svasdssvasds

เปิดวิจัย Work Trend Index 2023 พบ งานเร่ง เยอะจนคนทำไม่ทัน แต่ AI ช่วยได้

เปิดวิจัย Work Trend Index 2023 พบ งานเร่ง เยอะจนคนทำไม่ทัน แต่ AI ช่วยได้

ไมโครซอฟท์เผยผลวิจัย "Work Trend Index 2023" ชี้ AI เปลี่ยนบทบาทการทำงานในยุคใหม่ พบ งานเร่ง เยอะจนคนทำไม่ทัน แต่ AI ช่วยได้

ไมโครซอฟท์ เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกจากงานวิจัยล่าสุด  "Work Trend Index 2023" ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากการสำรวจพนักงานและผู้บริหารกว่า 31,000 คนในอุตสาหกรรมต่างๆ ครอบคลุม 31 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยและตลาดอื่นๆ อีก 13 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และยังประมวลข้อมูลที่เก็บรวบรวมมานับล้านล้านรายการจากอีเมล การประชุมออนไลน์ และระบบแชทใน Microsoft 365 รวมทั้งแนวโน้มตลาดแรงงานจาก LinkedIn

โดยข้อมูลดังกล่าว บ่งชี้ว่า การทำงานในปัจจุบันต้องการความรวดเร็วในระดับที่เกินกว่าพนักงานจะตามทัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถของพนักงานในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับองค์กร ดังนั้น เทคโนโลยี AI รุ่นใหม่ๆ จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ และองค์กรที่ริเริ่มนำ AI มาใช้จะช่วยให้พนักงานหลุดออกจากวงจรการทำงานแบบเดิมๆ มีเวลาไปใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปพร้อมกัน

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

สุภาณี อนุวงศ์วรเวทย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “การมาถึงของ AI ส่งผลให้วิธีการทำงานของเราต้องเปลี่ยนไปในทุกด้าน จากเดิมที่มีระบบอัตโนมัติทั่วไปในการทำงาน มาเป็นระบบผู้ช่วยที่ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างชาญฉลาด ทำให้พนักงานหลุดพ้นจากสิ่งที่เรียกว่า ‘Digital Debt’ หรือภาระงานที่เกิดขึ้นจากการโต้ตอบกันทางอีเมล แชท และประชุม จนไม่สามารถไปคิดค้นนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาได้”

“ในเมื่อการทำงานเปลี่ยนไปเพราะ AI คนทำงานก็ต้องพัฒนาตนเองให้เท่าทันเช่นกัน พนักงานส่วนใหญ่ในประเทศไทยมองว่า AI เป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเขา โดยรายงาน Work Trend Index 2023 ระบุว่าพนักงานไทยถึง 86% ยินดีที่จะมอบหมายให้ AI ทำงานแทนให้ได้มากที่สุดเพื่อลดภาระงานลง ดังนั้น ผู้บริหารในยุคนี้จึงมีทั้งโอกาสและแรงผลักดันให้ต้องเร่งทำความเข้าใจวิธีใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อลดความจำเจในการทำงาน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และยกระดับความเชี่ยวชาญด้าน AI ไปพร้อมๆ กัน” คุณสุภาณีกล่าวเสริม

รายงาน Work Trend Index 2023 ชี้ให้ผู้นำธุรกิจเห็นถึงข้อสรุปที่สำคัญ 3 ประการใหญ่ๆ ในการทำความเข้าใจและนำ AI มาใช้ในองค์กรอย่างถูกต้องเหมาะสม

1. หนี้ดิจิทัล (Digital Debt) : หนี้ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงหนี้เงิน แต่เป็นหนี้ที่ต้องแบกรับข้อมูลใหม่ ๆ ของบนโลกดิจิทัล “Digital Debt” ยับยั้งการสร้างนวัตกรรมใหม่ เพราะ พนักงานทุกคนล้วนมีภาระในโลกดิจิทัลของที่ทำงาน เพราะเรามีข้อมูล อีเมล และแชทปริมาณมหาศาลตลอดวันจนไม่สามารถรับรู้หรือเข้าใจได้ในทุกส่วน

ดังนั้น จาก Work Trend Index 2023 จึงเล็งเห็นโอกาสในการทำให้การสื่อสารมีประสิทธิผลมากขึ้น เพราะยิ่งเสียเวลาไปกับภาระ digital debt เหล่านี้มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้พนักงานไม่มีเวลาใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเท่านั้น พนักงานในประเทศไทย 89% รู้สึกว่าพวกเขาไม่มีเวลาและพลังงานมากพอที่จะทำงานให้เสร็จ และคนกลุ่มนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะเจอกับอุปสรรคเมื่อต้องลงมือสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยตัวเอง

ขณะที่ข้อมูลเวลาทำงานใน Microsoft 365 ชี้ว่าโดยเฉลี่ย พนักงานใช้เวลาทำงาน 57% ไปกับการติดต่อประสานงาน และเพียง 43% ในการสร้างสรรค์ชิ้นงานขึ้นมา ส่วนอุปสรรคอันดับหนึ่งที่ขัดขวางประสิทธิผลในการทำงานก็คือการประชุมที่ไร้ประสิทธิภาพ

2. AI พร้อมเป็นพันธมิตรคู่ใจคนทำงาน : พนักงานส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับบทบาทของ AI ในการแบ่งเบาภาระงาน มากกว่าที่จะกังวลว่าตนเองจะถูกแทนที่จนตกงาน ส่วนผู้บริหารส่วนใหญ่ก็มีความตั้งใจที่จะนำ AI มาสนับสนุนพนักงานให้ทำงานได้ดีขึ้น แทนที่จะนำมาทำงานแทนมนุษย์ สำหรับในประเทศไทย เราพบว่า 66% ของพนักงานที่เข้าร่วมการสำรวจยังมีความกังวลว่าจะถูก AI แย่งงาน แต่ก็มีถึง 86% ที่พร้อมจะแบ่งงานให้ AI ช่วยให้ได้มากที่สุดเพื่อแบ่งเบาภาระงาน นอกจากนี้ พนักงานไทยราว 9 ใน 10 คนมั่นใจว่าพร้อมแบ่งงานที่ซับซ้อน เช่นการวิเคราะห์ข้อมูลหรือสร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ๆ ให้ AI เข้ามาช่วยทำ โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่งานเอกสารหรือธุรการทั่วไป ส่วนในระดับผู้บริหาร พบว่ามีกลุ่มที่สนใจนำ AI มาใช้เสริมประสิทธิภาพในที่ทำงานเป็นจำนวนที่สูงกว่ากลุ่มที่มุ่งลดจำนวนพนักงานด้วย AI ราวหนึ่งในสาม

3. พนักงานทุกคนต้องเชี่ยวชาญการใช้ AI : พนักงานทุกคนจะต้องเรียนรู้ความสามารถในด้านใหม่ๆ เช่น การวางโครงสร้างและเขียนคำสั่งสำหรับ AI (prompt engineering) แทนที่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน AI เท่านั้น ผู้บริหารในไทยกว่า 90% คาดว่าพนักงานจะต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ในยุค AI ขณะที่พนักงานไทย 86% ระบุว่าพวกเขา ยังขาดความสามารถที่เหมาะสมในการทำงานให้สำเร็จ ดังนั้น จึงคาดการณ์ได้ว่าทักษะใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญด้าน AI จะเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดแรงงาน พร้อมส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง นับตั้งแต่แนวทางการเขียนเรซูเม่ไปจนถึงประกาศรับสมัครงาน

อ้างอิง : Microsoft , ฐานเศรษฐกิจ

related