ทนายหัวใส ใช้ ChatGPT ทำคดี สุดท้าย ปัญญาประดิษฐ์นั่งเทียน เขียนเคสขึ้นมาเอง

เว็บไซต์ Mashable รายงานเรื่องราวของ Steven Schwartz ทนายความจาก Levidow & Oberman ผู้ศึกษาและทำงานเกี่ยวกับกฎหมายมากว่า 30 ปี ที่ใช้ ChatGPT ระบบแชทบอทปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะช่วยทำคดี หาเคสตัวอย่างเพื่อช่วยให้ลูกความชนะคดีในศาล

คดีดังกล่าวเริ่มต้นจาก นาย Roberto Mata จ้างทนายความ ชื่อ Steven Schwartz ให้ฟ้องสายการบิน Avianca หลังจากรถเข็นเสิร์ฟอาหารบนเครื่องบิน ถูกเข็นไปชนที่หัวเข่า จนได้รับบาดเจ็บ โดยสายการบิน Avianca พยายามขอให้ผู้พิพากษายกฟ้องคดีนี้ หลังจาก ทนายความของ Mata ใช้ ChatGPT ค้นหาข้อมูลคดีความที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่คดีตัวอย่างดังกล่าว ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

A lawyer used ChatGPT to do "legal research" and cited a number of nonexistent cases in a filing, and is now in a lot of trouble with the judge 🤣 pic.twitter.com/AJSE7Ts7W7

— Daniel Feldman (@d_feldman) May 27, 2023

 

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• คน Gen Z และ Millennials กว่าครึ่ง แอบใช้ AI ช่วยทำงาน โดยไม่บอกเจ้านาย
• ChatGPT แชทบอทอัจฉริยะ เปิดให้ดาวน์โหลดแอปฯฟรีแล้ว ทั้งใน iOS และ Android
• Sam Altman ผู้สร้าง ChatGPT คิดล้ำ พัฒนา AI วิเคราะห์ม่านตาแจกคริปโท Worldcoin

ในเอกสารที่ ทนายความ ส่งให้ศาลระบุอย่างชัดเจนว่า ใช้ ChatGPT ของบริษัท OpenAI ช่วยหาคดีความตัวอย่างปัญญาประดิษฐ์อ้างว่าที่เคยเกิดขึ้นและได้รับคำตัดสินไปแล้ว เช่น คดีที่ฟ้องร้องสายการบิน China Southern Airlines , Egyptair , Iran Air และ United Airlines เป็นต้น

เคสที่ ChatGPT ยกมา ไม่มีจริง นั่งเทียนล้วน ๆ

ทันทีที่คำตัดสินศาลในอดีต ที่ ทนายความยื่นต่อศาล ถูกยื่นเข้าไป ทนายความฝั่งที่ถูกฟ้องและผู้พิพากษา กลับต้องพบเจอปัญหาเมื่อคดีความดังกล่าวไม่มีอยู่จริง และไม่สามารถสืบหาต้นตอได้

ด้านทนายความที่ยื่นฟ้อง ยังคงยืนยันเสียงแข็งพร้อมส่งภาพบันทึกหน้าจอ บทสนทนาระหว่างเขากับ ChatGPT ให้ศาลดู และบอกว่า เขา "ไม่รู้ถึงความเป็นไปได้ที่เนื้อหาอาจเป็นเท็จ" โดยทนายความคนเดิม ได้ถามแชทบอท AI ว่าเคสที่ยกมาเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ? ซึ่งมันก็ตอบว่า ใช่ และยังยืนยันว่าสามารถพบกรณีต่างๆ ได้ใน "ฐานข้อมูลทางกฎหมายที่มีชื่อเสียง" อีกครั้ง แต่ก็ไม่ปรากฎว่า เคสที่ยกมาเป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด

 

ChatGPT ฉลาดเพราะรู้ว่าเราอยากได้คำตอบแบบไหน แม้ต้องโกหกก็ตาม

ChatGPT ไม่ได้ต่างจากแชทบอท AI อื่น ๆ เพราะมันคือรูปแบบภาษาที่ได้รับการฝึกฝนให้ทำตามคำแนะนำและให้การตอบสนองแก่ผู้ใช้เมื่อได้รับการแชทเข้ามา หมายความว่า หากผู้ใช้ขอข้อมูล ChatGPT ก็อาจให้สิ่งที่ผู้ใช้กำลังมองหาได้ แม้ว่าจะไม่ใช่ข้อเท็จจริงก็ตาม

จากเรื่องดังกล่าวผู้พิพากษาได้สั่งให้มีการพิจารณาคดีในเดือนหน้าเพื่อ "หารือเกี่ยวกับการลงโทษที่อาจเกิดขึ้น" สำหรับ Schwartz เพื่อตอบสนองต่อเรื่องที่เขา เชื่อใจ ChatGPT จนทำให้เกิดการยื่นหลักฐานประกอบการพิจารณาเท็จขึ้นมา