ส่อง VICTAM ASIA และ Health and Nutrition Asia 2022 อีเวนต์นวัตกรรม 'อาหารสัตว์'

VICTAM Asia (วิกแทม เอเชีย) และ Health & Nutrition Asia (เฮลต์ แอนด์ นิวทริชัน เอเชีย) เป็นบิ๊กอีเวนต์ที่จัดแสดงนวัตกรรมด้านการผลิตอาหารสัตว์และการดูแลสุขภาพสัตว์ โดยเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ มาพบปะ เจรจา แลกเปลี่ยนมุมมอง และเปิดดีลธุรกิจข้ามแดน ในระหว่างวันที่ 7-9 กันยายน 2565 ณ ฮอลล์ 9-10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

VICTAM Asia และ Health & Nutrition Asia เริ่มอย่างเป็นทางการแล้ว!

สำหรับพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ นายอลงกรณ์ พลบุตร
ที่ปรึกษารัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และมีผู้เชี่ยวชาญ ผู้อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารสัตว์หลายมาร่วมเป็นสักขีพยาน ได้แก่

• นางนิชาภา ยศวีร์
  รองผู้อำนวยการอาวุโส สายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ
• นายชยานนท์ กฤตยาเชวง
  อุปนายก สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย
• นาง Birgit Horn
  ผู้อำนวยการ วิฟ เวิร์คไวค์ บริษัท วีเอ็นยู ยุโรป
• นางสาวปนัดดา ก๋งม้า
  ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจเกษตร-ปศุสัตว์ บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค
• มร. Zhenja Antochim
  ผู้จัดการ โครงการ อาวุโส บริษัท วีเอ็นยูยุโรป
• มร. Joris Kaanen
  กรรมการบริหาร บริษัท วิคแทม อินเตอร์เนชัลแนล
• มร. Sebas Van Ende
  ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วิคแทม อินเตอร์เนชัลแนล
• นายภูษิต ศศิธรานนท์
  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด

นายอลงกรณ์ พลบุตร กล่าวว่า จากความต้องการอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นในปี 2020 ประเทศไทยครองตลาดอาหารสัตว์อยู่ที่ 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดการณ์ว่า จะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีอัตราเติบโตที่ 4.2% (อัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นหรือในระยะสั้น (CAGR: Compound Ammnual Growth Rate)

"ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการการผลิตและส่งออกอาหารสัตว์ในประเทศไทย มีการปรับตัวได้เป็นอย่างดี ทั้งด้านกลยุทธ์การพัฒนาและการขยายการลงทุน ความร่วมมือธุรกิจ รวมทั้งการตลาด (Mergers and Partherships) ทั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติเห็นชอบในโครงการตามแผนปฏิบัติงานการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร (Action Plan) ปี 2019 - 2027 ด้วยงบประมาณ 183 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยรัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับ"

ในส่วนของภาคเอกชน กลุ่มผู้ประกอบการภาคเอกชน ได้สนับสนุนการคำเนินการ อีกประมาณ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อการขับเคลื่อน ผลักคันประเทศไทยไปสู่ ศูนย์กลางการแปรรูปอาหาร ในอาเซียน และเป็น 1 ใน 10 ของผู้ส่งออกอาหารของโลกในปี 2027 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีเป้าหมายหลักในการยกระดับการแปรรูปอาหาร ได้แก่ ข้าว พืชผัก ผล ไม้ อาหารสัตว์ เพื่อการปศุสัตว์
และการประมง

นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ยังบอกเพิ่มอีกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีเป้าหมายหลักในการยกระดับการแปรรูปอาหารหลายประเภท ได้แก่ ข้าว พืชผัก ผล ไม้ อาหารสัตว์ เพื่อการปศุสัตว์ และการประมง

นายชยานนท์ กฤตยาเชวง อุปนายก สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียเปซิฟิกเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ รวมถึงเป็นผู้ผลิดและผู้ส่งออกเนื้อหมูรายใหญ่ระดับโลก โดยมีประเทศจีน เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้ผลิตเนื้อหมู รองลงมาคือ เวียดนาม ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์

"ในขณะที่ตลาดการผลิตสัตว์ปีก ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าสู่ระดับการผลิตระดับสูง โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการของผู้บริโภคที่สูงมากขึ้น และส่วนแบ่งจากความต้องการของร้านอาหารต่างๆ ในตลาดสัตว์ปีก คาดการณ์ว่าจะเติบโตมากขึ้น 7.8% CAGR ในระหว่างปี 2020-2025 ผสานกับแนวโน้มความต้องการใหม่ในปัจจุบันที่กำลังมุ่งไปที่การดูแลสุขภาพสัตว์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการเนื้อสัตว์แบบอินทรีย์ (Organic Meat)"

ความพิเศษของงานนี้คือ มีการจัดงานแสดงสินค้า GRAPAS Asia (กราปาส เอเชีย) ขนานไปกับงาน VICTAM Asia และ Health & Nutrition Asia 2022 ถือเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากกว่า 400 ราย มีช่องทางนำเสนอโซลูชันใหม่ด้านอาหารสัตว์ โภชนาการสัตว์ ส่วนประกอบยาสำหรับสัตว์ เทคโนโลยีพันธุศาสตร์ เทคโนโลยีสุขภาพสัตว์สมัยใหม่ ฯลฯ ให้แก่ผู้สนใจได้เป็นวงกว้าง

ในวันแรกของการจัดแสดงนวัตกรรมและโซลูชันเกี่ยวกับอาหารสัตว์และสุขภาพสัตว์ในภูมิภาคเอเชีย ทีม SPRiNG ได้เห็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบจากผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ผู้ประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ที่มาโชว์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และแนวทางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตโดยคำนึงถึงการตอบสนองความต้องการของประชากรโลก การพัฒนานวัตกรรมโดยใส่ใจสุขภาพและความปลอดภัย การร่วมลดคาร์บอน และการสร้างความยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ 3 วันเต็มของการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อการเจรจาธุรกิจแบบ B2B ทางคณะผู้จัดงานได้จัดเตรียมกิจกรรมหลากหลาย เพื่อช่วยส่งเสริมการสร้างเครือข่ายและโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานจากนานาประเทศ และยังเปิดให้ผู้สนใจเข้ารับฟังองค์ความรู้ใหม่ๆ ผ่านประสบการณ์ตรงจากผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรรับเชิญในหลากหลายหัวข้อร่วมด้วย

ยังมีงานที่อิมแพ็ค ฮอลล์ 9-10 อีก 2 วัน (วันที่ 8-9 กันยายน) ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนได้ที่ http://www.databadge.net/viah2022/reg/?card=20007007 

นอกจากนี้ ทางผู้จัดฯ จัดเตรียมรถรับส่งฟรี จากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตไปยังฮอลล์แสดงสินค้า ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตรวจสอบตารางเดินรถและนัดหมายได้ที่ https://form.jotform.com/222342976869471 หรือหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้ที่เว็บไซต์ www.victamasia.com และ www.vivhealthandnutrition.nl