svasdssvasds

Facebook ปรับอัลกอริทึมใหม่ เจ้าของเว็บไซต์โอดยอดลดฮวบ ชี้ปีนี้โดนอีกเยอะ

Facebook ปรับอัลกอริทึมใหม่ เจ้าของเว็บไซต์โอดยอดลดฮวบ ชี้ปีนี้โดนอีกเยอะ

เจ้าของเว็บไซต์ท้อ! Facebook ปรับอัลกอริทึมใหม่ ยอดการเข้าถึงลดฮวบ จนส่งผลต่อการทำธุรกิจสื่อ จากการคาดการณ์พบปีนี้จะโดนอีกเยอะและทุกแพลตฟอร์มด้วย

เว็บไซต์ Gizmodo เผยแพร่เรื่องราวของเจ้าของเว็บไซต์และผู้ผลิตคอนเทนต์ลง Facebook ที่ยอดการเข้าถึงผ่านเพจลดลงอย่างเห็นได้ชัด บางสื่อผู้คนไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่สื่อโพสต์ลงในเพจผ่านหน้าฟีดของตัวเองได้เลย

สำหรับธุรกิจสื่อที่พึ่งพาช่องทางการนำเสนอผ่านเฟซบุ๊กเป็นหลักกลายเป็นกลุ่มธุรกิจที่ "เปราะบาง" เพราะช่องทางการนำเสนอหลักถูกลดการมองเห็น นั่นทำให้ส่งผลต่อโฆษณาและจำนวนผู้ชมที่ส่งผลต่อรายได้ด้วย ซึ่งผู้ผลิตคอนเทนต์เองไม่สามารถควบคุมเรื่องการมองเห็นหรืออัลกอริทึมได้เลย นั่นทำให้กลายเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้

ปัจจุบันท่าทีของ Meta บริษัทแม่ของ Facebook มีท่าทีในการมุ่งเน้นผลักดันวิดีโอสั้น อย่าง Reels เพื่อสู้กับคู่แข่งที่มาแรงอย่าง Tiktok ที่กำลังดึงคนออกไปอย่างเห็นได้ชัด

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

Facebook ปรับอัลกอริทึมใหม่ เจ้าของเว็บไซต์โอดยอดลดฮวบ ชี้ปีนี้โดนอีกเยอะ

Antoine Amann ซีอีโอ ของ Echobox ที่ รวบรวมข้อมูลจากผู้ผลิตคอนเทนต์ทาง Facebook กว่า 2,000 เพจ ระบุว่า ยอดการเขาถึงของเพจเหล่านั้นลดลงถึงกว่า 50% และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยอดดังกล่าวลดลงอย่างเห็นได้ชัด

พนักงานคนหนึ่งในเว็บไซต์ข่าวกีฬาและวัฒนธรรมซึ่งมีผู้ติดตามบน Facebook หลายล้านคนบอกกับ Gizmodo ว่า พวกเขาสังเกตเห็นการเข้าถึงลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ตอนแรกเราคิดว่ามันเป็นความผิดของฝั่งสำนักข่าวที่ทำผิดพลาดบางอย่าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป สำนักข่าวอื่น ๆ ก็รายงานสิ่งเดียวกัน

ระวี ตะวันธรงค์ นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ วิเคราะว่า จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งเราเห้นผลกระทบเป็นวงกว้างขึ้นแล้วจากการลดการมองเห็น ดังนนั้น การปรับรูปแบบการทำธุรกิจ , กลยุทธ์การวางคอนเทนต์ และ รูปแบบการสร้างรายได้จึงเป็นเรื่องสำคัญ

ระวี ตะวันธรงค์ นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์

ทางแก้สำหรับคนทำสื่อ คือ การสร้างแบรนด์ตัวเองให้น่าเชื่อถือ และสร้างคนเทนต์ที่ต่างจากตลาด ไม่ใช่กระแส รวมถึงการหารายได้รูปแบบใหม่อย่างการสมัครสมาชิก การจัดอีเวนท์ และการจัดงานสัมมนา เพื่อขยายฐานคนดู “เชิงลึก” มากกว่าด้านกว้าง เน้นนำเสนอคอนเทนต์ด้วยภาพ และวีดีโอ มากกว่าตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว

"ถ้าไม่เร็วกว่าชาวโซเชียล ก็ต้องลึกและต่างมุมมากกว่า" ระวี ตะวันธรงค์ ระบุ

ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้มีหลากหลายกระแสข่าวว่า ผู้ผลิตคอนเทนต์ เรียกร้องให้แพลตฟอร์มอย่าง Facebook จ่ายเงินค่าคอนเทนต์หรือค่าเผยแพร่ข่าวเพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ของสำนักข่าว คล้ายกับยูทูปที่มีส่วนแบ่งโฆษณาให้เจ้าของคลิป

อย่างไรก็ตาม แม้มีกระแสวิพากย์วิจารณ์เป็นวงกว้างแต่ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ก็ไม่เคยออกมาตอบดต้ หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ เพิ่มเติมเลย

ขณะเดียวกันหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าปีนี้ จะเป็นปีที่หลายแพลตฟอร์มเริ่มหันมาสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มตัวเอง เช่น บังคับให้แบรนด์จ่ายเงินบูสโพสต์ ซึ่งยูทูปเบอร์คนไทย อย่างช่อง VIPS Station ถึงขนาดออกมาประกาศว่า ตนเองยอมแพ้อัลกอริทึม ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจนคลิปของตนเองถูกลดยอดการเข้าถึงอย่างเห็นได้ชัด แม้ตนเองมีผู้ติดตามกว่า 1.3 ล้านผู้ใช้ก็ตาม

ดั้งนั้น นี่อาจเป็นสัญญาณที่สำคัญที่ผู้ผลิดคอนเทนต์ต้องปรับตัวและสร้างความโดดเด่นให้ตัวเองและให้มีคนติดตามมากกว่าแค่ทำข่าวกระแสเอาใจอัลกอริทึม

 

related