ทางการออสเตรเลีย ประกาศแผนการ เตรียมคลายล็อคดาวน์ซิดนีย์ โดยผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถออกจากบ้านได้แล้วภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ หลังจากต้องอยู่ภายใต้มาตรการให้อยู่ในบ้านมายาวนานตั้งแต่ กรกฎาคม
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทางการออสเตรเลีย มีแผนการ ที่จะคลายล็อกดาวน์ ในนครซิดนีย์ ในเร็ววันนี้ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคม โดยจะอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ โดสแล้วสามารถเดินทางออกนอกเคหสถานได้
.
ทั้งนี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย ซึ่งมีเมืองใหญ่อย่างซิดนี่ย์ ต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เพื่อทางการต้องการ ยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้า แต่จนถึงตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าการแพร่ระบาดยังคงไม่เบาบางลง วันที่ 9 กันยายน 2021 ก็ยังพบผู้ติดเชื้อใหม่ +1,723 คน นั่นส่งผลให้ทางการออสเตรเลีย มองว่าถึงจะล็อกดาวน์ต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์ จึงได้เปิดเผยแผนการคลายล็อกดาวน์ ที่มีชื่อว่า Roadmap to Freedom ซึ่งคาดว่าจะคลายล็อกได้ในเดือนตุลาคมนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออสเตรเลียเจอเหตุประท้วง รัฐสั่งเคอร์ฟิวขังคนไว้บ้าน ล็อกดาวน์แก้โควิด
ดราม่าโฆษณาออสเตรเลีย เชียร์ให้ฉีดวัคซีนโควิดแต่ไม่มีของ แถมทำให้คนกลัว
ภายใต้แผนการคลายล็อกดาวน์ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีข้อสำคัญที่เป็นเป้าหมายจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ นั่น คือจะทำได้ก็ต่อเมื่อประชากรผู้ใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบสองโดสแล้ว 70% ซึ่งขณะนี้ อัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบสองโดสของประชากรในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยัอยู่ที่ 43% แต่ทางการก็คาดว่า ช่วงเวลาต่อจากนี้ จะเดินไปถึงเป้าหมายได้
.
ทั้งนี้ ตามรายงานระบุว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบสองโดส จะมีสิทธิพิเศษที่สามารถทำกิจกรรมได้มากกว่าผู้ที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบ เช่น การเดินทางข้ามรัฐ การนั่งในรถคันเดียวกัน การรวมตัวกันเกิน 20 คนในสถานที่กลางแจ้ง และการไปเยี่ยมผู้อื่นที่บ้านแบบไม่เกิน 5 คน
.
ที่ผ่านมา ประชากร 25 ล้านคนของออสเตรเลีย มากกว่าครึ่งหนึ่งต้องถูกล็อกดาวน์ ซึ่งรวมถึงในซิดนีย์และเมลเบิร์น เมืองที่ใหญ่ที่สุด และเมืองหลวงแคนเบอร์รา ท่ามกลางประเทศกำลังเผชิญกับการติดเชื้อระลอกที่ 3 และมีการประท้วงกันหลายต่อหลายครั้ง เพราะประชาชนออสเตรเลียเดือดร้อนจากผลกระทบการล็อกดาวน์เป็นอย่างมาก