มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก หลุดโผ “ร่วงจาก 10 มหาเศรษฐี” ในอเมริกา หลังขาดทุนยับ
นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 ที่ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กหรือ Meta ไม่ใช่ 1 ใน 10 คนที่รวยที่สุดในอเมริกา เนื่องจากสูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่าครึ่ง ซึ่งมีมูลค่าการสูญเสียกว่า 76.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ปีก่อน
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ไม่ใช่คนรวยติดอันดับ Top 10 ของสหรัฐอเมริกาอีกต่อไป เพราะขณะนี้มูลค่าทรัพย์สินของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กได้ตกลงมาที่ 57.7 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งอยู่ในอันดับที่ “11”
ซึ่งเขาได้ทำลายสถิติการสูญเสียทรัพย์สินในปีนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากการลงทุนใน Metaverse ของบริษัท Meta นั่นเอง
แน่นอนว่ามีผลกระทบมาจากการอัปเดตนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Apple ที่ทำให้การขายโฆษณาของ Facebook หรือ Meta ทำได้ยากขึ้น และส่งผลให้รายได้ของบริษัทลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อีกหนึ่งปัญหาที่ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก กำลังเจอแพลตฟอร์ม TikTok ได้ดึงดูดผู้ซื้อโฆษณาออกไปพร้อม กับผลกระทบของวัย Gen Z ที่ไม่นิยมใช้เฟซบุ๊กอีกต่อไป
ในเดือนกุมภาพันธ์ Meta ได้ประกาศการสูญเสียผู้ใช้งานรายไตรมาสเป็นครั้งแรก รายงานภายในล่าสุดแสดงให้เห็นว่า กำลังต้องการจะเป็น TikTok ซึ่ง Meta ได้สร้าง Instagram Reels ขึ้นมาเพื่อแข่งขัน
จริงแล้วภายใต้สถานการณ์ปกติ รายได้ที่ลดลงเล็กน้อยอาจสามารถจัดการได้ แต่มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กเลือกที่จะยังลงทุนอย่างหนักในด้านความเป็นจริงเสมือนและ โลก Metaverse ซึ่งกำลังใช้ผลกำไรและงบประมาณจากปีก่อนๆ
ซึ่งขณะนี้บริษัท Meta Reality Labs ขาดทุน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และนักลงทุนคนอื่นๆยังไม่ได้ให้ความนิยมในการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจเมตาเวิร์สมากนัก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงเกิดการขาดทุนขึ้น
ก่อนหน้านี้ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีครั้งแรกในปี 2008 และเพียงสี่ปีหลังจากก่อตั้ง Facebook ตอนอายุ 23 เขาเป็นมหาเศรษฐีที่สร้างตัวเองที่อายุน้อยที่สุดในขณะนั้น
โดยเปิดตัวที่อันดับ 321 จากนิตยสาร Forbes 400 มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2011 มูลค่าทรัพย์สินของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กได้เพิ่มขึ้นเกือบ 12 เท่าเป็น 17.5 พันล้านดอลลาร์
แต่ขณะนี้เมื่อการลงทุนเมตาเวิร์ส คือการลงทุนแห่งอนาคต ซึ่งได้มีข่าวสารมากมายเกี่ยวกับการอัปเดตโลกเมตาเวิร์ส เช่น Horizon Worlds ที่ได้ถูกล้อเลียนว่ากราฟิกธรรมดา ซึ่งตัวมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กเองก็รับปากว่าจะแก้ไขอัปเดตให้ดีขึ้น ในปัจจุบันหุ้นของ Meta ได้ตกลงกว่า 8% อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการลงทุนมากขนาดนี้ในโลกเมตาเวิร์ส มาร์ค ซักเคอร์เบิร์กมีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะพัฒนาให้สำเร็จ ซึ่งในขณะนี้อาจส่งผลกับบริษัทซึ่งขาดทุนอย่างรุนแรง
ทางผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า การลงทุนครั้งนี้ของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ถูกวางแผนและคิดมาแล้วเป็นอย่างดี เชื่อว่า CEO หรือเจ้าของเฟซบุ๊กที่เคยสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่โด่งดังไปทั่วโลก จะสามารถนำเงินกลับมาได้อย่างแน่นอน แต่ขึ้นอยู่ว่าจะช้าหรือเร็ว และขณะนี้คงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนมากขึ้นด้วยการอัปเดตฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อตามให้ทันโลกของโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน
