ยิ่งคนเราเสพเทคโนโลยีมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้ความเสี่ยงจากการใช้งานมากขึ้นเท่านั้น สัปดาห์ที่ผ่านมา 5 ซีอีโอบริษัทแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เดินขึ้นศาลเพื่อรับทราบเกี่ยวกับข้อเรียกร้องในการปกป้องเด็กและเยาวชน
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เป็นตัวแทนในการกล่าวขอโทษผู้ปกครอง ตัวแทนบิดามารดาที่ไม่พยายามในการปกป้องเด็กและผู้เยาว์ให้มีความปลอดภัยในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากอาชญากรมาพร้อมกับอินเทอร์เน็ตที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
แม้ Meta จะจ้างพนักงานไปแล้วกว่า 40,000 คนเพื่อดูแลด้านความปลอดภัย และลงทุนระบบเทคโนโลยีกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2016 ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยให้จำนวนคนใช้งานโซเชียลมีเดียมีความปลอดภัยมากขึ้นอย่างแท้จริง แถมความเสี่ยงจากโฆษณาที่หลอกลวง หรือการแชตหลอกลวงกลับเพิ่มขึ้นทุกวัน
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้ง ประธานและซีอีโอ วัย 39 ปี เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Facebook เพื่อเชื่อมให้คนในสังคมใกล้ชิดกันมากขึ้น และได้พัฒนาเทคโนโลยีผ่านโครงการที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น การสร้างหน่วยงานที่เรียกว่า Reality Lab เพื่อพัฒนาการส่งข้อความและการทำโมเดล AI
ต่อมาเขาก็ยอมรับว่า ที่ Meta มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล คำพูด ความเกลียดชังและข้อความที่ไม่ถูกต้อง ไปใช้ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และปล่อยให้ข้อความเกลียดชังนี้ส่งไปถึงเด็กและไม่มีการป้องกันที่ดีพอบน Facebook และ Instagram
ฮาเวียร์ โอลิแวน วัย 47 ปี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เขาทำงานที่ Meta มานานกว่า 14 ปี ก่อนจะขึ้นมารับตำแหน่งนี้แทน Sheryl Sandberg ที่ลาออกไปทำงานด้านสิทธิสตรี โอลิแวน ยอมรับว่าเขาอาจจะไม่ใช่คนที่ชอบออกสื่อมากนัก แต่เป็นหนึ่งในมือบริหารและขยายธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศ
Chris Cox ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ วัย 41 ปี ที่เข้าร่วมกับ Facebook ในปี 2548 ตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์ที่อายุน้อย และเป็นคนสร้างฟีเจอร์หลักในช่วงแรกของ Facebook ด้วย เช่น การฟีดข่าวของระบบ การพัฒนาความสามารถบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ก่อนจะลาออกไปในปี 2014 และในปี 2015 ซักเคอร์เบิร์กเป็นคนดึงตัวเขากลับมาช่วยในทีมวิจัย Fundamental AI Research (FAIR) ของ Meta และมี Yann LeCun และ Joelle Pineau ร่วมด้วย
ทอม อลิสัน วัย 46 ปี หัวหน้าฝ่าย Facebook ร่วมงานกับ Meta มาตั้งแต่ปี 2010 เป็นผู้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Facebook รวมถึงฟีดข่าว โปรไฟล์ และประสบการณ์บนมือถือและเดสก์ท็อป เขามีหน้าที่ดูแล Facebook และโครงการริเริ่มทั้งหมดของบริษัท ซึ่งเขาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อมีนาคม 2023 ว่า Facebook กำลังจะตายและสูญเสียคนใช้งานไปให้แก่ TikTok แม้ว่า Facebook จะมีผู้ใช้งานวันละ 2,000 ล้านราย แต่ทีมพัฒนาก็ยังนำ AI มาใช้ในการปรับปรุงการส่งข้อความในแพลตฟอร์ม
Adam Mosseri วัย 41 ปี หัวหน้าฝ่าย Instagram เข้าร่วม Meta ในปี 2009 และเป็นผู้นำการเปิดตัว Threads เพื่อแข่งขันกับ X ของ Elon Musk เขาต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกาและยุโรปให้แก้ไขปัญหาความปลอดภัยของเยาวชนบน Instagram
Andrew 'Boz' Bosworth วัย 42 ปี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้นำหน่วย Reality Labs ของ Meta และเป็นวิศวกรหลักที่อยู่เบื้องหลังโครงการริเริ่ม metaverse ของ Meta เขาสร้างหน่วย AR/VR ของบริษัท ซึ่งต่อมากลายเป็น Reality Labs ในปี 2017
Yann LeCun วัย 63 ปี หัวหน้า A.I. นักวิทยาศาสตร์ เข้าร่วม Meta ในปี 2013 และเป็นศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เขาเป็นหนึ่งในผู้รับรางวัล ACM Turing Award ประจำปี 2018 ร่วมกับ Geoffrey Hinton และ Yoshua Bengio สำหรับงานวิจัยเรื่อง “ความก้าวหน้าทางแนวคิดและวิศวกรรมที่ทำให้เครือข่ายประสาทเชิงลึกกลายเป็น องค์ประกอบสำคัญของการคำนวณ”
Erin Egan หัวหน้าเจ้าหน้าที่ความเป็นส่วนตัวของนโยบายสาธารณะ เธอเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะของบริษัทในสหรัฐฯ และเคยเป็นประธานร่วมของบริษัทกฎหมาย Covington & Burling’s global data Practice ซึ่งทำงานเกี่ยวกับเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค
Egan ได้รับการยอมรับจากทั้ง Chambers USA และ Legal 500 U.S. ในฐานะทนายความด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลชั้นนำ และเธอเป็นผู้กำหนดนโยบายและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความพยายามของ Meta ในด้านการปกป้องข้อมูล การเคลื่อนย้ายข้อมูล การโฆษณา และ A.I.
บุคคลเหล่านี้ ถือว่าเป็นมือฉมังในการใช้และพัฒนาเทคโนโลยี แต่ในแง่ของความปลอดภัยแม้ Meta จะบอกว่าปลอดภัยมากแล้ว แต่ในความเป็นจริง ระบบการกรองข้อมูลทั้งด้วยบุคคลและ AI ของ Meta ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขอีกมาก
ที่มา : Yahoo
ภาพ : unsplash
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม