู เหมือนนักบินรบหรือไม่ ? นาวาอากาศเอก ทรงศักดิ์ ให้ความเห็นว่า อาจไม่มีโอกาสในเร็ว ๆ นี้ แม้นักบินจะไม่ได้อยู่ในเครื่อง แต่การสั่งลั่นไก ยังควรเป็นมนุษย์อยู่แม้จะอยู่ในศูนย์ควบคุมก็ตาม เพราะผลการทดลองของ สหรัฐฯ ที่จำลองใช้ปัญญาประดิษฐ์ในระบบเครื่องบินรบ พบว่า ปัญญาประดิษฐ์ตัดสินใจมากำจัดคนสั่งการก่อนไปจัดการเป้าหมาย เพราะระบบคิดว่า คนสั่งเข้ามารบกวนปฎิบัติการของมันมากเกินไป

โดรนไม่ได้ใช้แค่ทางการทหารอีกต่อไป

นายจรรยวรรธน์ ชาติอุลักษณ์ นายกสมาคมโดรนซอคเกอร์ประเทศไทย ระบุถึง อนาคตอากาศยานไร้คนขับกับเทคโนโลยีที่กำลังปฏิวัติโลก ว่า อากาศยานไร้คนขับสามารถพัฒนากลายเป็นกีฬาได้มากกว่าการถ่ายภาพและเทคโนโลยีทางการทหารแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งเด็กไทยไปแข่งขันที่เกาหลีและจีน ซึ่งผู้เข้าแข่งขันในทีมอายุเพียง 13 ปี เท่านั้น

หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ของการนำอากาศยานไร้คนขับมาใช้เพื่อการกีฬา คือ “น้องมิลค์” วรรรญา วรรณผ่อง นักแข่งโดรนทีมชาติไทย ที่ได้ไปคว้าแชมป์โลกด้วยอายุยังน้อย นั่นแปลว่าในอนาคตเด็กรุ่นใหม่จะสามารถเข้าถึงและมีทักษะด้านการขับ Drone ได้เก่งมากยิ่งขึ้น และใช้มันได้อย่างคล่องแคล่ว เหมือนเด็กรุ่นใหม่ที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นโดยไม่ต้องสอนเลย

อนาคตแท็กซี่บินได้ไร้คนขับมาแน่ แต่รัฐต้องเตรียมกฎหมายให้ทัน

นายฉัตรชัย ปั่นตระกูล รักษาการผู้จัดการฝ่ายมาตรฐานอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ระบุถึง แนวทางการกำกับดูแลการใช้งานอากาศยานไร้คนขับในประเทศไทย ว่า อากาศยานไร้คนขับถูกใช้งานอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องมีการกำกับดูแลและการควบคุมระดับความสูงเพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนเครื่องบินพาณิชย์ที่มีผู้โดยสารและความมั่นคง

ขณะเดียวกันข้อจำกัดของอากาศยานไร้คนขับที่สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ ยังไม่สามารถถูกนำมาใช้จริงเชิงพาณิชย์ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีการออกแบบเพดานบินและช่องทางการบิน รวมถึงใบอนุญาตและกฎหมายต่าง ๆ เพื่อรองรับทั้งความปลอดภัยและการเอาผิดในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ

สำนักงานการบินพลเรือนฯ เชื่อว่า แท็กซี่บินได้ไร้คนขับ และการขนส่งเอกชนทางอากาศและไร้คนขับจะสามารถเริ่มมีการใช้จริงเชิงพาณิชย์ ในปี 2025

ทั้งหมดถูกระบุภายในงานสัมมนาเนื่องในโอกาสครบรอบ 55 ปี วันสถาปนามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หัวข้อการสัมมนา อากาศยานไร้คนขับ (Drone) กับทิศทางการกำกับดูแลของไทย จัดโดย วิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน  มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (CADT) และชมรมสถาบันการศึกษาและบุคลากรด้านการบินประเทศไทย (ชสบ.) โดยมี นายสมชาย พิพุธวัฒน์ ประธานชมรมสถาบันการศึกษาและบุคลากรด้านการบินประเทศไทย ร่วมสัมมนาบนเวทีพร้อมดำเนินรายการโดย นาวาอากาศเอก ดร.วีรชน นรานุต