svasdssvasds

ธ.กรุงเทพ ทรานส์ฟอร์มดิจิทัล ลุ้นจับมือ BTS ตั้ง Virtual Bank ก.ย.นี้

ธ.กรุงเทพ ทรานส์ฟอร์มดิจิทัล ลุ้นจับมือ BTS ตั้ง Virtual Bank ก.ย.นี้

ชาติศิริ โสภณพนิช พร้อม นำ ‘แบงก์กรุงเทพ’ ทรานส์ฟอร์ม สู่ดิจิทัล และแบบนี้ มีโอกาสที่ BBL ได้ลุ้นร่วมวง ‘บีทีเอส‘ เป็นอีกเจ้าหนึ่ง ที่ยื่นขอไลเซนส์ ตั้ง Virtual bank ก.ย.นี้

SHORT CUT

  • ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดรับสมัครใบอนุญาตตั้งธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) จำนวน 3 ราย ภายในวันที่ 19 ก.ย. 2024  มีผู้สนใจชิงใบอนุญาตหลายราย 
  • รวมถึงกลุ่ม BTS ที่อาจร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ และกลุ่มอื่นๆ เช่น SCB X, กรุงไทย-AIS-กัลฟ์ และเครือ CP
  • อย่างไรก็ตาม ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ไม่ยืนยันการร่วมมือกับ BTS แต่กล่าวว่าธนาคารพร้อมปรับตัวสู่ดิจิทัลมากขึ้น 

ชาติศิริ โสภณพนิช พร้อม นำ ‘แบงก์กรุงเทพ’ ทรานส์ฟอร์ม สู่ดิจิทัล และแบบนี้ มีโอกาสที่ BBL ได้ลุ้นร่วมวง ‘บีทีเอส‘ เป็นอีกเจ้าหนึ่ง ที่ยื่นขอไลเซนส์ ตั้ง Virtual bank ก.ย.นี้

ทำความเข้าใจ กรอบเวลา การขอ ใบอนุญาตการตั้งธนาคารไร้สาขา ในไทย

เรื่องราวของ การยื่นขอใบอนุญาตไลเซนส์ตั้งธนาคารไร้สาขา หรือ Virtual Bank ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ สำหรับประเทศไทยตอนนี้ เพราะนี่คือเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้นี้ และนี่กำลังจะเป็นสิ่งใหม่ของแวดวงดิจิทัลและการธนาคาร

โดยในช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาโค้งสุดท้าย ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดให้บริษัทต่างๆ ยื่นขอไลเซนส์ หรือ ใบอนุญาตการตั้งธนาคารไร้สาขา หรือ Virtual Bank  โดยกรอบเวลาของเรื่องนี้ที่วางไว้ คือตั้งแต่ 20 มี.ค. 2024 และกำลังจะปิดฉากในวันที่ 19 ก.ย. 2024 นี้

เวลานี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. มีการเปิดเผยว่า ตอนนี้ มีภาคธุรกิจสนใจในการจัดตั้ง Virtual bank หลายราย โดยมีทั้งที่ยื่นเอกสารขอไลเซนส์มาแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมข้อมูลเตรียมความพร้อมในการยื่นไลเซนส์ก่อนที่จะถึงเดดไลน์ 19 ก.ย.67 นี้

โดยเบื้องต้น  ธปท. มีการกำหนดผู้ที่จะได้รับไลเซนส์ตั้ง Virtual Bank ไว้ที่ 3 รายช่วงแรก แม้จะมีเสียงเรียกร้องฟากกระทรวงการคลัง ที่อยากให้เปิดการให้ใบอนุญาตมากขึ้นกว่าที่กำหนดไว้  เพราะอยากให้เกิดการแข่งขันในภาคการเงิน และหวังว่าจะเอื้อให้ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น 

แต่ ฟากฝั่ง ธนาคารมองว่า การให้ไลเซนส์เพียง 3 รายนั้น ถือเป็นสิ่งที่เหมาะสม เนื่องจาก Virtual Bank ถือเป็นเรื่องใหม่อย่างมากต่อประเทศ ต่อภาคธุรกิจไทย และการกำกับดูแลของ ธปท.นั้นต้องเข้มงวดขึ้นสำหรับการกำกับ Virtual Bank ในการติดตามการทำธุรกรรม การให้บริการ ที่มากกว่าการติดตามดูแลธนาคารพาณิชย์

