Google ยอมรับ "เศรษฐกิจกำลังจะแย่" ต้องเปลี่ยนความคิด คนเท่าเดิมงานดีขึ้น

ซุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) CEO ของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google และ YouTube เปิดเผยกับสำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่า สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่คือการเติบโตที่ช้าลงของกูเกิล และความจำเป็นในการลดต้นทุน ทำให้พนักงานตั้งข้อสงสัยกับองค์กรอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่บริษัทก็มีรายได้มหาศาลและทุนสำรองอีกจำนวนมาก

พิชัย เล่าว่า ในการประชุมภายในของบริษัท เขาถูกตั้งคำถามจากพนักงานว่า ทำไมบริษัทต้องตัดลดค่าใช้จ่ายบางส่วนของพนักงานลง เช่น ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายที่บริษัทมองว่า “ฟุ่มเฟือย” ? เขาตอบอย่างกระอักกระอ่วนด้วยคำว่า “ฉันจะพูดยังไงดี” พร้อมขยายต่อว่า “ฟังนะ เรากำลังเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายมากที่สุดในรอบทศวรรษ หวังว่าทุกคนจะได้อ่านผ่านหนังสือเวียนในองค์กรแล้ว และคิดว่าเราจะต้องร่วมมือกันเพื่อผ่านช่วงเวลาเช่นนี้”

ในเดือนกรกฎาคม Alphabet รายงานผลประกอบการและรายได้ที่ลดลงว่าที่คาดการณ์ไว้ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สอง และการเติบโตของยอดขายในไตรมาสที่สามคาดว่าจะลดลงเป็นตัวเลขหลักเดียว ซึ่งลดลงจากมากกว่า 40% ในปีก่อนหน้า

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

• ศาลออสเตรเลียปรับ Google 1,500 ล้าน ฐานลวงใช้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อการโฆษณา
• สื่อมวลชน - Creators ควรรู้ ในการทำเนื้อหา : Google ปรับอัลกอริทึมครั้งใหญ่
• Google กดดัน Apple ชี้ปัญหาแชทข้ามแพลตฟอร์มระหว่าง Android และ iOS

พิชัย ยอมรับว่าไม่ใช่แค่เศรษฐกิจที่สร้างความท้าทายให้กับ Google แต่ยังรวมถึงความเชื่องช้าในองค์กรของ Google ด้วย

Google พยายามหาทางออกเพิ่มเติมในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Simplicity Sprint เป็นการขอความคิดเห็นจากพนักงานกว่า 174,000 คน ว่า “จะทำอย่างไรให้องค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้นและรวดเร็วขึ้น”รวมถึงวิธีกำจัด ส่วนที่มีปัญหาออกไปด้วย ซึ่งตอนนี้ได้รับความคิดเห็นกลับมากว่า 7,000 ความเห็นแล้ว

โดยปกติแล้ววัฒนธรรมของ Google คือการสร้างความสนุกสนานให้พนักงานเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ แต่การตัดลดงบประมาณในครั้งนี้ก็ทำให้พนักงานย้อนกลับมาถาม CEO ของบริษัทเช่นกัน พิชัย ก็ตอบคำถามนั้นแบบเรียบง่าย ด้วยการบอกว่า "ช่วงที่ Google ยังไม่ใหญ่ขนาดนี้ ช่วงเวลาที่สนุกก็มีและช่วงเวลาที่ทรหดก็มี ดังนั้นบางครั้งเงินอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความสนุกในการทำงานเสมอไป"

"ถ้าเราไปทำงานในบริษัทสตาร์ทอัพ เงินเดือนไม่เยอะเท่านี้ ทำไมเราถึงยังสนุกกับมันอยู่ ?"

CEO ของ Alphabet หวังว่าจะทำให้บริษัทมีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น 20% ในขณะที่จ้างงานและการลงทุนลดลง

20% จะมายังไง ?

พอ พิชัย ตอบว่า ต้องการให้บริษัทมีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น 20% คำถามที่ตามมาจากพนักงานชุดใหญ่คือ “แล้ว 20% มาจากไหน ในเมื่อคนเท่าเดิม” เขาตอบว่า “คุณอาจจะคิดว่า เราต้องจ้างคนอีก 6 คนเพื่อทำสิ่งนี้ แต่บางทีเราแค่หันมาดูทีม 4 คนที่มีอยู่ว่าจะทำให้ 20% นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไรกับคนที่มีมากกว่า ?”

“บางครั้งเราอาจทำงานให้ซับซ้อนมากเกินไปจนทำให้กินเวลานาน ถ้าเราตัดบางขั้นตอนไป ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นก็ได้ ซึ่งถ้าทุกคน ทุกแผนกช่วยกันทำ คนละนิดคนละหน่อย ก็เชื่อว่าเป็นไปได้”