จับตำรวจเก๊ แอบอ้างปลอมบัตร หลอกคบสาว พ่อแม่สงสัยแจ้งตำรวจจริงจับ

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 62 พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ ชุดสืบสวนเข้าจับกุมนายสรายุทธ์ ประทุมถิ่น อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นตำรวจหลอกคบสาว พร้อมของกลางจำนวนมาก อาทิ รูปภาพบัตรข้าราชการตำรวจ ชื่อ ร.ต.อ.สรายุทธ์ ประทุมถิ่น ตำแหน่ง รอง สว.สยศ.ตร. เครื่องแบบตำรวจ

ปืนลูกซองปั้มยี่ห้อ เรมิงตัน 870 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 47 นัด กระสุนปืนพก ขนาด .38 จำนวน 11 นัด วิทยุสื่อสารจำนวน 2  เครื่อง โดยสามารถจับกุมบริเวณถนนอังรีดูนังต์ ข้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แขวงและเขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีบุคคลชื่อ สรายุทธ์ ประทุมถิ่น อ้างและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยไปคบหากับสาวอยู่หลายเดือน พ่อแม่สงสัย พฤติกรรมแปลกๆ ผู้ต้องหานี้ยังมีการส่งรูปภาพถ่าย บัตรข้าราชการตำรวจ ร.ต.อ.สรายุทธ์ ประทุมถิ่น ตำแหน่ง รอง สว.สยศ.ตร. ไปทางแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อแสดงตัวเพื่อให้หลงเชื่อว่าเป็นตำรวจ

ต่อมา วันที่ 29 พฤศจิกายน เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวน2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้สืบสวนทราบว่า นายสรายุทธ์ ได้ขับขี่รถยนต์มาจอดที่บริเวณถนนอังรีดูนังต์ ข้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้เดินทางไปพบตัวนายสรายุทธ์ที่บริเวณดังกล่าว และได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงรูปภาพถ่ายบัตรข้าราชการตำรวจที่นายสรายุทธ์ ส่งให้แก่บุคคลต่างๆดู

เจ้าตัวจึงยอมรับว่า ตนเองเป็นบุคคลคนเดียวกับบัตรข้าราชการตำรวจดังกล่าวจริง แต่ตนเองมิได้รับราชการ และไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ที่ผู้ต้องหาขับขี่มา ผลการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าวทั้งหมด จึงร่วมกันจับกุมตัว สอบสวนที่ บก.สส.บช.น.

สอบสวน นายสรายุทธ์ ให้การว่าสิ่งของดังกล่าวนั้น ตนเองได้ทำขึ้นเพื่อแสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นแจ้งข้อหา "แต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ , แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานฯ ,ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ,มีวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต"ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป