เอปสัน ปลื้มธุรกิจโตสวนภาพรวมตลาดไอที ชูกลยุทธ์ปรับตัวก่อนเทคโนโลยีเปลี่ยน การศึกษา-การเมือง ช่วยสร้างโอกาสรายได้ปี 66 เตรียมดึง robotic มาไทย
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดสินค้าไอทีถือว่าอยู่ในช่วงติดลบสูงถึง 14% ถือว่าเยอะมากในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป แต่ในภาพรวมรายได้ของเอปสันกลับสวนทางโต 8% มาจากภาคธุรกิจที่ยังคงไปต่อได้ ทำให้สินค้าในกลุ่มเครื่องพิมพ์ มีการเติบโตที่ดี
นอกจากนี้ เอปสัน ยังเป็นแบรนด์สินค้ากลุ่มไอทีที่มีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทำให้ลูกค้านึกถึงและเป็นที่จดจำโดยกลุ่มสินค้าของบริษัทที่มีการเติบโตได้ดี มีดังนี้
นอกจากนี้ การเลือกตั้งในปีที่ผ่านมา พรรคการเมืองที่ต้องหาเสียงมีการพิมพ์ป้ายโฆษณาจำนวนมาก ทำให้ความต้องการเครื่องพิมพ์มากขึ้น รวมทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก็ช่วยให้มียอดขายในแง่ดีด้วย
แม้ว่าทีวีที่เป็นจอแอลซีดีจะเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การทำงานที่ดี แต่เพราะปัญหาเรื่องแสงและองศาของจอ ไม่เป็นผลดีต่อสายตา รวมถึงปัญหาความสบายตาในการจ้องมองจอนานๆ ก็ ส่งผลต่อสายตาของเด็กๆ ทำให้โรงเรียนต่างๆ เลือกกลับมาซื้อโปรเจคเตอร์ Epson 2000-series เพื่อใช้ในการศึกษาอีกครั้ง ทำให้มีการเติบโตได้ดี เพิ่มขึ้นเกือบ 20%
ต่อมาคือกลุ่มสแกนเนอร์ ที่เติบโตขึ้น 37% ซึ่งได้รับอานิสงค์จากการที่ พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ ทำให้หน่วยงานราชการหลายแห่งจำเป็นต้องทำเอกสารดิจิทัล เพื่อให้บริการประชาชนผ่านระบบออนไลน์ รวมไปถึงธนาคาร ห้องสมุด และสถาบันศึกษาที่ต้องการเก็บข้อมูลถาวรในรูปแบบดิจิทัล
อีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่แสดงถึงการเติบโตของ เอปสัน คือเครื่องพิมพ์มินิแล็บ Epson SureLab ที่โตขึ้นเกือบ 10% มาจากกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กอย่าง Startup และ SME ที่มีการลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพใหม่ และใช้ในแง่การทำงานด้านเอกสาร
ขณะที่กลุ่มเครื่องพิมพ์สิ่งทอ Epson SureColor F-series ไม่แสดงการเติบโต เช่นเดียวกับกลุ่มหุ่นยนต์แขนกล ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
นอกจากนี้ เอปสัน ประเทศไทย ยังได้ทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาทในการสร้าง Solution Center แห่งใหม่ บนพื้นที่มากกว่า 600 ตารางเมตร ที่ตึก PUNN เพื่อใช้เป็นที่จัดแสดงและสาธิตการใช้งานผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มของบริษัท
เพื่อสร้างประสบการณ์จริงให้กับลูกค้าก่อนตัดสินใจซื้อ ทั้งยังใช้เป็นที่จัดอบรมเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่มุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยจะแบ่งออกเป็นโซนเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ซึ่งมีเครื่องพิมพ์สิ่งทอ เครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา และเครื่องพิมพ์ภาพ ทั้งยังมีเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสำหรับองค์กร โปรเจคเตอร์ และหุ่นยนต์แขนกล
อย่างไรก็ตาม การนำหุ่นยนต์แขนกลหรือ robotics กลับมาทำตลาดในไทยอีกครั้งนั้น เพราะปี 2567 นี้ มีโอกาสกลับมาดีขึ้นจากออเดอร์ลูกค้าทั้งรายเก่าและใหม่
ส่วนโอกาสที่จะนำโรงงานแขนกลกลับมาพัฒนาในไทยอีกครั้งหรือไม่นั้น บริษัทยอมรับว่าต้องรอดูสถานการณ์และการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์อีวีก่อน เพราะตอนนี้เวียดนามก็มีการส่งเสริมธุรกิจเยอะมาก ทั้งสิทธิพิเศษในการนำเข้าส่งออกและภาษีมากกว่าไทยเยอะก็เป็นความได้เปรียบที่บริษัทอยู่ในช่วงพิจารณา
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม