Frontdesk สตาร์ทอัปด้านอสังหา ประกาศเลิกจ้างพนักงานผ่านการประชุมบน Google Meet ส่งผลให้พนักงานกว่า 200 คนที่เข้าร่วมถูกให้ออกทันที พร้อมยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์กรณีล้มละลาย
Jesse DePinto ซีอีโอของ Frontdesk ได้เรียกประชุมพนักงานกว่า 200 คนผ่าน Google Meet เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยใช้เวลาเพียง 2 นาที เพื่อแจ้งให้ทราบว่าบริษัทจะยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากภาครัฐ ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งหากบริษัทต้องล้มละลาย หลังบริษัท Proptech รายนี้อาจจะต้องปิดตัวลง ส่งผลให้การเลิกจ้างงานมีผลทันทีหลังการประกาศออกไป
Frontdesk เป็นแพลตฟอร์มให้เช่าที่พัก ที่ทำงาน อพาร์ทเมนท์ คล้ายกับ AirBNB และได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 โดยมีอพาร์ทเมนท์และเฟอร์นิเจอร์ให้เช่าใช้งานมากกว่า 1,000 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา
การเลิกจ้างงานในครั้งนี้ จึงส่งผลให้มีตำแหน่งงานหายไปอีกกว่า 200 ตำแหน่ง ทั้งพนักงานเต็มเวลา พนักงานนอกเวลาและผู้รับเหมา
ความน่ากังวลในวงการสตาร์ทอัปนั้น เป็นเพราะช่วงสองปีหลังนี้สตาร์ทอัปทั่วโลกส่งสัญญาณไล่พนักงานออกมากกว่า 425,000 คน อย่างเช่นในอินเดียก็มีการไล่พนักงานออกแล้วกว่า 36,000 คน และในปี 2023 ที่ผ่านมา ก็มีพนักงานในกลุ่มเทคโนโลยีและสตาร์ทอัประดับโลก มีการเลิกจ้างงานพนักงานเกือบ 2.6 แสนคนเช่นกัน
สำหรับปัญหาสตาร์ทอัปในอินเดียนั้น ผลกระทบหลักมาจากการที่ไม่มียูนิคอร์นตัวใหม่เกิดขึ้นเลย ทั้งที่ก่อนหน้าปี 2023 มีมากถึง 100 รายแต่การระดมทุนเพื่อให้เกิดธุรกิจใหม่กลับทำได้ช้า เพราะพวกเขาไม่สามารถจัดพอร์ตการลงทุนสำหรับนักลงทุนได้ดีพอ
ในปี 2022 ถือว่าเป็นบทเรียนจากการเลิกจ้างพนักงาน 10,029 ราย ใน 27 สตาร์ทอัปชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Cars24, Ola, Meesho, MPL, Trell, Unacademy, Vedantu, และ Yaari เป็นต้น เรียกได้ว่าเฉลี่ยการให้ออกของสตาร์ทอัปในอินเดียอยู่ที่ 30% จากจำนวนสตาร์ทอัปทั้งหมด
โดยปัญหาหลักๆ ที่ต้องเลิกจ้างพนักงานนั้นมาจาก 3 สาเหตุ คือ
นอกจากนี้ ภาวะสงคราม ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจที่ถดถอยก็เป็นแรงกดดันสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อกระทบตลาดหุ้นทั่วโลก
สะท้อนให้เห็นว่าสภาพเศรษฐกิจระดับมหภาคทั่วโลกกำลังมีผลกระทบอย่างหนักและการไล่ออกของพนักงานระดับต่างๆ ยังคงเกิดขึ้นต่อไป หากความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายและสภาวะเศรษฐกิจยังคงมีปัญหาเช่นนี้
ส่วนในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee ก็เคยปรับพนักงานไทยไปกว่า 1,000 คน และล่าสุด Lazada เองก็มีการประกาศปรับลดพนักงานฝ่ายการตลาดตั้งแต่ต้นปี 2024 เกือบ 100 คน คาดว่าส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานในสิงคโปร์
นอกจากนี้ ยังมี หัวเว่ย ที่ปลดพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ในสหรัฐและแคนาดาด้วย
ดูเหมือนว่าปี 2024 จะเป็นปีแห่งการต้องลุ้นว่าภาวะเศรษฐกิจจะดีหรือร้าย ส่งผลต่อธุรกิจและการลงทุนของทั่วโลกในทิศทางใดบ้าง
ที่มา : Gulfnews, กรุงเทพธุรกิจ
ภาพ : unsplash
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม