svasdssvasds

ตำรวจเตือน "หลอก (โอน) ไม่พัก รักวาเลนไทน์" พบผู้เสียหายมากที่สุด

ตำรวจเตือน "หลอก (โอน) ไม่พัก รักวาเลนไทน์" พบผู้เสียหายมากที่สุด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งเตือนประชาชนวันวาเลนไทน์ ให้ระวังกลโกงบนโลกออนไลน์ พบคดีประเภทหลอกให้รักแล้วโอนเงินหรือ Romance Scam เจอผู้เสียหายเพิ่มขึ้นไม่หยุด มูลค่ารวมกว่า 476 ล้านบาท

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สถิติการรับแจ้งความออนไลน์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 17 มี.ค. – 31 ธ.ค.2566 พบว่า คดีออนไลน์ประเภท หลอกให้รักแล้วโอนเงิน หรือ Romance Scam มีจำนวนคดีมาเป็นอันดับที่ 10 ที่ 1,435 คดี มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 476 ล้านบาท

และคาดการณ์ว่าช่วงวันวาเลนไทน์ หรือ 14 ก.พ.2567 จะเป็นวันที่ทุกคนแสดงออกถึงความรัก อาทิ การส่งของขวัญ เงิน นัดรับประทานอาหารค่ำ ถือเป็นจังหวะที่ดีของมิจฉาชีพในการหลอกลวงคนบนโลกออนไลน์

กลโกงหลอกให้รักระบาดหนัก

รูปแบบการหลอกลวงที่น่ากังวล

รูปแบบการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ แบบ Romance Scam ที่ยังคงเป็นภัยที่น่ากังวลในช่วงวันวาเลนไทน์ มี 6 ประเภท ได้แก่

  1. “หลอกให้รัก หวังเอาเงิน” ใช้ภาพของบุคคลหน้าตาดี มีฐานะ หรือภาพที่สร้างขึ้นจาก AI เข้ามาขอเป็นเพื่อนหรือทักมาในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสานสัมพันธ์ จากนั้นจะหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากผู้เสียหาย
  2. “หลอกให้รัก ชวนลงทุน(ปลอม)” ทักมาเพื่อชวนลงทุนและอ้างว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการนำเงินไปลงทุนได้ผลตอบแทนสูง และชวนให้ผู้เสียหายลงทุนร่วมกัน
  3. “หลอกให้รัก ชวนถ่ายคลิป” กลุ่มมิจฉาชีพที่ชวนให้เหยื่อวิดีโอคอลหรือถ่ายคลิปลามก ส่งให้กับคนร้ายและให้เหยื่อนำเงินมาแลกกับการลบคลิป
  4. “มารความรัก หลอกขายของ” หลอกขายของในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ด้วยราคาที่ถูกเกินจริง เพื่อล่อลวงให้เหยื่อสั่งซื้อสินค้า
  5. “มารความรัก หลอกจองร้านอาหาร” มิจฉาชีพที่อ้างเป็นร้านอาหารจัดโปรโมชันช่วงเทศกลาลวันวาเลนไทน์ และหลอกล่อให้เหยื่อจ่ายเงินค่ามัดจำเพื่อสำรองโต๊ะ 
  6. “มารความรัก หลอกจองที่พัก” สร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ปลอม แอบอ้างเป็นโรงแรมที่พักต่าง ๆ จัดโปรโมชันพิเศษหลอกล่อให้เหยื่อจ่ายเงินค่ามัดจำเพื่อสำรองที่พัก

วิธีป้องกันตนเองจากกลโกงออนไลน์

การหลอกลวงบนโลกออนไลน์แบบหลอกให้รัก หรือ Romance Scam จำเป็นต้องรู้ให้ทันและไม่ยินยอมให้ข้อมูลแก่สาธารณะหรือเปิดเผยในแง่มุมส่วนตัวมากๆ แก่บุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ โดยทำตามแนวคิดนี้

  • ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้กับคนที่เพิ่งรู้จัก เช่น ที่อยู่ หรือสถานที่ทำงาน
  • หลีกเลี่ยงการพบกันตามลำพังในที่ลับตาคน ควรมีเพื่อนหรือคนสนิทไปด้วย หรือนัดพบเจอกันในที่สาธารณะ
  • ตรวจสอบประวัติเบื้องต้น โดยการนำชื่อหรือรูปภาพไปค้นหาในโลกออนไลน์
  • อย่าไว้ใจ หรือเชื่อใจใครง่ายๆ หากมีอะไรที่น่าสงสัย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นสิ่งผิดปกติ
  • หมั่นอัพเดทข้อมูลข่าวอาชญากรรมอยู่เสมอ เพื่อให้รู้เท่าทันอาชญากร

หากสงสัยว่าตนเองกำลังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์ สามารถปรึกษาได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ถ้ามีการโอนเงินหรือกำลังเป็นผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com สามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่ www.pctpr.police.go.th

 

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

related