บทสรุป MITCON2024 - นักการตลาดยุคใหม่ต้องเปลี่ยนจาก Guess Work เป็น Best Work
บทสรุปจากงาน MITCON2024 งานสำหรับนักการตลาดยุคใหม่...การตลาดยุคใหม่ 1+1 ต้องมากกว่า และเปลี่ยนจาก Guess Work ให้เป็น Best Work
จบกันไปแล้วกับงาน AP Thailand Presents MARKETING INSIGHT & TECHNOLOGY CONFERENCE 2024 (MITCON2024) ณ BITEC จัดโดย CREATIVE TALK และ Content Shifu ภายใต้ธีม “The Age of Integration” งานที่จะผนึกกำลังคน, แบรนด์, องค์กร, เครื่องมือ, แพลตฟอร์ม มาเจอกันเพื่อสร้างโอกาสและผลลัพธ์ทางการตลาดใหม่ๆ
[ MITCON2024 งานที่กระแสตอบรับดีเยี่ยม!]
งานในปีนี้ได้รับเสียงตอบรับจากนักการตลาดยุคใหม่กว่า 4,000 คนที่มาร่วมงาน ผสมผสานไปด้วย Sponsor, Collaborator, Supporter, Booth ต่าง ๆ รวม 76 องค์กร และ Media Partner อีก 84 สื่อด้วยกัน
สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม CEO and Founder at RGB72 and CREATIVE TALK ให้ความเห็นว่า นักการตลาดแห่งอนาคตต้องเปลี่ยนจากงานที่เป็น จากเดิมที่ใช้ความรู้สึกในการทำงาน ต้องเปลี่ยนมาผสมผสานนำเทคโนโลยีและอินไซต์เข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อให้งานหลังจากนี้กลายเป็น 'Best Work' ที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ งาน MITCON2024 ปีนี้จึงมาพร้อมหัวข้อที่หลากหลาย ที่ผู้ฟังสามารถนำความรู้ไปใช้ต่อได้จริงทั้งในเชิงเทคนิค กลยุทธ์ และกรณีศึกษาจากแบรนด์ต่าง ๆ มากมาย
ขณะที่ สิทธินันท์ พลวิสุทธิ์ศักดิ์ CEO of Content Shifu ได้กล่าวเสริมอีกว่า ยุคนี้ อยากไปเร็ว ไปคนเดียว อยากไปไกล ไปด้วยกัน อยากไปเร็วและไกล ต้องไปด้วยกันกับคนที่ใช่” คือนักการตลาดแห่งโลกอนาคตจะต้องงัดเอาจุดเด่น และผสานพลังกับคนอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเพื่อให้ 1+1 เป็นมากกว่า 2
เนื้อหาภายในงานมีทั้งเรื่องของ Digital Strategy, Marketing Trends, AI & Automation, Branding, Advertising & Promotion, Customer Experience และ Data และมีเกร็ดความรู้ 7 เทรนด์การตลาดดิจิทัลที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับปี 2025
7 เทรนด์การตลาดที่ต้องเตรียมพร้อมสำหรับปี 2025
1. Omni-Channel Integration ยังคงเป็นเป็นที่ต้องการสำหรับทำการตลาดให้ Seamless มากขึ้น
2. Communication กำลังจะ Over แต่สิ่งที่ยั่งยืนคือ Conversation ที่ไม่ใช่การสื่อสารทางเดียว แต่มีการโต้ตอบกันระหว่างแบรนด์และลูกค้าด้วย
3. Consumer อยากเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์และสามารถพูดแทนเราได้ด้วย Communication ยุคนี้จึงไม่ควรทำแค่แคมเปญ Promote อย่างเดียว แต่จะทำยังไงให้เขาเข้ามาอยู่ใน Business Chain ของเราได้ด้วย
4. การเก็บ Data จะทำได้ยากขึ้น สิ่งที่องค์กรต้องทำคือการเก็บ First-party Data เป็นของตัวเอง โดยสร้าง Clients' Database และย้ายมายัง Owned Channels
5. ทุกคนต้องการสิ่งที่ต้องการ ณ ตอนนั้นเลย แบรนด์ต้อง Feed มันเข้ามาให้ถูกเวลาและถูกที่เพื่อตอบสนองความต้องการนั้นให้ได้ (Anytime, Anywhere, Any Device)
6. Key Considerations สำหรับตลาดไทย ในปี 2024-2025 คือการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (Trust) โดยต้องใส่ความเป็นตัวเราเข้าไป และยังต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน ซึ่งอาจใช้เทคโนโลยีหรือ AI เข้ามาช่วย
7. TX (Total Experience) จะเข้ามาแทนที่ CX (Customer Experience) คือไม่ใช่แค่ Customers แต่รวมถึง Users ทั้งหมดซึ่งหลังจากนี้อาจจะไม่ใช่แค่คน แต่วันหนึ่งเราอาจจะได้ทำงานกับบอท กับ AI กันด้วย
