รวมรหัสผ่านยอดแย่ ปี 2024 แล้ว ใครยังใช้อยู่ รีบเปลี่ยนด่วน
ตัวเลข 123456 ยังคงรั้งอันดับ 1 ของพาสเวิร์ดยอดแย่เป็นปีที่ 2 ตามมาด้วย admin ที่มาแรงแบบไม่ติดโผเดิม ส่วน 123456789 ตกจากอันดับ 2 ไปสู่อันดับที่ 4 และ password ตกไปอันดับ 7 สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้ออนไลน์ส่วนใหญ่ มีการปรับเปลี่ยนพาสเวิร์ดกันมากขึ้น
CNBC เผยรหัสยอดแย่ของปี 2023 ที่ผู้คนนิยมใช้งานกันมากที่สุดตลอดทั้งปี โดยตัวเลข "123456" ยังครองตำแหน่งรหัสผ่านยอดนิยมที่มีการใช้งานมากที่สุดเป็นปีที่สอง ตามมาด้วย "admin" ซึ่งถือว่าเป็นรหัสผ่านที่ไม่เคยติดอันดับมาก่อนในรอบ 5 ปี
อย่างไรก็ตาม รหัสผ่านอย่าง 123456 และ admin น่าจะมาจากการที่ผู้คนไม่อยากเปลี่ยนรหัสจากการกำหนดค่ามาตั้งแต่ต้นของระบบ
ดังนั้น ความเสี่ยงจากการโดนขโมยข้อมูลของผู้ท่องโลกอินเทอร์เน็ตและการใช้โซเชียลมีเดียจึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ
รหัสผ่านยอดนิยมของทั่วโลก
นอกจากนี้ รหัสผ่านยอดนิยม ที่ถูกใช้บนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ บัญชีอีเมล รหัสเข้าใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และบริการสตรีมมิ่ง คือ "123456"
ส่วนรหัสผ่านที่ถูกใช้งานบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย บัญชีธุรกรรมทางการเงินและรหัสเข้าใช้งานสมาร์ตโฟน คือ “UNKNOWN”
ซึ่งทั้งสองชื่อนี้ถือว่าเป็นความยอดนิยมในการใช้งานของนักท่องอินเทอร์เน็ตทั่วโลก
เมื่อส่องการใช้พาสเวิร์ดยอดนิยมของประเทศอื่นๆ ได้แก่ “Isabella” เป็นรหัสผ่านยอดนิยมในออสเตรีย ส่วน “Katerina” ยอดนิยมติดอันดับที่ 11 ในกรีซ
ส่วนการเลือกใช้ชื่อและตัวเลขรวมกัน เป็นที่นิยมมาก ได้แก่ “Flores123” มีการใช้งานมากเป็นอันดับที่ 5 ในเม็กซิโกและ “Kento123!” ติดอันดับที่ 17 ของการใช้งานสูงสุดในมาเลเซีย
แฟนบอล-ตัวเลข ติดอันดับท็อป
รหัสผ่านยอดนิยม สำหรับคอกีฬาก็ไม่พลาดในการเอาชื่อของสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในอังกฤษอย่าง “ลิเวอร์พูล” “อาร์เซนอล” และ “เชลซี” มาใช้งานกันมากเป็นอันดับที่ 4, 6 และ 10 ตามลำดับ
ส่วนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศจีน ที่มีการท่องอินเทอร์เน็ตมากที่สุด นิยมใช้ตัวเลข อย่าง 123456 มากที่สุด ตามมาด้วย 111111, 000000 และ 12345678 ก็มีการใช้งานมากไม่แพ้กัน
ทางด้านของฝั่งสหรัฐอเมริกา นิยมใช้คำหยาบคายอย่าง "Shitbird" มาเป็นรหัสผ่านยอดแย่มากที่สุดเป็นอันดับที่ 16
เคล็ดลับการตั้งรหัสผ่านที่ดี
- มีความยาวอย่างน้อย 20 ตัวอักษร
- มีตัวอักษรพิมพ์ใหญ่
- มีตัวอักษรพิมพ์เล็ก
- มีสัญลักษณ์พิเศษ
- งดการใช้ข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเดือนปีเกิด ชื่อหรือคำทั่วไป
ทั้งนี้ ไม่ควรใช้รหัสผ่านเดียวกันสำหรับการเข้าใช้งานบัญชีต่างๆ ที่มากกว่า 1 เว็บไซต์ หรือเปลี่ยนไปใช้รหัสผ่านด้วยวิธีอื่นๆ อย่างสแกนลายนิ้วมือ สแกนใบหน้าหรือปักหมุดเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์หรือแอปพลิเคชัน
ที่มา : CNBC
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