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดให้ ผู้สนใจยื่นขอใบอนุญาตธนาคารไร้สาขา หรือ Virtual Bank แล้ว นับตั้งแต่ ธปท. เปิดรับสมัคร 20 มี.ค.-19 ก.ย. 2567 หลังจากนั้นพิจารณาคัดเลือกในช่วง 19 ก.ย. 2567-มิ.ย. 2568 คาดประกาศผลในครึ่งแรกปี 2568 และคาดเปิดดำเนินการ Virtual Bank ในช่วง มิ.ย. 2569

ก้าวสำคัญ BTS ที่พอจะสร้างความแตกตื่นระลอกใหม่กับตลาดการเงิน 

ขณะเดียวกัน "กรุงเทพธุรกิจ" ได้วิเคราะห์สถานการณ์ การขอไลเซนส์ ตั้งธนาคารไร้สาขา ไว้ว่า เมื่อพิจารณาดูจาก ผู้ให้บริการที่ประกาศตัวเข้าชิงไลเซนส์ Virtual Bank เวลานี้ ก็นับได้ 4 รายไปแล้ว ซึ่งเกินกว่า ไลเซนส์ที่ ธปท. กำหนดว่าจะให้เพียง 3 ไลเซนส์ 

4 ผู้ให้บริการที่สนใจเข้ามาแย่งชิง Virtual Bank มีใครกันบ้าง  ที่จะพอสร้างความ Impact ตลาดการเงินคงหนีไม่พ้นกลุ่ม “บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง” หรือ BTS ที่ประกาศจับมือกับพันธมิตรยื่นขอไลเซนส์ Virtual Bank

โดยให้บริษัทลูก คือ บริษัท วีจีไอ หรือ VGI เป็นหัวหอกในการหาแหล่งเงินทุน โดยการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ถึง 4 กองทุนรวมมูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านบาท เพื่อลุยธุรกิจใหม่ 

ด้วยประสบการณ์ในการทำ “ธุรกิจการเงิน” ของ “BTS” หรือบริษัทในเครือถือว่ายังไม่ได้มากนัก หากเทียบกับเหล่าธนาคารใหญ่ๆ ที่ออกมาประกาศตัวทำธุรกิจ Virtual Bank ไปแล้ว

ดังนั้น ก้าวสำคัญหลังจากนี้คือ การเดินหน้าหาพันธมิตรให้กับกลุ่มธุรกิจ เพื่อสานต่อพันธกิจในการลุย ตั้งธนาคารไร้สาขา หรือ Virtual Bank ตามแผน

หนึ่งในนั้นที่ถูกจับตาอย่างมากคือ “ธนาคารกรุงเทพ” หรือ BBL ที่หลายคนคาดการณ์ว่า อาจเป็น “ตัวเต็ง” ที่จะผนึกกำลังกับ “บีทีเอส” ในการเข้ามาลุย Virtual Bank ครั้งนี้ ด้วยความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นของสองธุรกิจที่มีมานมนาน จากการจับมือร่วมกันในการให้บริการทางการเงินผ่านบัตรเดบิต เครดิต รวมถึงการชำระเงินผ่าน RABBIT เพื่อใช้ชำระค่าโดยสาร BTS และชำระค่าบริการในการจับจ่ายใช้สอยต่างๆ

วิเคราะห์ ธ.กรุงเทพ-บีทีเอส ยื่นใบสมัครชิงไลเซนส์ Virtual Bank มีโอกาสหรือไม่ ? 

โดย กรุงเทพธุรกิจ มีโอกาสได้พบกับ “ชาติศิริ โสภณพนิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จากการสอบถามเรื่องดังกล่าว แม้ผู้บริหารใหญ่ของธนาคารกรุงเทพ จะยังไม่ยอมรับว่าจะร่วมลงเรือลำเดียวกับ BTS  ในการตั้ง Virtual Bank แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้แบบ 100%

โดยชาติศิริ ตอบว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะร่วมกับทำ Virtual Bank หรือไม่ และธนาคารกรุงเทพไม่ได้บอกว่าจะทำหรือไม่ด้วย  และยังไม่ทราบรายละเอียดต่างๆ 

ชาติศิริ โสภณพนิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ

แต่สำหรับตัวธนาคารเอง เขามองว่าจำเป็นที่ต้องปรับตัวและ “เปลี่ยนแปลง” เพื่อมุ่งไปสู่ “ดิจิทัล” มากขึ้น ซึ่งเป็นการตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ทุกวันนี้มุ่งไปสู่ทางนี้เป็นหลักดังนั้นถึงเวลาที่ธนาคารต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนภายในองค์กรธนาคาร

