svasdssvasds

iPhone 15 อาจจำกัดความเร็ว USB Type-C ให้ช้าเท่ากับ USB 2.0 เมื่อ 20 ปีที่แล้ว

iPhone 15 อาจจำกัดความเร็ว USB Type-C ให้ช้าเท่ากับ USB 2.0 เมื่อ 20 ปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์มอง iPhone 15 อาจจำกัดความเร็วการส่งข้อมูลผ่าน USB Type-C ให้เท่ากับเทคโนโลยีเมื่อ 20 ปีที่แล้ว หลังถูกกฎหมาย EU บังคับให้หัวชาร์จเป็นหัวไทป์ C

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ ออกมาคาดการณ์ความเร็วในการส่งข้อมูลของ iPhone 15 ที่คาดว่าจะเปลี่ยนหัวชาร์จเป็น USB Type-C เมื่อ พ.ย. ปีที่แล้ว ไว้ว่า ไอโฟน 15 รุ่นล่างอย่าง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus จะถูกจำกัดความเร็วการส่งข้อมูลของหัวชาร์จอยู่ที่ USB 2.0 สูงสุด 480 Mbps ซึ่งเป็นความเร็วเดียวกับ Lightning บน iPhone ที่มีอยู่

ทีม SPRiNG Tech เชื่อว่า iPhone 15 ที่จำกัดความเร็วในการส่งข้อมูลในรุ่นล่างถูกวิเคราะห์จากการที่ Apple ใช้ความเร็วในการส่งข้อมูลที่ช้าเท่ากับ USB 2.0 ใน iPad ปี 2022 แม้จะเปลี่ยนหัวชาร์จเป็น USB Type-C แล้วก็ตาม แต่กลับให้ความเร็วที่สูงขึ้นมาใน iPad รุ่นที่สูงขึ้นมา อย่าง iPad Pro ที่ออกในปีเดียวกัน

ความเร็วระดับ USB 2.0 นี้ ใช้ความรู้สึกเหมือนย้อนวัยไป 20 ปี

USB 2.0 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2000 หรือ 23 ปีที่แล้ว (ส่วน USB Type-C เป็นประเภทของหัวเสียบ) มันเป็นชื่อเรียกของเทคโนโลยีที่ใช้ในการส่งข้อมูลที่เร็วขึ้น ซึ่งสามารถส่งข้อมูลได้สูงสุด 480 Mbps นั่นหมายความว่าไฟล์ใหญ่ หรื่อหากต้องการคัดลอกข้อมูลจำนวนมากก็ต้องใช้เวลามากขึ้นตามไปด้วย 

โดย USB 2.0 ถูกพัฒนามาเป็น USB 3.0 เมื่อปี 2008 ซึ่งมีความเร็วมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า หรือราว 5 Gbps (1000 Mbps เท่ากับ 1 Gbps) และโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์หลายรุ่นก็ใช้เทคโนโลยีนี้ในโทรศัพท์มือถือหลายรุ่นมาระยะหนึ่งแล้ว จนมาถึง USB 3.2 ที่สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 20 Gbps

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

 

Ming-Chi คาดการณ์ไว้ว่า iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max จะรองรับการส่งข้อมูลให้เร็วระดับ USB 3.2 ซึ่งความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดจะอยู่ที่ 20 Gbps หรือ Thunderbolt 3 (หน้าตาเหมือน Type-C แต่มีเทคโนโลยีของ Apple ผสมเข้าไป) ซึ่งความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดจะอยู่ที่ 40 Gbps เป็นอย่างน้อย

สาย Apple Type-C

ความเร็วในการส่งข้อมูลของ iPhone 15 แต่ละรุ่น ที่คาดการณ์ไว้

  • iPhone 15 Pro Max เป็นพอร์ต USB 3.2 or Thunderbolt (อาจส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 20 ถึง 40 Gbps)
  • iPhone 15 Pro เป็นพอร์ต USB 3.2 or Thunderbolt (อาจส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 20 ถึง 40 Gbps)
  • iPhone 15 Plus เป็นพอร์ต USB 2.0 (อาจส่งข้อมูลเร็วสูงสุดเพียง 480 Mbps)
  • iPhone 15 USB เป็นพอร์ต 2.0 (อาจส่งข้อมูลเร็วสูงสุดเพียง 480 Mbps)

สำหรับ iPad และ Mac รุ่นปัจจุบันทั้งหมดมีพอร์ต USB-C ที่มีความเร็วต่างกันอยู่แล้ว ดังนี้

  • เครื่อง Mac รุ่นปัจจุบันทั้งหมด เป็นพอร์ต Thunderbolt (ส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 40 Gbps)
  • iPad Pro (2021 - 2022) เป็นพอร์ต Thunderbolt (ส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 40 Gbps)
  • iPad Pro (2018 - 2020) เป็นพอร์ต USB 3.1 Gen 2 (ส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 10 Gbps)
  • iPad Air (2022) เป็นพอร์ต USB 3.1 Gen 2 (ส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 10 Gbps)
  • iPad Air (2020) เป็นพอร์ต USB 3.1 Gen 1 (ส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 5Gbps)
  • iPad mini (2021) เป็นพอร์ต USB 3.1 Gen 1 (ส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 5Gbps)
  • iPad (2022) เป็นพอร์ต USB 2.0 (ส่งข้อมูลเร็วสูงสุด 480 Mbps)

ความเร็วที่สูงขึ้น หมายถึงมันจะช่วยให้ถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายชาร์จที่เป็นหัว USB Type-C หรือสายที่หัวเดียวกันบนเทคโนโลยี Thunderbolt ของ Apple ได้เร็วขึ้น เมื่อส่งออกรูปภาพจาก iPhone ไปยัง Mac

จะออกสายถักใหม่ สวยแต่ช้า ใครอยากได้สายแรง ๆ ต้องควักเพิ่ม

ขณะที่มีการคาดการณ์จากที่อื่น ๆ อีกว่า Apple จะเพิ่มสาย USB-C แบบถักใหม่ ให้กับ iPhone 15 ทุกรุ่น แต่สายเคเบิลอาจยังจำกัดความเร็วอยู่ที่ USB 2.0 ซึ่งหมายความว่าลูกค้าที่ซื้อ iPhone 15 Pro หรือ iPhone 15 Pro Max จะต้องซื้อสายเคเบิลที่มีสเปกสูงกว่าแยกต่างหากเพื่อให้มีความเร็วในการใช้งานมากขึ้น

อ้างอิง : Macrumors

related