svasdssvasds

6 เดือน พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก 24,466 ราย

6 เดือน พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก 24,466 ราย

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนช่วงหน้าฝนปีนี้ระวังโรคมือ เท้า ปาก ในเด็กเล็ก หลังพบผู้ป่วย 1 ใน 3 ของปีนี้เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนเดือนเดียว ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มากถึงร้อยละ 86

(13 กรกฎาคม 2561) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ที่มักพบผู้ป่วยมากในฤดูฝน และมีความเสี่ยงที่จะพบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหน้าฝนปีนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 5 ปี) เนื่องจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนเป็นสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ซึ่งง่ายต่อการแพร่กระจายเชื้อโรคผ่านสิ่งของใช้และของเล่นได้

จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 9 กรกฎาคม 2561 มีรายงานผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก 24,466 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มากถึง 21,088 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 86 ของผู้ป่วยทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่าในปีนี้เริ่มพบผู้ป่วยมากขึ้นในช่วงหน้าฝน โดยเห็นได้จากผู้ป่วย 1 ใน 3 ของปีนี้ หรือจำนวน 8,967 ราย เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนเดือนเดียว (ช่วงเริ่มฤดูฝน)

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า อาการของเด็กที่ป่วยจะเริ่มด้วยมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1-2 วัน มีอาการเจ็บปาก เนื่องจากมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม ต่อมาจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ และมีตุ่มหรือผื่นบริเวณฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้นด้วย หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชัก เกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจติดเชื้อโรคมือ เท้า ปากชนิดรุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

การป้องกันโรคมือ เท้า ปาก มีดังนี้

1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียน ควรมีการคัดกรองเด็กทุกเช้าก่อนเข้าเรียน สอนให้เด็กล้างมือเป็นประจำ หากพบเด็กป่วยให้แยกออกมา แจ้งผู้ปกครองให้มารับกลับและพักรักษาจนกว่าจะหายเป็นปกติ

2.หมั่นดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอ เช่น ภาชนะใส่อาหาร ห้องน้ำ ห้องส้วม ของเล่นต่างๆ

3.ผู้ปกครองหมั่นสังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการนำเด็กเล็กไปในสถานที่ที่มีคนแออัดเช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สนามเด็กเล่น ตลาด ควรอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

related