ผู้เชี่ยวชาญเผย วัคซีนPfizer-โมเดอร์น่า ต้านโควิดสายพันธุ์อินเดียได้

•วัคซีน Pfizer -โมเดอร์น่าเบรกโควิดสายพันธุ์อินเดียได้
    ผลการศึกษาขั้นต้นของการต่อสู้กับโรคโควิด-19 จากการเปิดเผยของ แอนโทนี่ เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ ชี้ว่าวัคซีนPfizer และวัคซีนโมเดอร์น่า สามารถป้องกันอาการป่วยร้ายแรง การรักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตได้เป็นอย่างต่ำ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ควรฉีดวัคซีน และวัคซีนมีความจำเป็นต่อการสกัดกั้นการระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะสามารถยับยั้งการระบาดของโควิดสายพันธุ์อินเดียได้
    นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาอีกฉบับหนึ่ง ซึ่งเผยแพร่บนเว็บไซต์ biorxiv.org โดยยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากคณะผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า วัคซีนPfizer และ วัคซีนโมเดอร์น่า  ยังคงมีประสิทธิภาพต่อต้านเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดียเช่นกัน  โดย คณะนักวิจัย เปิดเผยว่า มีเหตุผลอันดีที่จะเชื่อว่า ผู้ฉีดวัคซีนจะยังปลอดภัยจากเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ โควิดสายพันธุ์อินเดีย  B.1.617 และ B.1.618
    ทั้งนี้ แอนโทนี่ เฟาซี ร่วมงานกับประธานาธิบดีสหรัฐมาแล้ว 7 คน และคนปัจจุบันคือโจ ไบเดนจวบจนถึงปัจจุบัน
    แอนโทนี่ เฟาซี ซึ่งได้รับการยกย่องว่าคือมือ 1 ของประเทศ ยืนยันว่า หน้าที่ของเขาเมื่อได้รับเชิญให้ทำงานเฉพาะกิจร่วมกับทำเนียบขาว มีเพียง "การพูดความจริงที่อ้างอิงตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์" และการเสนอแนะเชิงนโยบาย "ที่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์" เท่านั้น ดังนั้นการที่ เฟาซีเปิดเผยข้อมูลว่า ทั้ง 2 วัคซีนสู้กับโควิดสายพันธุ์อินเดียได้ ก็นับได้ว่าเป็น หลักฐานที่น่าเชื่อ

•ฉีดPfizer แล้วการระบาดลดลง

นอกจากนี้ โรเชลล์ วาเลนสกี้ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC  เคยให้ข้อมูล ระบุว่า 60% ของประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสแล้ว และมีกลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี ฉีดวัคซีน Pfizerโดสแรกกว่า 4.1 ล้านคน  หลังจากสหรัฐฯ อนุมัติการฉีดวัคซีนในคนวัยดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน และตัวเลขการแพร่ระบาดโควิด-19 ก็ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
    ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เคยระบุให้ เชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์โควิดสายพันธุ์อินเดีย  B.1.617 เป็น "เชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ ที่น่าวิตกกังวล" ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางสาธารณสุขในระดับสูง แต่ การที่ หมอใหญ่แห่งสหรัฐออกมาการันตี คุณภาพและผลการศึกษา วัคซีน Pfizer และวัคซีนโมเดอร์น่า ว่าสามารถลุยกับเชื้อสายพันธุ์นี้ได้ ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี ในวิกฤตโควิด-19ครั้งนี้
    โดย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ CDC  ของสหรัฐ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐอยู่ที่ 17,724 ราย ซึ่งนับเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันต่ำสุดในสหรัฐนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว นั่นสรุปความได้ว่า วัคซีนที่สหรัฐใช้ทำให้การระบาดลดน้อยลง และปัจจุบันสหรัฐฉีดวัคซีนไปแล้ว เกือบ 270 ล้านโดส เป็นจำนวน 41.8 % ของประชากรทั้งหมด

•สหรัฐบริจาควัคซีน Pfizer - วัคซีนโมเดอร์น่า

ด้าน สหรัฐ ที่มีวัคซีน Pfizer และวัคซีนโมเดอร์น่าเหลือเฟือภายในประเทศ  พวกเขาก็เตรียมส่งวัคซีนโควิด-19 ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก CDC ออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกจำนวน 20 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งไม่ได้มีแค่วัคซีน Pfizer และวัคซีนโมเดอร์น่า แต่ยังมียี่ห้อวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันด้วย
    โดย ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า สหรัฐฯทำเรื่องการบริจาค ไปด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่เคยต้องการใช้วัคซีนเพื่อการทูตเหมือนจีนและรัสเซีย  โดยอเมริกาบริจาคสุทธิรวม 80 ล้านโดสช่วยโลกให้พ้นวิกฤตโควิด-19
    ขณะที่ ฟิลิปินส์ อีกหนึ่งประเทศในอาเซียน ก็ดูเหมือนจะเชื่อมั่นในวัคซีน Pfizer เพราะล่าสุด บรรลุข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนPfizer จำนวน 40 ล้านโดส ทำสถิติยอดสั่งซื้อวัคซีนPfizer ที่สูงที่สุดในกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียนเลยทีเดียว

•สถานการณ์ไทย กับ วัคซีน Pfizer - โมเดอร์น่า ?

สำหรับ วัคซีน Pfizer นั้น ทางองค์การอาหารและยา หรือ อย. ยังไม่ได้ให้ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย แต่ วัคซีนโมเดอร์น่า เพิ่งจะเป็นวัคซีนรายที่ 4 ที่ อย. ให้ขึ้นทะเบียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่อจาก แอสตร้าเซนเนก้า , ซิโนแวค และจอห์นสัน แอนด์จอห์นสันไปก่อนหน้านี้    
    ดังนั้น แปลว่า ยังมีโอกาสที่ รพ. เอกชนจะสั่งวัคซีนโมเดอร์น่ามาเป็นวัคซีนทางเลือกให้กับประชนที่มีกำลังทรัพย์ได้ในอนาคต ...
    ส่วนกรณี ต่อข้อสงสัยว่า ประชาชนทั่วไปจะเข้าถึงวัคซีนทางเลือกอย่างวัคซีนโมเดอร์น่าได้อย่างไรนั้น  ทาง บริษัทซิลิค ฟาร์มา จำกัด ที่นำเข้าวัคซีนโมเดอร์น่านั้น ได้แถลงการณ์ ว่า กำลังอยู่ระหว่างพูดคุยกับองค์การเภสัชกรรม ในการจัดหาวัคซีนกระจายในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ แต่มีการยืนยันว่า “ต้องซื้อผ่านตัวแทนภาครัฐเท่านั้น” ...

จากประสิทธิภาพที่มีการเปิดเผยว่าของวัคซีน Pfizer และวัคซีนโมเดอร์น่า ต้องนับได้ว่าน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะสองตัวนี้ถือได้ว่าเป็น "สายแข็ง" และอาจจะมีบทบาทเป็นพระเอกในการยับยั้งการระบาดโควิด-19 ในรอบล่าสุดนี้...