แว่น AI ช่วยหนุ่มเดทกับสาว-สัมภาษณ์งาน ให้คุยได้ลื่นไหล อาจได้ทั้งงาน-แฟน

RizzGPT แว่นอัจฉริยะ ปัญญาประดิษฐ์ ของ Bryan Hau-Ping Chiang นักศึกษามหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Standford University) เป็นแว่น AI ที่ใช้ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ ที่พัฒนาโดยบริษัทเดียวกันกับ ChatGPT มาใส่ในแว่นตา เพื่อแสดงข้อความการตอบกลับบทสนทนาของคู่สนทนา โดยใช้ไมค์ที่แว่นแปลงเสียงเป็นข้อความให้ AI อ่านและแสดงคำตอบลงบนเลนส์ของแว่น

Bryan ระบุว่า แว่นอัจฉริยะ RizzGPT ทำงานโดยการใช้ฐานข้อมูลของ Whisper จาก OpenAI ที่พัฒนา ChatGPT ซึ่งมีข้อมูลการเรียนรู้คำพูดในภาษาต่าง ๆ กว่า 6.8 แสนชั่วโมง

 

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• Meta ซื้อบริษัทแว่นตาอัจฉริยะสามมิติ Luxexcel มุ่งพัฒนา AR/VR ใช้ในการแพทย์
• ญี่ปุ่นพัฒนา แว่นตาอัจฉริยะ ช่วยผู้สูงอายุให้ซื้อของโดยไม่ต้องออกจากบ้าน
• เทคโนโลยีใหม่ของ Google โชว์ แว่น AR แปลภาษา Real-Time

ในคลิปที่ Bryan อัปโหลดลง Twitter ส่วนตัวของเขา เป็นภาพที่คนใส่ แว่นอัจฉริยะ RizzGPT กำลังคุยกับคน และมีคำตอบขึ้นมาบนแว่น ทำให้เราสามารถอ่านคำตอบได้เพียงอึดใจเดียว

meet lifeOS: an operating system for your entire life 🌐

a personal AI agent delivered directly through AR smart glasses 👓

it uses computer vision to 👁️recognize👁️ your friends’ face

then brings up relevant details to talk about based on your texts with them (memory🤯) pic.twitter.com/BgCuODV4k2

— bryan (@bryanhpchiang) April 10, 2023

สำหรับวิธีการทำงานของ แว่นอัจฉริยะ คือการเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับมือถือด้วย Bluetooth แล้วแว่นจะทำหน้าที่เหมือนไมค์เพื่อรับเสียง และใช้อินเทอร์เน็ตของมือถือ ส่งข้อมูลไปคุยกับเซิร์ฟเวอร์ ที่ปัญญาประดิษฐ์อยู่ แล้วจึงส่งคำตอบกลับมาแสดงที่เลนส์แว่น

ทั้งนี้ RizzGPT ยังเป็นตัวต้นแบบอยู่ ใหญ่เทอะทะ แต่ Bryan และทีมจะพัฒนาต่อไปให้สามารถใช้ได้จริง ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจีบใคร หรือหาแฟนให้เจอเร็วมากขึ้นก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม แว่นอัจฉริยะ ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเพราะบริษัทเทคโนโลยีอย่าง google ก็พัฒนา Google Glass มากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งมันสามารถถ่ายวิดีโอและมีจอแสดงผลเป็นภาพที่ขึ้นบนเลนส์ที่บางกว่า RizzGPT ด้วย แต่แว่นดังกล่าวยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก และอาจเป็นข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ณ ขณะนั้น จึงทำให้แว่นดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เพราะผู้พัฒนาพยายามจะทำให้แว่นตาคู่นี้ ทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น เสมือนเป็นมือถือเครื่องหนึ่งบนตาเรา

ส่วนปัจจุบันสำหรับใครที่นึกบทสนาทนาไม่ออก หรือคุยไม่เก่ง สามารถพัฒนาได้โดยการพูดคุยกับผู้คนมากขึ้น เรียนรู้การตอบกลับการพูดคยจากคนจริง ๆ เพื่อให้มีประสบการณ์ในการพูดคุยจริงมากขึ้นและไม่ต้องพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์นั่นเอง