svasdssvasds

ไม่ต้องกังวล! ผู้เชี่ยวชาญเผยยังไม่มีข้อสรุป ไวรัสจากสุนัขติดสู่คนจนเป็นโควิด

ไม่ต้องกังวล! ผู้เชี่ยวชาญเผยยังไม่มีข้อสรุป ไวรัสจากสุนัขติดสู่คนจนเป็นโควิด

มีการเผยแพร่บทความที่สร้างความกังวลใจ เพราะมีการตีพิมพ์รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบไวรัสโคโรน่าที่มักพบในสุนัข แต่กลับทำให้มนุษย์ติดเชื้อได้ ในมาเลเซีย ซึ่งเป็นงานเก่าเมื่อ 2018 อย่างไรก็ตาม ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้เชี่ยวชาญของไทย ชี้ว่า ไม่มีอะไรที่น่ากังวล

•งานวิจัยเก่าเผยเชื้อไวรัสจากสุนัขสู่คน

สำนักข่าว South China Morning Post ได้มีการเปิดเผยเรื่องราว ผลงานการวิจัยเก่า ซึ่งเป็นงานเมื่อปี 2018 แต่มาเผยแพร่อีกครั้ง จนทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวล โดยรายงานการวิจัยครั้งนั้น ระบุว่า วารสารทางการแพทย์ด้านโรคติดต่อ Clinical Infectious Diseases ที่ตีพิมพ์เมื่อ13 พฤษภาคม 2021 พบว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ CCov-HuPn-2018 เป็นไวรัสโคโรนาที่นักวิทยาศาสตร์พบการติดเชื้อในสุนัข  ได้ข้ามไปติดเชื้อในมนุษย์ได้ หลังพบผู้ป่วยโรคปอดบวมอย่างน้อย 1 คนในรัฐซาราวักของมาเลเซีย ติดเชื้อเมื่อปี 2018
    ย้อนเข็มนาฬิกากลับไป นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยดยุกและมาเลเซีย กำลังดำเนินโครงการวิจัยสาเหตุโรคปอดบวมในรัฐซาราวัก เมื่อปี 2018  ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในสุนัขสายพันธุ์นี้โดยบังเอิญ
    โดย ค้นพบตัวอย่างในผู้ป่วยปอดบวมในมาเลเซีย จำนวน 8 ใน 301 คน ในเมืองซาราวัค โดยเก็บตัวอย่างช่วงก่อนโควิดระบาดในมนุษย์เสียอีก ในปี 2017-2018 ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กในชนบทที่มีการเล่นคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยง
    ทันทีที่  South China Morning Post  นำเสนอข่าว ก็ทำให้มีกระแสจำนวนมาก ที่ตั้งข้อสังเกตว่า บางทีเชื้อไวรัสโคโรน่าที่เกิดขึ้นในอาจจะติดมาสู่มนุษย์ได้ จากผลงานวิจัยเก่าที่ยืนยัน

Lazada

•ผู้เชี่ยวชาญระบุไม่ต้องวิตก    

แต่อย่างไรก็ตาม จากข่าวนี้ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ช่วยไขปัญหา และคลายความสงสัยในประเด็นนี้
     โดยชี้แจ้งโดยสรุปว่า ประเด็นการติดไวรัสจากสุนัขสู่คนนั้น ยังไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวล เพราะ ยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นสาเหตุของอาการปอดบวมในผู้ป่วยเหล่านั้น ยังสรุปไม่ได้ว่า ไวรัสนี้สามารถก่อโรคได้ในมนุษย์ ถ้าข้อมูลมีมากขึ้นจนสรุปได้ ไวรัสตัวนี้ก็จะเป็นไวรัสโคโรนาตัวที่ 8 ต่อจาก SARS-CoV-2 ที่พบได้ในมนุษย์ ตอนนี้ไม่มีอะไรที่น่ากังวล เพราะเหตุการณ์ผ่านมา 3 ปี ยังไม่มีเคสติดเชื้อเพิ่มออกมาอีก lovelydog

 

• ตัวอย่างยังไม่เพียงพอ

กลับมาที่ ทีมวิจัยที่มาเลเซีย ยังได้นำเสนอวิธีการตรวจหาไวรัสแบบใหม่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเหมือนโควิด-19  โดย ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะเก็บตัวอย่างไวรัสโคโรนาที่พบในค้างคาวตามถ้ำให้มากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิจัยไวรัสโคโรนากำลังทำอยู่ในตอนนี้ แต่ทีมวิจัยเสนอว่า ควรลงไปสำรวจพื้นที่ที่มนุษย์มีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์สูงมากกว่า เพราะมีความเป็นไปได้ที่ไวรัสที่มีต้นตออยู่ในสัตว์ อาจข้ามไประบาดในประชากรมนุษย์แล้วก็เป็นได้ แต่แค่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
    ถ้าหากไวรัสโคโรน่าในสุนัข ข้ามไปติดมนุษย์ในวงกว้าง นั่นหมายความว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ CCov-HuPn-2018 จะถือเป็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่ 8 ที่มนุษย์ติดเชื้อได้ทันที แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่
    ทีมวิจัยยอมรับว่า ไวรัสโคโรน่าในสุนัขนี้ อาจเกิดขึ้นบนโลกมานานแล้ว แค่ยังไม่ทำให้มนุษย์ผิดสังเกตได้เท่านั้น และยังดีที่ทีมวิจัยนี้ได้แยกตัวไวรัสที่ข้ามไปติดเชื้อในมนุษย์ออกมาแล้ว
    ทั้งนี้ ทีมวิจัยยอมรับ เพราะการสังเกตการณ์ด้านโรคระบาดในพื้นที่ชนบทยังมีไม่เพียงพอ และการวิจัยไวรัสโคโรนาในสุนัขยังมีข้อจำกัด อีกทั้ง ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า อาการของโรคปอดบวมที่พบนั้น เป็นผลจากไวรัสโคโรนาชนิดนี้หรือไม่

    แต่เพื่อลดความเสี่ยงที่ไวรัสในสุนัขจะปรับตัวไปติดเชื้อในมนุษย์ และวิวัฒนาการจนเกิดการระบาดจากมนุษย์สู่มนุษย์ได้อีก บางทีอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์การตรวจหาไวรัสเสียใหม่ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดร้ายแรงเหมือนกับโควิด-19 ในอนาคต ดังนั้นได้ข้อสรุปที่ตรงกันในเวลานี้ เบื้องต้น คือ ยังไม่ต้องกังวลว่า เชื้อไวรัสจากสุนัขจะกระโดดมาสู่มนุษย์จนกลายเป็นโควิดสายพันธุ์ใหม่

 

related