นอกจากนี้มองว่า digitalization กลายมาเป็น “หัวใจสำคัญ” ของชีวิตทางการเงินของเราทุกคนไปแล้วในวันนี้

“ผมยังไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้บอกว่าเราจะทำหรือไม่ แต่เราก็พร้อมปรับปรุง และเปลี่ยนแปลง และเราต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนภายในองค์กร เพราะทุกวันนี้ digitalization กลายเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตประจำวันของคนไทยไปแล้ว สภาพตลาดก็มุ่งไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น”

ดังนั้น กรุงเทพธุรกิจ วิเคราะห์ว่า หากดูจากการให้สัมภาษณ์ ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ อาจเข้ามา “ร่วมวง” บีทีเอส ในการยื่นใบสมัครชิงไลเซนส์ Virtual Bank ก็เป็นได้ ด้วยความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และประสบการณ์ในการให้บริการทางการเงินของธนาคารกรุงเทพ ก็เชื่อว่าคงไม่เป็นรองใครในการขึ้นมาให้บริการบน “ดิจิทัล” ในอนาคต


กลุ่มผู้ชิงไลเซนส์ Virtual Bank มีใครบ้าง ? 

หากดูผู้ที่ประกาศตัวในการชิงไลเซนส์ Virtual Bank แล้วที่ผ่านมา ยังมาจาก 3 กลุ่มทุนใหญ่ คือ 

กลุ่มแรก “เอสซีบี เอกซ์” ที่เดินหน้าลุย Virtual bank เต็มกำลัง และล่าสุดได้เปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจรายที่ 3 คือ “WeBank” ธนาคารดิจิทัลชั้นนำในจีน หลังก่อนหน้านี้ ประกาศจับมือกับ ธนาคารยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ KakaoBank ไปแล้วเมื่อกลางปี 2566 ที่ผ่านมา

“เอสซีบี เอกซ์” นอกจากจะเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทย ยังพ่วงมาด้วยพันธมิตรที่มีความรู้ความสามารถอย่างมากในด้านเทคโนโลยี ที่ “เอสซีบี เอกซ์”มองว่าจะเป็นแต้มต่อในการเข้ามาช่วยเจาะฐานลูกค้าที่เข้าถึงบริการทางการเงินน้อย หรือที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น ดังนั้นการมี “ฐานลูกค้า” มากๆ อาจไม่ได้สำคัญมากนัก เพราะหากระบบมีความแข็งแกร่ง มีเทคโนโลยี และมีผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์ในการทำ Virtual Bank มาก่อนอย่าง WeBank สนามรบนี้ของ เอสซีบี เอกซ์ ก็ถือว่าแข่งขันได้สบายๆ

กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มทุนจาก ที่ผนึกกันระหว่าง “กรุงไทย-เอไอเอส-กลุ่มกัลฟ์” จากที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทย และ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF และ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ได้มีการลงนามความร่วมมือทางธุรกิจกันไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ปลายปี 2566 ที่ผ่านมาเพื่อเตรียมพร้อมตั้ง Virtual bank

กลุ่มที่ 3 คือกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ที่อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้ง Virtual bank เช่นเดียวกัน โดยแย้มว่าอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมในการยื่นไลเซนส์เช่นเดียวกัน โดยจะร่วมกับพันธมิตรในเครือที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ทั้งประสบการณ์ และฐานลูกค้าจำนวนมาก ไม่แพ้คู่แข่งรายอื่นๆ

เมื่อพิจารณาดูจากพันธมิตรในกลุ่ม “CP” ก็ถือว่ามีไม่น้อย ทั้งจากบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน “ทรูมันนี่” ซึ่งมีผู้ใช้งานไม่ต่ำกว่า 27 ล้านคน หรือ Ant Financial Services Group ในเครือ Alibaba ที่เป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก

บทสรุป

สรุปสถานกาณ์ ณ เวลานี้ การแข่งขัน การขอใบ้อนุญาตตั้ง “Virtual Bank” ในไทยนั้น จะเป็นการแข่งขันที่เข้มข้น เพราะดูจากผู้ให้บริการที่ประกาศตัวลงมาแข่งชิงไลเซนส์ ถือเป็นระดับธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศไทยทั้งสิ้น 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ 

related