Zero to Hero นวัตกรรมภายในองค์กร สู่เส้นทางธุรกิจใหม่จาก เอพี ไทยแลนด์

คุณมิ่ง - วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงาน Corporate Strategy and Creation บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาเล่าถึงวิธีการบ่มเพาะพนักงานให้มีไอเดียในการสร้างโปรดักส์ใหม่สู่ตลาด ในเซสชั่น From Zero to Hero ในงาน CREATIVE TALK Conference 2023 ว่า 

เอพี เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้ถึงหลักหมื่นล้านบาทก็จริง แต่ก็มีปัญหาในเรื่องของไอเดียนอกกรอบ แม้ซีอีโอใหญ่ของเราก็เรียกว่าเริ่มต้นธุรกิจแบบสตาร์ทอัพ แต่เมื่อเป็นธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับกับเทคโนโลยี ChatGPT AI สิ่งเหล่านี้ เราอาจไม่ได้เก่งมาแต่ต้น

คนที่จะมา Pitch งานกับเอพี ต้องเป็นคนที่รู้จักธุรกิจของเอพีได้ดี เนื่องจากเรามีข้อมูลของลูกค้าเยอะมาก เราก็ต้องการสตาร์ทอัพมาช่วยในการแก้ไขปัญหาของลูกบ้านในแง่มุมต่างๆ ขณะเดียวกันเราก็ช่วยเหลือสตาร์อัพในมุมของการเป็นพี่เลี้ยง ตั้งแต่ขั้นของการเซ็ตอัปไอเดีย ให้คำปรึกษา ให้เครื่องมือต่างๆ แถมให้เงินเดือนด้วย

ดังนั้น เอพี จึงได้สร้างระบบภายในองค์กรที่เรียกว่า ‘Zero to Hero’ ขึ้นมา เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ใน 4 ขั้นตอน

1. SET UP
2. IDEATION
3. VALIDATION
4. SCALE

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

• เอพี ไทยแลนด์ ตอกย้ำบทบาทแบรนด์ เอ็มพาวเวอร์ ประกาศคำมั่นสัญญาครั้งสำคัญ
• สยามเอพีทีคว้าแชมป์ สมัยแรก “อุตสาหกรรม คัพ ครั้งที่ 8”
• เศรษฐา ทวีสิน ประวัติ นักธุรกิจอสังหาฯหมื่นล้าน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย

เป้าหมายในการสร้างนวัตกรรม

คำว่านวัตกรรมเป็นคำพูดที่ค่อนข้างทั่วไป ในเป้าหมายของเอพีซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความ conventional มองเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ซึ่งลูกค้าจะมองเรื่อง "นวัตกรรม" ประกอบกับ "รูปแบบธุรกิจ" ด้วย

ทั้งนี้ จุดแข็งของเอพีคือ หล่อหลอมหาความคิดสร้างสรรค์ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นตัวที่จะทำให้เกิดนวัตกรรมขึ้นมาได้

ความท้าทายของ เอพี คือแง่ของการทำ Internal Starup ภายในองค์กรใหญ่ที่มีหลายพันคน เรียกว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่เราก็ต้องมองหาคนที่เหมาะสมเช่นกัน ผ่านกระบวนการดังนี้ 

ขั้นตอนของการ SET UP

• ตระหนักไว้เสมอ การสร้างโปรดักส์อะไรขึ้นมา ต้องมีความชัดเจนเรื่องเป้าหมาย เพื่อสร้าง Passion ให้ตรงกับสิ่งที่นักลงทุนมองหา
• การสร้างทีมเวิร์ก จะต้องตั้งทีมจากคนเก่งจากแต่ละด้านมารวมกัน ใครมีความสามารถในการจัดการด้านไหน จะได้รับผิดชอบหน้าที่ตนเองได้ดี
• สร้าง Ecosystem ในการสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการหาคนมาช่วยแนะนำ หรือหาทีมบริหารมาช่วยส่งเสริมด้านความคิด

IDEATION

• พัฒนาโปรดักส์ด้วยความเข้าใจและตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
• ควรแนะนำให้ลูกค้ารู้จักกับนักลงทุน มีปัญหาตรงไหนที่จะต้องแก้ไข และพัฒนาให้ไปต่อได้

VALIDATION

• ช่วงของการปูโครงสร้างผลิตโปรดักส์ จะมีส่วนช่วยในเรื่องของการวางแผนการพัฒนาเป็นช่วง ๆ เพื่อเป็นจังหวะในการปรับแผนให้เหมาะสม
• วางกรอบเวลาให้ชัด ว่าจะสามารถปล่อยสินค้าออกมาให้ได้ภายใน 1 ปี เช่น กรอบเวลาในแง่ของข้อมูล พัฒนา วางแผน 6 เดือน และเริ่มปล่อยตัวสินค้าเพื่อทดลองตลาดในอีก 4 เดือนหลัง

SCALE

• หลังปล่อยสินค้าออกมาทดลองตลาดแล้ว จะทำอย่างไรให้คนยอมเป็น ‘ผู้ใช้งาน’
• สร้าง Business Model เพื่อหาตลาดให้สินค้าได้ทดลอง
• อย่าเพิ่งคิดเรื่องของรายได้หรือมูลค่าของสินค้าให้สูงจนจับต้องไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ไม่ฟรี เพราะโปรดักส์จะดูมีคุณค่า เมื่อผู้ใช้จ่ายเงินให้ แต่ก็ต้องไม่แพงจนตั้งตัวได้
• อ่านคอมเมนท์ เพื่อปรับปรุง ดูผลการเติบโต และตัดสินใจแก้ไขในขั้นตอนต่อไป 

การปลดปล่อยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ออกมา กรอบที่ยากที่สุดสำหรับสตาร์ทอัพในองค์กร คือ สวัสดิการ เพราะเอพีจะให้ทั้งเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ แถมด้วยเงินก้อน แม้คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องยิบย่อยพวกนี้ แต่คุณก็ต้อง "อิน" และเต็มที่กับการสร้างสรรค์โปรดักส์ให้เกิดขึ้นและมีผู้ใช้งานด้วย