ฝรั่งเศส วางแผนกระตุ้นสตาร์ตอัป ลดภาษีให้นักลงทุน ลดหย่อนสูงสุด 30%
ฝรั่งเศส เผยแผนงบประมาณปี 2024 สร้างระบบลดหย่อนภาษีสำหรับนักลงทุน (angel investments) ที่เข้ามาลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัป รับแรงบันดาลใจจากวงการเทคของอังกฤษ
การลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัปสำหรับอังกฤษถือว่าเป็นประเทศที่มีแผนการลดหย่อนภาษีที่เอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนหรือ Angel Investors มากที่สุด เพราะเป็นรูปแบบการลงทุนแบบไม่หวังผลตอบแทน
ทั้งนี้ แผนการลงทุนในกลุ่มสตาร์ตอัปที่อังกฤษจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- SEIS : Seed Enterprise Investment Scheme
- EIS : Enterprise Investment Scheme
หากคุณลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัปในระยะเริ่มต้น (Early-stage) จะได้รับการลดหย่อนภาษี 50% จากภาษีเงินได้ โดยจำกัดการลงทุนไว้ที่ 200,000 ปอนด์ต่อปี หรือประมาณ 8.7 ล้านบาท
แต่ถ้าลงทุนในสตาร์ตอัปแบบ SEIS ที่มีอายุการทำงานน้อยกว่า 3 ปี พนักงานน้อยกว่า 25 คน และมีสินทรัพย์รวมน้อยกว่า 350,000 ปอนด์ หรือ 15 ล้านบาท
Emmanuel Nataf ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Reedsy กล่าวว่า การระดมทุนแบบ SEIS ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนของ Angel Investors และช่วยให้สตาร์ตอัปปิดรอบได้เร็วขึ้น เพราะผู้เสียภาษีนั้น อาจไม่ใช่คนที่ร่ำรวยที่สุดในการเอาเงินไปลงทุน แต่พวกเขาสามารถได้รับประโยชน์จากโปรแกรมลดหย่อนภาษี และผู้จ่ายภาษีถือว่าเป็นผู้ขับเคลื่อนระบบนิเวศของอังกฤษอย่างแท้จริง
ส่วนกลุ่ม EIS หรือ Enterprise Investment Scheme นักลงทุนรายย่อยจะได้รับการลดหย่อนภาษีเพียง 30% จากภาษีเงินได้เท่านั้น และบริษัทที่เหมาะกับนักลงทุนแบบ EIS จะต้องมีอายุน้อยกว่า 7 ปี มีพนักงานน้อยกว่า 250 คนและสินทรัพย์รวมต่ำกว่า 15 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 658 ล้านบาท
สิ่งที่น่าสนใจคือบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง จะมีอีกหนึ่งทางเลือกคือ หากดำเนินธุรกิจนาน 10 ปี สามารถลงทุนได้มากถึง 1 ล้านปอนด์ หรือ 658 ล้านบาทต่อปี เพื่อรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี หรือสูงสุด 2 ล้านปอนด์สำหรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูง 877 ล้านบาท
ด้วยเงื่อนไขต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ Paul midy สมาชิกสภาแห่งชาติซึ่งเป็นตัวแทนของ เอมมานูเอล มาครง นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสได้สนใจรูปแบบการลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัปผ่าน SEIS และ EIS คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนกว่า 175 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 7.6 พันล้านบาท และ 1.6 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 7 หมื่นกว่าล้านบาท ตามลำดับ
โดยแผนการลงทุนทั้งแบบ SEIS และ EIS จะนำมาปรับใช้ในฝรั่งเศสปี 2024 เป็นต้นไป ซึ่งบุคคลที่มีป้ายกำกับ JEI (jeunes entreprises innovantes) จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้ 30%
และในปี 2025 จะมีหมวดการลงทุนใหม่เพิ่มอีก 2 หมวด คือ JEIC และ JEIR จะได้รับการลดหย่อนภาษี 50% สำหรับการลงทุนสูงถึง 100,000 ยูโรหรือประมาณ 3.8 ล้านบาทต่อปี
ส่วนนักลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัปอื่นๆ จะได้รับการลดหย่อนภาษี 30% สำหรับการลงทุนสูงสุด 150,000 ยูโรหรือ 5.7 ล้านบาทต่อปี
ส่วนประเทศไทย นายปริวรรต วงษ์สำราญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมและศูนย์วิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย (Startup Thailand Center) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า นักลงทุนที่เป็น Angel Investor ระดับ early stage มีจำนวนน้อยลง และเลือกที่จะลงทุนในสตาร์ตอัประดับซีรีย์ต่างๆ เยอะขึ้น และเม็ดเงินที่ใช้ในการลงทุนสูงระดับร้อยล้านบาทขึ้นไป รวมถึงต้องสร้างรายได้กลับมา 10 - 80 ล้านบาทต่อปี ถึงจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนว่า การลงทุนในสตาร์ตอัปเหล่านี้ไม่ใช่การหลอกลวง
เพราะหลายปีที่ผ่านมา สตาร์ตอัปไทยที่เหมือนมีวี่แววจะสำเร็จก็หายจากตลาดไปเยอะมาก หรือขายกิจการให้บริษัทใหญ่และไปเปิดธุรกิจใหม่ๆ กันเยอะ ความเชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนเหล่านี้จึงน้อยลงทุกที
ดังนั้น NIA จึงต้องปูทางความมั่นคงของกลุ่มสตาร์ตอัปด้วยการปั้นสตาร์ตอัปกลุ่มใหม่ๆ ขึ้นมา เช่นกลุ่ม AI, iOT, Cloud เพราะสามกลุ่มนี้ยังขาดแคลนมาก และปีหน้าจะเพิ่มทักษะทั้ง Upskill และ Reskill เรื่องดิจิทัลให้มากขึ้น เพราะไทยยังขาดโปรแกรมเมอร์อีกเยอะ และการต่อยอดเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นสิ่งที่ภาครัฐในไทยควรเร่งทำเพื่อไม่ให้ตกขบวนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ของประเทศ
ที่มา : Techcrunch
Pic : unsplash
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
