ปี 2023 เป็นยุคแห่งการขายของออนไลน์ ตัวเลขมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 9.8 แสนล้านบาท ไทยเป็นอันดับที่ 2 รองจากอินโดนีเซีย คาดปี 2024 ยิ่งเดือด จะมียักษ์อีคอมเมิร์ซเบอร์ 4 จากจีนเข้ามาแข่งขันในไทย
Priceza เผยภาพรวมการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ปี 2023 คาดการณ์มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยแตะ 980,000 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 2 ของการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์นี้ คาดว่าในปี 2024 ผู้คนจะซื้อขายสินค้าในช่องทางออนไลน์กันเป็นเรื่องปกติมากขึ้น
ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด กล่าวว่า การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปี 2024 นั้น คาดว่ายังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องอีก 16% ด้วยการปรับตัวของพฤติกรรมผู้บริโภคและแบรนด์ก็ผันตัวมาใช้ช่องทางออนไลน์ ในการเข้าถึงผู้คนมากขึ้น
จากตัวเลขของการซื้อขายออนไลน์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กว่า 172,000 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น แบ่งเป็น
ทั้งนี้ การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซในปี 2024 จะยิ่งดุเดือดกว่าเดิมจากการเข้ามาแข่งขันในไทยของแพลตฟอร์มยักษ์ อย่าง Pinduoduo ที่ใช้วิธีการเอาสินเค้าจากโรงงานมาขายแบบ subsidized เพื่อให้ราคาสินค้าถูกลงกว่าเดิม
จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทย ที่มีกว่า 60 ล้านคน และมีการใช้งานเฉลี่ย 8-9 ชั่วโมงต่อวัน ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงสุดแล้ว คงไม่สามารถเพิ่มได้อีก
ในแง่ของเส้นทางการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคนั้น พบว่า มีการค้นหาข้อมูลบนโลกออนไลน์ก่อน จากนั้นค่อยไปสัมผัสของจริงที่หน้าร้าน จากนั้นเลือกเปรียบเทียบราคา โปรโมชัน สิทธิพิเศษต่างๆ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ
ดังนั้น เจ้าของธุรกิจจึงต้องเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่และวางแผนกลยุทธ์ให้ครบทุกแง่มุมก่อนจะตัดสินใจออกสินค้าใหม่ เพราะจะเป็นโอกาสในการเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า มีโอกาสที่ลูกค้าจะซื้อได้มากกว่า
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ยังมีการใช้งานสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบ่งเป็น
ตัวเลขเหล่านี้ หากคำนวณแยกจากช่องทางมาร์เกตเพลสที่มี 55% และโซเชียลคอมเมิร์ซ ที่มี 28% แบ่งเป็น การซื้อสินค้าผ่าน Facebook, Instagram, LINE, Youtube, X รวมกันอยู่ที่ 19%
Shopee
Lazada
TikTok
**คำนวณจากยอดขาย
นอกจากนี้ ซีอีโอของ Priceza ยังแนะนำด้วยว่า ในปี 2024 เป็นยุคแห่งนักไลฟ์และอินฟลูเอนเซอร์ เนื่องจาก 81% ของผู้บริโภคชาวไทยเชื่อและยอมจ่ายเงินหลังดูรีวิว โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแฟชันและบิวตี้ ถือว่าเป็นหมวดหมู่ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด
อย่างไรก็ตาม แบรนด์สินค้าไทยสามารถหาโอกาสนำสินค้าออกไปขายที่จีนได้เช่นกัน เนื่องจากภาครัฐมีความร่วมมือในการชักชวนให้สินค้าไทย เช่น ผักและผลไม้ ผลิตและพัฒนาสินค้าเพื่อส่งออกมากขึ้น รวมทั้งมีอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนที่รอรีวิวสินค้าจากไทยจำนวนมากเช่นกัน
ดังนั้น ตลาดอีคอมเมิร์ซจึงเรียกได้ว่าเป็นทั้งโอกาสทางการขายและการขยายโอกาสทางรายได้ใหม่ๆ หากรู้จักที่จะขายและสื่อสารกับลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มากขึ้น
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม