ทรูมันนี่ เผย สนใจทำเวอร์ชวลแบงก์ มั่นใจทำได้ดีขอเวลาพัฒนาก่อน

หลังแบงก์ชาติ คลอดหลักเกณฑ์ตั้ง virtual bank พร้อมระบุคุณสมบัติผู้สมัครขอรับบริการ 7 ข้อ โดยเริ่มยื่นได้ตั้งแต่ 20 มี.ค.- 19 ก.ย. 2567 นี้ ก็มีผู้ที่ให้ความสนใจหลายราย ต้องการเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น เอไอเอส ที่มีกระแสข่าวว่าจะเปิดบริการเกี่ยวกับการเงินร่วมกับธนาคารกรุงไทย ในการเตรียมความพร้อมให้บริการเวอร์ชวลแบงก์ ทรูมันนี่เองก็มีบริการทางการเงินภายในแอปร่วมกับธนาคารเกียรตินาคิน หรือแม้แต่บริการที่เป็นแอปพลิเคชันด้านการเงินหลายรายก็ให้ความสนใจกับการทำเวอร์ชวลแบงก์เช่นกัน

ทางทีมข่าว SPRiNGTech ได้สอบถามไปทาง บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันทรูมันนี่ได้รับคำตอบว่า มีความสนใจเช่นกัน

ขอศึกษารายละเอียดก่อนดำเนินการขออนุญาต

แอสเซนด์ มันนี่ มีความสนใจและกําลังศึกษาหลักเกณฑ์การขออนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) โดยบริษัทฯ คิดว่าน่าจะร่วมยื่นขออนุญาตในการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา

เนื่องจากเราเชื่อมั่นในพันธกิจของบริษัทฯ ในการช่วยให้ผู้ที่ยังไม่เข้าถึงเครืองมือทางการเงิน สามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นจากนวัตกรรมทางการเงินที่เรามอบให้ และ Virtual Bank จะเป็นส่วนสําคัญต่อพันธกิจของเรา

แอสเซนด์ มันนี่ เชื่อมั่น ว่าด้วยศักยภาพของเรา จะสามารถผลักดัน Virtual Bank ให้ประสบความสําเร็จและดําเนินการได้อย่างยั่งยืน

ในส่วนของพันธมิตรเราคิดว่าเราสามารถจะทําให้ Virtual Bank ประสบความสําเร็จได้ แต่ถ้ามีพันธมิตรที่มีพันธกิจคล้ายกันและเหมาะสม เราก็สามารถพิจารณาได้

ด้านทรู คอร์ปมอง ทำร่วมกับพันธมิตรดีกว่า

ก่อนหน้านี้ ทรู คอร์ป เผยในงานแถลงกลยุทธ์ประจำปี 2567 ว่า บริษัทมีความสนใจเรื่องการทำดิจิทัลแบงก์กิ้งเช่นกัน แต่ก็กำลังศึกษาอยู่ว่าจะทำงานในแง่ไหนได้บ้าง และอยากทำร่วมกับพาร์ทเนอร์มากกว่าการลงมือทำเองทั้งหมด แต่ยังไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไรต่อไปหรือให้บริการในแง่ไหน อาจจะต้องอ้างอิงแนวคิดจากทางทรูมันนี่ที่เป็นผู้ให้บริการก่อน

ข้อกำหนดจากแบงก์ชาติ

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขที่แบงก์ชาติกำหนดออกมา 7 ข้อ สำหรับผู้ที่สนใจอยากเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเวอร์ชวลแบงก์ ประกอบด้วย

1. ผู้ให้บริการจะต้องมี ประสบการณ์ ทรัพยากร และความสามารถในการดำเนินธุรกิจ Virtual Bank โดยนำเสนอบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการแต่ละกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น
2. ผู้ให้บริการจะต้องมี ธรรมาภิบาลและความสามารถของผู้ขออนุญาตและผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญใน Virtual Bank
3. ผู้ให้บริการจะต้องมี ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และความสามารถในการประกอบธุรกิจที่มีการใช้เทคโนโลยีและให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล
4. ผู้ให้บริการจะต้องมี ความสามารถในการใช้และบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ยืดหยุ่น มั่นคง ปลอดภัย และสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการพัฒนาบริการทางการเงินที่ตอบสนองต่อสถานการณ์หรือความต้องการของผู้ใช้บริการได้อย่างคล่องตัว
5. ผู้ให้บริการจะต้องมี ประสบการณ์และความสามารถในการได้มา เข้าถึง บริหารจัดการ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงการพัฒนาระบบหรือส่วนเชื่อมต่อข้อมูลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการให้สามารถนำข้อมูลของตนไปใช้ในการทำธุรกรรมกับผู้ให้บริการรายอื่นภายใต้สิทธิตามกฎหมาย
6. ผู้ให้บริการจะต้องมี ความสามารถในการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวกับธุรกิจการเงิน และ
7. ผู้ให้บริการจะต้องมี ความสามารถในการสนับสนุนทางการเงินอย่างเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ Virtual Bank อย่างต่อเนื่องของผู้ถือหุ้นสำคัญ

ความยากของการเป็นผู้ให้บริการนั้น คือต้องเตรียมความพร้อมทุกอย่างให้แล้วเสร็จและให้บริการภายใน 1 ปี หลังจากตรวจสอบและผ่านหลักเกณฑ์จากทางแบงก์ชาติแล้ว

 

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

• แบงก์ชาติ เปิดขอไลเซนส์ตั้ง virtual bank พร้อมหลักเกณฑ์และคุณสมบัติ
• ทรู คอร์ป แบ่งรับแบ่งสู้ สนใจดิจิทัลแบงก์ แต่ขอทำงานกับพาร์ทเนอร์ดีกว่า
• ภาคธุรกิจเตรียมตบเท้าเข้าสู่ "เวอร์ชวลแบงก์"