SHORT CUT
ยักษ์ อี-คอมเมิร์ซจีน เริ่มพบชะตากรรม หลังเตรียมรายงานรายได้ไตรมาสล่าสุด เมื่อลูกค้าติดโปรโมชั่นลดจนอาจทำกำไรหดและเจอคู่แข่งที่ต้นทุนน้อยกว่า
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานบทวิเคราะห์หลัง 2 แพลตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซจีน ยักษ์ใหญ่ อย่าง Alibaba และ JD.com ที่เตรียมประกาศรายได้ไตรมาสล่าสุด ซึ่งจะเป็นมาตรวัดและบ่งบอกเทรนด์ตลาดอี-คอมเมิร์ซ จากตลาดการค้าขายที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยตามการประมาณการของ DBS ทั้ง 2 บริษัท มีส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซจีน ถึง 69%
ทั้ง Alibaba และ JD.com กำลังต้องเจอกับการแข่งขันที่สูงขึ้นทุกปี ทั้งจากคู่แข่งเดิมและคู่แข่งใหม่อย่าง Pinduoduo ของ PDD Holding และ Douyin (TikTok Shop) ที่ ByteDance เป็นเจ้าของ
หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอบของคนทั่วโลกชะลอตัวลง และทำให้ผู้คนระมัดระวังในการซื้อของมากขึ้น ไม่ซื้อของผ่านแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซในวันที่ไม่จัดโปรโมชั่นอีกต่อไป เพื่อรอโปรโมชั่นที่คุ้มค่าที่สุดให้ตนเอง
แม้แพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซจะมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เช่น โปรโมชั่นลดราคา แต่ปริมาณการซื้อในราคาที่ต่ำ ก็ยังทำให้กำไรของแพลตฟอร์มไม่เพิ่มขึ้น แม้พวกเขาจะพยายามส่งเสริมการขายของที่เป็นแบรนด์พรีเมียม อย่าง อุปกรณ์ของ Apple , เครื่องสำอางของ Estee Lauder และ เครื่องประดับ Tiffany & Co ก็ตาม
Cathy Lai นักวิเคราะห์จาก S&P Global มองว่า Alibaba และ JD.com ที่กำลังจะพยายามจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและรายได้ด้วยการส่งเสริมการขายของราคาถูกจำนวนมาก ๆ และของที่ไม่ใช่เค้าท์เตอร์แบรนด์ กำลังทำให้ผู้คนหันไปหาแพลตฟอร์มคู่แข่งที่ยึดจุดแข็งตรงนี้ไว้ได้
Jacques Roizen กรรมการผู้จัดการฝ่ายที่ปรึกษาประเทศจีนของ Digital Luxury Group ระบุว่า ผลของการพยายามดึงคนกันไปมาของแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ จะส่งผลให้กำไรของแบรนด์ต่าง ๆ หดลง อย่างช้า ๆ ซึ่งหากวันหนึ่งที่แพลตฟอร์มต่างยอมทุ่มเงินเพื่อให้แบรนด์พรีเมียมลดราคาลงแล้วมาแข่งขันกันด้านราคา จะหลายเป็นจุดต่ำสุดของการแข่งขันทางการตลาด
Taobao และ Tmall Group ของ Alibaba ออกแถลงการณ์ต่อบทวิเคราะห์ของ สำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า ภายใต้กลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้ใช้ จึงมีการลงทุนจำนวนมาก "เพื่อจัดหาสินค้าราคาถูกและมีคุณภาพ" มาอยู่บนแพลตฟอร์ม
ขณะที่ JD ไม่ตอบสนองต่อการขอความคิดเห็นของสำนักข่าวรอยเตอร์ แต่ปีที่ผ่านมา ทั้ง 2 แพลตฟอร์ม ระบุว่าจะใช้จ่ายเงินหลายพันล้านหยวน เพื่อมอบส่วนลดและส่งเสริมการขายในแพลตฟอร์ม
ภาพ : REUTERS/Tingshu Wang
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง