สะพัด! LINEMAN Wongnai เข้าซื้อกิจการ Foodpanda ในไทย 3,400 ล้านบาท
Bloomberg ปล่อยข่าวออกมาว่า LINEMAN Wongnai แพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการ Foodpanda ในประเทศไทยจาก Delivery Hero แอปส่งอาหารสัญชาติเยอรมัน ขณะที่ทีมงานในไทยยังอุบเงียบ
ภายในเนื้อข่าวยังระบุด้วยว่าก่อนหน้านี้ LINEMAN Wongnai เคยพิจารณาที่จะเข้าซื้อ Foodpanda ในมูลค่า 3,478 ล้านบาท ก่อนจะมีการปรับราคาลงมาเหลือ 3,400 ล้านบาท เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ตลาดขนส่งอาหารในไทยเริ่มซบเซา
ทีมข่าว SPRiNG News ได้สอบถามไปทาง LINEMAN Wongnai แล้ว และทางบริษัทฯ กล่าวว่า ยังไม่พร้อมให้รายละเอียดใดๆ เพราะต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับข่าวนี้จากทางฝ่ายบริหารก่อน
ทั้งนี้ Foodpanda เป็นแพลตฟอร์มขนส่งอาหารเจ้าแรกในไทย ที่ให้บริการครอบคลุมครบทั้ง 77 จังหวัด การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ คาดว่าจะกระทบกับภาพรวมตลาดส่งอาหารในไทยเพราะจะทำให้คู่แข่งในตลาดลดลง
และการควบรวมกิจการระหว่างเบอร์ 2 และเบอร์ 3 ยิ่งส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของ Lineman Wongnai ใกล้เคียงกับคู่แข่งเบอร์ 1 อย่าง Grab มากขึ้นไปอีก
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
- แอปพลิเคชั่น LINEMAN Wongnai ได้เผยตัวเลขดัชนีราคาอาหารจานเดียว พุ่ง 6.7%
- สรุปให้ ทวิตเตอร์เดือดแห่ #แบนfoodpanda ติดเทรนด์ ปมไรเดอร์ร่วมชุมนุม
- ไรเดอร์โอดตัดพ้อ “ผมผิดอะไร” หลังแอดมินตอบแรง ทำกระแส #แบนFoodpanda พุ่ง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดส่งอาหารในไทย เมื่อปี 2020 พบว่า Foodpanda มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 23% และ Lineman Wongnai ครองส่วนแบ่งตลาด อยู่ที่ 20% เป็นรอง Grab ที่เป็นเจ้าใหญ่ มีส่วนแบ่งประมาณ 50%
จากตัวเลขดังกล่าว สะท้อนให้เห็นภาพชัดว่า หากมีการควบรวมกิจการจริง จะทำให้ Lineman Wongnai มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นแตะ 43% กลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญที่ไล่ตาม Grab มาแบบหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว
โดยก่อนหน้านี้ Niklas Oestberg ซีอีโอของ Delivery Hero เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแข่งขันในตลาดเดลิเวอรี่ไว้ว่า
"แม้บริษัทจะมีความสามารถทางการแข่งขันระดับสูง อย่างเช่นในมาเลเซีย และ ฟิลิปปินส์ แต่สำหรับบางประเทศที่บริษัท ไม่ได้มีความสามารถทางการแข่งขันเป็นอันดับ 1 ทางบริษัทก็วางแผนที่จะขายกิจการในประเทศเหล่านั้นออกไป ตามแผน เพื่อเร่งให้บริษัทสามารถมีกำไรได้ ภายในปี 2023 นี้"
อย่างไรก็ตาม Foodpanda ในประเทศไทย ยังคงมีหนี้สินระดับ 12,000 ล้านบาท และปีที่แล้ว ขาดทุนอยู่เกือบ 5,000 ล้านบาท จากหลายกรณีที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แม้จะมีการค้นหาผู้บริหารมือฉมังในไทยมาช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์และช่วยเรียกความเชื่อมั่นจากไรเดอร์ในกรณีต่างๆ
ที่มา : Bloomberg
