โดยองค์กรในประเทศไทยส่วนใหญ่ เริ่มที่จะหันกลับมาจ้างงานเต็มเวลาแบบก่อนเกิดโควิด-19 และมีเพียงส่วนน้อยที่จะเลิกจ้างพนักงาน
จ๊อบส์ดีบี แพลตฟอร์มหางานชั้นนำของประเทศไทยภายใต้การบริหารของกลุ่ม SEEK ได้เปิดผลสำรวจ “แนวโน้มสถานการณ์การจ้างงาน ผลตอบแทน และสวัสดิการ ปี 2565-2566” พบข้อมูลที่น่าสนใจ
โดย 48% ขององค์กรที่สำรวจ (ส่วนใหญ่มีพนักงานมากกว่า 160 คน) พบว่า แผนการจ้างงานกลับมาที่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งองค์กรและผู้ประกอบการ มีความต้องการจ้างงานแบบเต็มเวลา
ทั้งนี้ 3 สายงานที่เป็นที่ต้องการสูงสุด โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทขนาดเล็ก คือ
อย่างไรก็ตาม องค์กรต่าง ๆ ตระหนักดีว่า ค่าตอบแทนและสวัสดิการมีความสำคัญต่อการจ้างงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
จากผลสำรวจ พบว่า ในประเทศไทย บริษัทส่วนใหญ่ที่ร่วมทำแบบสำรวจจะจ้างงานพนักงานแบบเต็มเวลา และมีเพียง 1 ใน 5 บริษัทเท่านั้น ที่เลิกจ้างพนักงานอย่างน้อยหนึ่งคน ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา สายงานที่ต้องเผชิญกับการถูกเลิกจ้างในช่วงก่อนหน้านี้ กำลังกลับมาเป็นที่ต้องการอีกครั้ง ซึ่งล้วนเป็นสายงานที่ผู้ประกอบการมักนิยมจ้างงานแบบเต็มเวลาอีกด้วย เช่น สายงานบัญชี การบริหารผลิตภัณฑ์ ธุรการและทรัพยากรบุคคล เทคโนโลยีสารสนเทศ และการบริการลูกค้า
นอกจากนี้ งานที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้าเป็นสายงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จากเทคโนโลยีการทำงานระยะไกลและวัฒนธรรมการทำงานที่ยืดหยุ่นหลังจากสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย ตำแหน่งงานส่วนใหญ่ในสายงานนี้จะได้รับการว่าจ้างแบบพนักงานชั่วคราว
นอกจากนี้ จ๊อบส์ดีบียังพบว่า บริษัทขนาดเล็กมีแนวโน้มที่จะจ้างงานพนักงานประจำแบบเต็มเวลาเพิ่มในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะสายงานการขาย/การพัฒนาธุรกิจ การบริหารผลิตภัณฑ์ และไอที
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่น่าสนใจ คือ บริษัทอย่างน้อย 3 ใน 5 บริษัท วางแผนเพิ่มแรงงานด้วยการคงจำนวนพนักงานชั่วคราวและปรับเพิ่มจำนวนชั่วโมงทำงานของพนักงานเหล่านี้แทน โดยแนวโน้มดังกล่าวส่งสัญญาณว่าบริษัทขนาดเล็กส่วนใหญ่คาดการณ์ว่ายอดขายและอุปสงค์จะเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มีบริษัทเพียง 4% เท่านั้น ที่วางแผนลดจำนวนพนักงานชั่วคราว โดยพนักงานชั่วคราวส่วนใหญ่ถูกจ้างงานในสายงานการผลิต การบริการลูกค้า และฝ่ายธุรการและทรัพยากรบุคคล เป็น 3 อันดับสูงสุด
คุณดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในขณะที่เรากลับไปสู่สภาวะก่อนเกิดโรคระบาด การแข่งขันเพื่อช่วงชิงคนที่มีความสามารถก็จะเข้มข้นขึ้นตามสภาวะโลกในปัจจุบัน บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องวางกลยุทธ์ในการดึงดูดและการรักษาบุคลากรที่มีความสามารถเพื่อที่ตัวบริษัทเองจะยังสามารถครองใจพนักงานไว้ได้ กลยุทธ์เหล่านี้รวมถึงการให้ค่าตอบแทน ผลประโยชน์ และโปรแกรมอื่น ๆ ที่จะเสริมสร้างประสบการณ์การทำงาน”
แม้ว่าการจ้างงานจากบริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะการจ้างงานพนักงานชั่วคราวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การแข่งขันเพื่อดึงดูดคนที่มีความสามารถยังคงสูง จ๊อบส์ดีบี พบว่า องค์กรที่ทำแบบสำรวจเชื่อว่า นอกเหนือจากเงินเดือนแล้ว ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ค่าตอบแทน สวัสดิการ และวันหยุดพิเศษก็มีส่วนสำคัญในการดึงดูดคนที่มีความสามารถ อาทิ
นอกจากนี้ จ๊อบส์ดีบี คาดการณ์ว่าการปรับการทำงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคลเข้าสู่ระบบดิจิทัล จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกระบวนการด้านทรัพยากรบุคคล และจะทำให้บริษัทต่าง ๆ มีความสามารถในการแข่งขัน ทางด้านบริษัทเองควรพิจารณาถึงสิ่งที่จำเป็นสำหรับพนักงาน และสิ่งที่พนักงานต้องการ พร้อมปรับตัวให้เข้ากับความคาดหวังที่เปลี่ยนไป นี่คือสิ่งสำคัญในการดึงดูดคนที่มีความสามารถท่ามกลางตลาดแรงงานที่มีการแข่งขันสูง