บิทคับ Real X Token X และออริจิ้น ร่วมมือกันพัฒนาระบบแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขาย Token X เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์แบบราคาย่อมเยาว์ หวังให้คนตัวเล็กเป็นเจ้าของคอนโดสุดหรูใจกลางเมืองได้ ในราคาไม่เกิน 182 บาท/ตารางนิ้ว
การร่วมมือกันครั้งนี้ เกิดขึ้นจาก 4 บริษัท คือ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด, บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด, บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด และ บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด
โดยรูปแบบการทำงานจะถูกแบบออกเป็น 4 ความร่วมมือ ดังนี้
บิทคับ กับ เรียลเอสเตท
บิทคับ กับ Token X
บิทคับ กับ เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล
บิทคับ กับ โทเคน เอกซ์
คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ในการทำ Real Estate-Backed Token ในประเทศไทย เพื่อมาปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์
เนื่องจากมีเทรนด์การนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาสร้างประโยชน์ให้กับสถาบันการเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น BlackRock บริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ยื่นขอเปิด Bitcoin ETF หรือ การที่ Deutsche Bank ยื่นขอสิทธิในการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล (Custody Solution)
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
จากการคาดการณ์เศรษฐกิจของโลกในปี 2024 อาเซียนจะเข้าสู่ยุคทองคำ เม็ดเงินจะไหลเข้าสู่อาเซียนอย่างมหาศาล ไทยจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้าน
ซึ่ง Investment Token ถือเป็นการเตรียมความพร้อมของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย
คุณพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผมมองเห็นโอกาสของการทำ Real Estate-Backed Token หรือ Condo-Backed Token ของ RealX ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย
โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็น Luxury Condominium ที่มีโอกาสในการเข้าถึงยาก มีคนเพียง 5-10% ในประเทศไทยที่สามารถถือครองได้
เมื่อเรานำ Luxury Condominium มาตั้งเป็นกองทุนและเอา Tokenization ผ่านระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (Dezentralized Finance) ก็จะเกิดหน่วยลงทุนเล็ก ๆ ขนาด 1 ตารางนิ้ว ในราคา 182 บาท
เป็นการเปิดโอกาสให้คนตัวเล็ก ๆ และคนที่มีวิสัยทัศน์ในการลงทุนสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ใหญ่ ๆ ได้ โดยเฉพาะสินทรัพย์ใจกลางเมือง ที่มีโอกาสเข้าถึงยาก
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการร่วมมือกัน คือ ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เคยมีในวงการอสังหาริมทรัพย์ได้ถูกแก้ไขด้วยระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (Dezentralized Finance)
นอกจากนี้ สภาพคล่องในการซื้อ-ขายสินทรัพย์ที่แต่เดิมมีปัญหาอย่างมากและมีค่าธรรมเนียมในการขายค่อนข้างสูง ประมาณ 5.3% หากทำ Tokenization จะทำการซื้อขายได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง และไม่มีค่าธรรมเนียมในการโอนอีกต่อไป
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้เราอยู่ระหว่างโลกสองใบ คือ โลกยุคเดิมและโลกที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
ถ้าเราอยากอยู่โลกยุคใหม่ เราต้องก้าวผ่านให้ได้ จึงเกิดเป็นความร่วมมือระหว่าง Bitkub RealX และ Token X ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ บนโลกผ่านการ Tokenization จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดด (Expotential Curve) และสร้างรายได้ให้กับคนไทยอย่างมหาศาล
โทเคน RealX คืออะไร?
RealX หรือ RealX Investment Token (โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนเรียลเอ็กซ์) เป็นโทเคนที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือคอนโดมิเนียมในเครือ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
โดยพื้นที่ 1 ตารางนิ้วของคอนโดมิเนียมจะเท่ากับ 1 RealX มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักลงทุนที่สนใจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สามารถเริ่มลงทุนผ่านโทเคนนี้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินหลักล้าน RealX ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด ร่วมกับบริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด
คุณจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่ Token X, RealX และ Bitkub ทำร่วมกันในครั้งนี้ ถือเป็น Real Used Case ที่สำคัญสำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเรามองว่าประเทศไทยมีความพร้อมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในด้านเทคโนโลยี ผู้ให้บริการ ผู้กำหนดนโยบาย และข้อกำหนดต่าง ๆ ที่ชัดเจน
สำหรับสิ่งที่ TokenX จะทำในวันนี้ คือ Condominium-Backed Token โดยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Tokenization มาผนวกเข้าด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการลงทุนคอนโดมิเนียมแบบ Fractionalization ทำให้เข้าถึงได้สำหรับนักลงทุนและคนทุกระดับ
คุณอรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด กล่าวว่า ในอดีต การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดมิเนียม จะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
แต่การถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วน (Fractional Ownership) หรือการเป็นเจ้าของร่วม จะทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายและขยายวงกว้างยิ่งขึ้น
โดยใช้เงินลงทุนไม่มากเหมือนกับการซื้อคอนโดทั้งหลัง ทั้งยังสามารถเปลี่ยนผ่านความเป็นเจ้าของผ่านระบบบล็อกเชนได้ ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับวงการสินทรัพย์ดิจิทัลและอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย