เซ็นทรัลเปิดตัว C-Verse แอปฯ โลกเสมือนจริง ให้ช้อปและรอรับสินค้าที่บ้าน

ณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจพาณิชย์ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรามองเห็นเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จึงได้วางแผน คิดค้น และสร้างรีเทลแพลตฟอร์มที่ดีที่สุด ด้วยการเปิดตัว CRC Immersive Retail Platform เป็นครั้งแรกของโลก

การเปิดตัว CRC Immersive Platform จะเริ่มต้นที่ท็อปส์คลับ สาขาพระรามสองก่อน ซึ่งจะดูสินค้าแบบ 360 องศา มีฟีเจอร์ 3 ด้านคือ

1. ประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบใหม่ที่เหนือกว่าออมนิแชแนลที่เคยมีมาดูสินค้าได้แบบ 360 องศา เสมือนเดินช้อปปิ้งอยู่ในห้างจริง
2. ใช้ AI ในการสร้างผู้ช่วยแนะนำสินค้าแบบเรียลไทม์ ว่ามีจุดเด่นอะไรให้ถามตอบได้แบบเรียลไทม์
3. เชื่อมโยงโลกจริงกับโลกเสมือนในการสร้างอวาตาร์เพื่อช้อปกับคนจริง ทั้งยังเล่นเกมและเลือกซื้อสินค้าด้วยกันได้

แผนการพัฒนา 

เราเริ่มการสร้างโลกเสมือที่ท็อปส์คลับ จะเพิ่มในบิวตี้ เวิร์ลออฟบิวตี้ ให้คนที่สนใจเรื่องความงาม ตกแต่งบ้าน เข้ามาช้อปได้ ในอนาคตอยากร่วมกับธุรกิจในเครือที่ยุโรป อยู่ที่ไหนของมุมโลกก็สามารถช้อปได้ เชื่อมไร้รอยต่อผ่าน C-Verse ได้ 

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

• Montbell แบรนด์เอาท์ดอร์ไลฟ์สไตล์สัญชาติญี่ปุ่น เปิดตัวแฟลกชิพสโตร์แห่งใหม่ เซ็นทรัลเวิล์ด
• “ห้างเซ็นทรัล” ชูกลยุทธ์เด็ด “5 IN” แผนกบิวตี้ เจาะลูกค้ารักสวยรักงาม !
• Pride Month 2023 : เซ็นทรัลเวิลด์ ประกาศความภาคภูมิใจฉลองสุดยิ่งใหญ่

ชวพล จริยวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เป้าหมายของหัวเว่ย คือการเอาดิจิทัลอินเทลิเจนซ์เข้าไปให้ถึงทุกคนและองค์กร เราต้องการสร้าง Personal Experience กับลูกค้า ให้ได้รับประโยชน์ต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน ที่ประกอบด้วย 5G , cloud, ai เป็นพื้นฐานที่ทำร่วมกับลูกค้า อีโคซิสเต็ม และพลังงานสะอาด เป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

การร่วมมือกับเซ็นทรัล รีเทล พัฒนา C-Verse นั้น ทำขึ้นบนคลาวด์ รวมทั้งการที่เรามีดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย ทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อข้อมูลสูงและความหน่วงต่ำ (retency) ลดปัญหาระบบค้าง ลูกค้าจึงใช้งานได้อย่างรวดเร็วไม่สะดุด 

โกวินทร์ กุลฤชากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายนวัตกรรม เซ็นทรัล รีเทล ดิจิทัล กล่าวเสริมว่า การพัฒนาระบบ C-Verse ครั้งนี้ เป็นการเชื่อมข้อมูลจากฐานระบบอีคอมเมิร์ซเดิมของเซ็นทรัล แต่มาตกแต่งรูปสินค้าจาก 2D เป็น 3D เพื่อเพิ่มความสวยงามให้เห็นได้แบบ 360 องศา ซึ่งตอนนี้มีสินค้าในระบบแล้วกว่า 600-800 SKU จากทั้งหมด 3,000 SKU เพราะสินค้าบางชิ้นติดเรื่องของลิขสิทธิ์ ก็ต้องมีการพูดคุยเป็นรายไป

นอกจากนี้ การพัฒนา C-Verse ขึ้นมานั้นก็เพื่อทดสอบประสบการณ์ของลูกค้าเซ็นทรัลว่าพอใจหรือไม่ หลังจากที่เราเคยประสบความสำเร็จในการทำแคมเปญ NFT เซ็นทรัลครบรอบ 75 ปี และมีลูกค้าขยายเพิ่มขึ้นกว่ากลุ่มเดิมคือเป็นกลุ่มที่อายุตั้งแต่ 14-34 ปีเพิ่มขึ้นและเป็นเพศชายถึง 50% 

อย่างที่ทราบว่าการติดตามแบรนด์หรือส่วนลดห้างสรรพสินค้าจะเป็นผู้หญิงที่ให้ความสนใจมากกว่า จึงต่อยอดมาที่การทำ Immersive ออกมา เราเชื่อมั่นว่าหลังการเปิดตัวของ Vision Pro ของ Apple จะยิ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจในเรื่องประสบการณ์สามมิติของคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังมีการเพิ่มความปลอดภัยด้วยการคัดกรองผู้ใช้งานต้องเป็นลูกค้าเดอะวันก่อน เพื่อให้ระบบสามารถกรองข้อมูลได้ตรงใจผู้เล่นมากขึ้นและสามารถจัดส่งสินค้าได้แม่นยำมากขึ้นด้วย

โดยระบบนี้ได้เริ่มพัฒนาตั้งแต่สิงหาคม 2022 และคาดว่าจะมีการดาวน์โหลดที่ 30,000 ดาวน์โหลด ส่วนจะต่อยอดไปทำอะไรต่อนั้น ต้องดูความต้องการของลูกค้าก่อนว่าจะเพิ่มสินค้าหรือแบรนด์ให้มากขึ้น หรือจะพัฒนาไปในเรื่องของความสวยความงาม ให้ลูกค้าออกแบบการแต่งหน้าที่ตนเองต้องการได้ทดลองเลือกเครื่องสำอางที่ปัดแต่งตามใจชอบ ก่อนจะไปให้ BA ที่สาขาแต่งหน้าให้จริง

การพัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมกับชีวิตจริงเหล่านี้ ก็เพื่อพัฒนาประสบการณ์ในการเดินห้างให้ไม่จบแค่การมาเดินในร้านหรือช้อปออนไลน์แล้วจบไป แต่ต้องทำทั้งสองสิ่งรวมกันได้คุ้มค่ากับความพึงพอใจของแต่ละคนให้มากที่สุด