Sam Bankman-Fried ผู้ก่อตั้ง FTX ยอมเปิดปาก หลังบริษัทล้มละลาย เกิดเป็นหายนะทั้งวงการคริปโทฯ หวังที่จะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างรายได้มากพอที่จะจ่ายคืนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ เจ้าตัวบอก กลัวถูกจับเหมือนกัน
แซม แบงค์แมน-ฟรีด (Sam Bankman-Fried) ฉายา SBF อดีต “มหาเศรษฐีคริปโท” ในวัย 30 ปี ต้องเผชิญกับการสอบสวนของรัฐบาลกลางหลายครั้งเกี่ยวกับการจัดการเงินทุนของบริษัทเก่า ที่เข้าก่อตั้ง หรือ FTX ซึ่งเป็นบริษัททำแพลตฟอร์มซื้อ-ขายคริปโทฯ รายใหญ่ของโลก โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็นนักลงทุนรายใหญ่
ล่าสุด แบงค์แมน-ฟรีด ได้เชิญสำนักข่าว BBC ไปที่อาคารพักอาศัยในคอมเพล็กซ์สุดหรูที่บาฮามาส กล่าวว่า “หวังว่าจะหาทางคืนค่าบริการให้กับผู้ใช้ FTX” และยอมรับว่า “ตัวเองอาจไม่ได้เก่งอย่างที่เขาคิดว่าตนเองเป็น”
เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา มีวิกฤติครั้งใหม่ในตลาดคริปโท โดยมีต้นกำเนิดมาจาก FTX ที่มีปมดราม่างบดุลบริษัท FTX และ Alameda Research ที่ถูกเปิดโปง พบว่ากำลังอยู่ในสภาวะการเงินไม่มั่นคง และได้ยื่นล้มละลายในท้ายที่สุด ท่ามกลางระยะเวลาไม่ถึง 2 อาทิตย์ ซึ่งส่งผลทำให้ตลาดคริปโทสั่นคลอนเป็นวงกว้างจน BlockFi ต้องยื่นล้มละลาย
Sam Bankman-Fried กลัวถูกจับ
SBF ยอมรับว่า มีความกังวลเกี่ยวกับการถูกจับกุมทำให้ต้องครุ่นคิดในตลอดทั้งคืน โดยหวังที่จะเริ่มต้นธุรกิจใหม่เพื่อสร้างรายได้มากพอที่จะจ่ายคืนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการล่มสลายของ FTX
"มีบางครั้งในตอนกลางคืนที่ครุ่นคิด ใช่ แต่เมื่อฉันตื่นขึ้นในตอนกลางวัน ฉันพยายามมีสมาธิ ทำงานอย่างมีประสิทธิผลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และไม่สนใจสิ่งต่างๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม" แบงค์แมน-ฟรีด ระบุ
เขาระบุว่า เขากำลังคิดว่าจะกู้สถานการณ์นี้อย่างไร ขณะที่ผู้ใช้ยังไม่ได้อะไรกลับมามากนัก ทำให้คิดว่าจะทำอะไรให้พวกเขาได้บ้าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของ SBF ต่อผู้ใช้ FTX ในการทำสิ่งที่ถูกต้องเท่าที่จะสามารถทำได้
SBF ยอมทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาคืน
เมื่อถูกถามว่าวางแผนจะเริ่มต้นธุรกิจใหม่เพื่อหาเงินมาจ่ายคืนนักลงทุนหรือไม่ เขาตอบว่า "ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา และผมจะพยายามหากทำได้"
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
คลิปข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด้านอดีตพนักงานอาวุโสของ FTX ที่ทำงานกับนาย Bankman-Fried บอกกับ BBC ว่าเขาคิดว่าอดีต CEO ต้องทราบว่า Alameda Research กำลังใช้เงินของลูกค้า FTX และอ้างว่านาย SBF กำลังโกหก หลังจากที่ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ “ไม่รู้เกี่ยวกับกระแสเงินสดและคริปโทระหว่างบริษัท”
แบงก์แมน-ฟรีดโต้กลับ "ไม่ นั่นไม่เป็นความจริง" พร้อมยอมรับว่า ในฐานะซีอีโอต้องรับผิดชอบต่อการจัดการเงินที่ผิดพลาดในท้ายที่สุด ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่เขาต้องรับผิดชอบ
นักข่าวถาม FTX ลวงโลกจริงไหม ?
"ฉันไม่ได้มีเจตนาฉ้อฉล ฉันไม่คิดว่าฉันฉ้อฉล ฉันไม่ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้น แน่นอนว่าฉันไม่ได้มีความสามารถอย่างที่คิด ฉันเคยเป็น" แบงก์แมน-ฟรีด ระบุ
ในช่วง 6 วันที่ผ่านมา แบงค์แมน-ฟรีด ได้ให้สัมภาษณ์ติดกันถึง 9 ครั้ง พร้อมกับทีมงานของแบงก์แมน-ฟรีดต้องย้ายไปยังสถานที่ที่ไม่รู้จักในรีสอร์ตหรูที่พักอาศัยอยู่ เนื่องจาก "กังวลเรื่องความปลอดภัย"
ทำให้นักข่าวถ่ายภาพเขาในอพาร์ตเมนต์ด้วยเลนส์กล้องส่องทางไกลจากทะเล และแอบเข้าไปในคอมเพล็กซ์เพื่อถ่ายทำวิดีโอ
ขณะเดียวกัน อดีตซีอีโอที่มาจากครอบครัวร่ำรวย กำลังกังวลเกี่ยวกับการเงินส่วนตัวของตัวเองที่ไม่สามารถเข้าถึงบัญชีธนาคารของเขาได้ และ "เหลือเงินน้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์"
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
Photo : Tom Williams/CQ-Roll Call, Inc via Getty Images