Grab เปิดตัวโปรแกรม ‘ผ่อนขับรับรถ’ และ ‘เช่าครบจบบนแอป’ หนุนคนขับใช้รถ EV ให้ถึง 8,000 คัน ลดมลภาวะบนท้องถนน หรือเปลี่ยนรถยนต์เป็นรถไฟฟ้าอย่างน้อย 10% ตามแผน 5 ปี
แกร็บ ประเทศไทย จับมือ 7 พาร์ทเนอร์ด้านยานยนต์ไฟฟ้า คือ Rever Automotive, Moove, Swap & Go, EV Station PluZ, H SEM Motor, STROM และ Auto Drive EV เพื่อผลักดันการเพิ่มจำนวนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บให้ได้ 10% ภายในปี 2569 ด้วย 2 โปรแกรมใหม่ให้คนขับเข้าถึง EV ได้ง่ายขึ้น ได้แก่
โดยภายใต้ความร่วมมือนี้คาดว่าจะช่วยให้พาร์ทเนอร์คนขับสามารถเข้าถึง EV ได้ไม่ต่ำกว่า 8,000 คันภายในปี 2568
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บในปัจจุบันให้ความสนใจและต้องการเปลี่ยนมาใช้รถ EV สูงถึง 85% แต่ยังคงมีหลายปัจจัยที่ถือเป็นข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็น
ดังนั้น แกร็บจึงเปิดตัว 2 โปรแกรมใหม่ ‘ผ่อนขับรับรถ’ และ ‘เช่าครบจบบนแอป’ ช่วยปลดล็อกและทำให้พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บสามารถเข้าถึง EV ได้ง่ายขึ้น
นางสาวเมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ทเนอร์คนขับ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บเริ่มทดลองทำโครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมการใช้ EV ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2563 และพยายามใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ในการพัฒนาโครงการ Grab EV เพื่อส่งเสริมการเข้าถึง EV ในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับให้มากขึ้น เพื่อทลายข้อจำกัดในด้านการเงินซึ่งถือเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงรถ EV จึงได้เปิด 2 โปรแกรม
“ผ่อนขับรับรถ” (Drive-to-Own) ที่ร่วมมือกับ Moove ผู้ให้บริการด้านสินเชื่อยานยนต์ ในการปล่อยสินเชื่อให้แก่พาร์ทเนอร์คนขับสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า
ทั้งนี้ คนขับแกร็บยังจองรถยนต์ไฟฟ้า BYD ได้ในช่วงต้นปี 2567 พร้อมรับสิทธิประโยชน์ เช่น ฟรีค่าซ่อมบำรุงรถ ครอบคลุมการทำประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตให้กับพาร์ทเนอร์คนขับ
“เช่าครบจบบนแอป” (End-to-end EV Bike rental) ร่วมมือกับ 3 ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า STROM, H SEM Motor และ Swap & Go เพื่อให้บริการเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยพาร์ทเนอร์คนขับจะได้อัตราค่าเช่าเริ่มต้นเพียง 125 บาทต่อวัน สำหรับการนำรถไปใช้งาน
พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์ เช่น การสลับแบตเตอรีได้ไม่จำกัดรอบตลอด 24 ชั่วโมง การจัดหาอุปกรณ์เสริมให้ เช่น ตะแกรงท้าย ที่วางโทรศัพท์มือถือ และสายชาร์จแบตเตอรีสำหรับชาร์จไฟที่บ้านหรือที่สถานี การจัดหารถสำรองให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงสนับสนุนค่าบำรุงรักษารถ การทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำตลอดการใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
โดยทั้งสองโปรแกรมนี้ คาดว่าจะเข้าถึงพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่กว่า 8,000 รายในปี 2567-2568 นี้
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม