SHORT CUT
บลูบิค เผยเทคโนโลยี AI มาแรง ธุรกิจของไทยพร้อมลงทุนใช้งาน แต่ต้องเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมก่อนทั้งดาต้าและระบบหลังบ้าน ทั้งยังเตือนเรื่องความปลอดภัยจากการใช้ข้อมูลของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทยังมีกำไรและรายได้ที่ดีจากธุรกิจหลัก โดยรายได้ใหญ่ๆ มาจากการให้บริการทางด้านดิจิทัลอย่างการทำดิจิทัลแพลตฟอร์ม ความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และการเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ รวมทั้งการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
ทั้งนี้ เทรนด์เทคโนโลยีอย่าง AI ก็เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงธุรกิจจากแบบเดิมให้ลดขั้นตอนการใช้แรงงานคนและใช้หุ่นยนต์แทน
Gartner ระบุว่าเม็ดเงินลงทุนด้านเทคโนโลยีทั่วโลกจะแตะ 5.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2566 เห็นได้จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เข้ามามีอิทธิพลต่อการทำธุรกิจและดำเนินชีวิตของมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ภาพรวมของ Technology Landscape ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ปัญญาประดิษฐ์กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจยุค Digital-First World เช่น Generative AI ที่กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทำงาน เครื่องมือ (Tools) ใหม่ ๆ ที่เข้ามายกระดับประสบการณ์ใช้งานและรองรับการเชื่อมต่อ Digital Ecosystem ของ Super App
ขณะเดียวกัน ก็ยังมีภัยคุกคามไซเบอร์ที่ต้องกังวลอย่างต่อเนื่องเพราะเสี่ยงสร้างความเสียหายต่อธุรกิจและบุคคลทั่วไป
องค์กรยุคใหม่จึงจำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์ และยืดหยุ่นสูงเพื่อรองรับเทรนด์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
แกนหลักการทำธุรกิจที่จะช่วยให้องค์กรรับมือกับความปลอดภัยอย่างรวดเร็วตามหลักความยั่งยืน ESG ประกอบด้วย
โดยทั้ง 4 แกนหลักที่มีการนำ AI มาใช้งานนั้น จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น
นอกจากนี้การสร้าง Digital Ecosystem อาทิ Super App ให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคตจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ลูกค้า ดังนี้
Event-Driven Nano Architecture (EDNA) เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ที่ประกอบด้วยนาโนเซอร์วิส (Nano services) ที่แยกออกจากกัน ซึ่ง EDNA มีจุดเด่นที่ความยืดหยุ่น สามารถพัฒนาบริการในแต่ละส่วนงานระดับเล็ก รวมถึงปรับเพิ่มและลดขนาดการใช้ทรัพยากรได้อย่างอิสระกว่า Microservice ของ Event-Driven Architecture (EDA) และไม่กระทบบริการอื่น
Generative Cybersecurity AI: เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้งาน Generative AI เช่น การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลรั่วไหล และช่องโหว่การโจมตี เป็นต้น โดยใช้ Autoregressive Generative Large Language Models (LLMs) เป็นประโยชน์ต่อการสร้าง Security Use Cases
AI-Enhance Security Operations ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งเพื่อวิเคราะห์ ค้นหา ไวรัสมัลแวร์ และนำเสนอวิธีการรับมือกับเหตุการณ์นั้น ๆ ทำให้องค์กรสามารถป้องกันและจัดการกับปัญหาได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
นอกจากนี้ ในเรื่องของความยั่งยืนด้วยการใช้เทคโนโลยีหรือที่เรียกว่า AI for Sustainability คือ การใช้ AI ช่วยปรับปรุงระบบการดำเนินงานและจัดการกระบวนการที่เป็นอุปสรรคต่อการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและใช้โมเดล AI ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สำหรับปี 2567 แม้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของภาคธุรกิจ แต่ความต้องการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันยังเติบโต เพราะการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมต้องทำอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์เทรนด์การทำธุรกิจรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่าย พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ปรับแผนการดำเนินงานเพื่อให้สอดรับกับการพิจารณาใช้งบประมาณที่เคร่งครัดมากขึ้นของลูกค้า ขณะเดียวกันก็สามารถสร้างการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ด้วยเช่นกัน
โดยแนวโน้มการลงทุนด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันทั่วโลกยังเติบโตถึง 10% หรือราว 2.51 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าผลประกอบการปี 2567 สามารถโต 50% ตามเป้าหมายที่วางไว้
ด้านผลประกอบการปี 2566 โตกว่าเป้า มีกำไรสุทธิ 303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) และรายได้อยู่ที่ 1,313 ล้านบาท โตขึ้น 133%
นอกจากนี้ บริษัทยังเข้าถือหุ้นใน Innoviz เพิ่มเติมจาก 55% เป็น 85% ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ด้านเหตุผลการลงทุนเพิ่มนั้นเป็นเพราะอินโนวิซทำกำไรได้สูงถึง 50 ล้านบาท การเข้าถือหุ้นเพิ่มทำให้บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม