ทำความรู้จัก Crash Detection ฟีเจอร์ใหม่ ใน iPhone 14 - Apple Watch Series 8

นี่คือฟีเจอร์ที่ Apple บอกว่าไม่อยากให้มีการใช้งานมากที่สุด เพราะอุบัติเหตุไม่ควรเกิดขึ้น แต่เมือเกิดขึ้นแล้วก้ต้องรักษาชีวิตไว้ให้ได้มากที่สุด

ระบบ Crash Detection เป็นระบบที่ตรวจจับอุบัติเหตุ และติดต่อหน่วยกู้ภัยได้อัตโนมัติทันที Apple เคลมว่าเซ็นเซฮร์ที่ใช้สามารถรับแรงเหวี่ยงได้ที่ 256g เพื่อวัดประเภทการชนได้แม่นยำมากขึ้น โดยที่พัฒนาได้ศึกษารูปแบบการชน 4 แบบ คือ ชนหน้า ชนท้าย ชนข้าง และพลิกคว่ำ

Crash Detection เป็นระบบที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ภายในตัวโทรศัพท์ iPhone 14 และ Apple Watch Series 8

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• #สรุปให้ สเปค iPhone 14 ราคาเท่าไหร่ พร้อม Apple Watch-AirPod ในงาน Apple Event
• เช็กเลย! จอง iPhone 14 วันแรกกี่โมง กี่บาท จองที่ไหน ?
• สรุปสเปค Apple Watch Series 8 , SE และ Ultra รุ่นล่าสุดจากงาน Apple Event 2022

วิธีการทำงานของ Crash Detection คือมันวิเคราะห์จากอัลกอริทึมแบบรวมเซ็นเซอร์ขั้นสูงที่ใช้ประโยชน์จากไจโรสโคปและอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวใหม่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น

บน Apple Watch Series 8 วันนี้มาพร้อมอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่มีช่วงไดนามิกสูงที่สุดในบรรดาสมาร์ทวอทช์ คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันยังใช้บารอมิเตอร์, GPS และไมโครโฟนบน iPhone มีส่วนในการตรวจจับรูปแบบเฉพาะที่ช่วยให้ระบุได้ว่าเกิดเหตุชนกันอย่างรุนแรงหรือไม่

เมื่อ Apple Watch และ iPhone ตรวจจับได้ว่าเกิดเหตุรถชนอย่างรุนแรง อุปกรณ์จะตรวจสอบกับผู้ใช้และโทรหาบริการฉุกเฉินหากพวกเขาไม่ตอบสนองหลังจากนับถอยหลังเป็นเวลา 10 วินาที ผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินจะได้รับตำแหน่งอุปกรณ์ของผู้ใช้ ซึ่งจะแชร์กับรายชื่อติดต่อฉุกเฉินของผู้ใช้ด้วย

ทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันบน Apple Watch และ iPhone ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นเพื่อมอบความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อตรวจจับได้ว่าเกิดเหตุรถชนอย่างรุนแรง อินเทอร์เฟซการโทรของบริการฉุกเฉินจะปรากฏบน Apple Watch เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มักจะอยู่ใกล้ตัวผู้ใช้มากที่สุด และการโทรจะเกิดขึ้นบน iPhone หากอยู่ในระยะการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้