ส่อง 5 เหตุผลที่คนโสดอาจต้องจ่ายแพงกว่า
เหตุผลที่ครองตัวเป็นโสดของแต่ละคนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสบายใจและไลฟ์สไตล์ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่คนโสดอาจต้องยอมแบกมากกว่าเพื่อแลกกับการไม่ผูกมัด มาดู 5 เหตุผลที่ทำให้ความโสด (จ่าย) แพงกว่า
เป็นโสดทำไม อยู่ไปให้เศร้าเหงาทรวง... เพลงที่ คุณอาสุรชัย สมบัติเจริญ ร้องไว้เมื่อพ.ศ.2503
คลิปเพลง เป็นโสดทำไม เพลงอมตะของไทย
ปัจจุบันจากข้อมูลที่ ผศ.ดร.มนสิการ กาญจนะจิตรา นักวิจัยประจำสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าผู้หญิงไทยไม่ค่อยแต่งงาน ส่วนใหญ่เป็นคนเจนวาย เกิดระหว่างปี 2525 ถึง 2540 ปัจจุบันมีอายุ 24 ถึง 40 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน และควรเป็นวัยแต่งงาน โดยคนที่ยิ่งเรียนสูง ยิ่งแต่งงานน้อย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เชื่อว่าข้อดีของการเป็นโสดนั้นมีมากมาย นับนิ้วได้ไม่หมดโดยเฉพาะเรื่องความอิสระ แต่การเป็นโสดก็มีค่าใช้จ่าย การออม และผลประโยชน์ที่อาจต้องจ่ายมากกว่าเมื่อเทียบกับคนที่อยู่เป็นคู่ความสัมพันธ์กับใครสักคนที่สามารถตกลงในการแชร์สถานะทางการเงินด้วยกัน ก็จะช่วยแบ่งเบาไปได้บ้างถ้าไม่โชคร้ายหลงไปคบคนที่แอบซุกหนี้สินล้นพ้นตัว หรือ เป็นนักพนันตัวยง ชอบเสี่ยงโชคเป็นนิจ โดยมารู้ทีหลังจะวุ่นกันจนหัวปวดแทน
โดยบทความจาก CNN Business ได้สรุป 5 เหตุผลที่คนโสดอาจต้องจ่ายแพงและเสียเปรียบกว่ากว่า ไว้ดังนี้
- คนโสดอาจต้องจ่ายมากขึ้นสำหรับค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
ถ้านึกไม่ออกก็มองไปที่กองบิลบนโต๊ะของคุณ ไล่ตั้งแต่ ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าซ่อมแซมต่างๆ ภายในบ้านที่คนโสดต้องรับภาระควักกระเป๋าคนเดียวไม่มีตัวหารนั่นไม่รวมว่าการมีคู่รักที่มีไลฟสไตล์ที่ใช้จ่ายเกินกว่าที่คุณใช้อยู่ตอนนี้รวมกัน
ทั้งนี้ยังรวมถึงค่าผ่อนดาว์นบ้าน ค่าเช่า หรือ เวลาที่ต้องจ่ายค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ต่างๆ เข้าบ้าน ด้วยตัวเอง ซึ่งสำหรับคู่แต่งงานค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อาจได้มาจากเงินใส่ซองวันแต่งงานที่มาช่วยลดรายจ่ายลดไปได้อีกต่อ
- คนโสดอาจไม่มีคนที่เป็นแผนสำรองทางการเงินในยามตกงาน
เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินโดนเลิกจ้าง หรือ ตกงานด้วยเหตุจำเป็นกระทันหัน รายได้ 100% ก็จะหายไปทันที แต่หากคนที่อยู่เป็นคู่หรือมีคู่สมรสที่ทำงานอยู่ก็จะเป็นการสูญเสียรายได้สำหรับใช้จ่ายไปส่วนหนึ่ง หรือในเวลาที่เจ็บป่วยต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ทำให้รายได้หยุดชะงักหายไป
ซึ่งปัญหานี้เตรียมพร้อมกันได้ ถ้ามีการวางแผนการเงินที่รอบคอบ กันเงินส่วนหนึ่ง (ค่าใช้จ่ายสำหรับใช้ 6-12 เดือน) เก็บไว้ใช้เพียงพอในยามที่ต้องออกจากงานและระหว่างรองานใหม่สามารถนำเงินส่วนนี้มาดูแลค่าใช้จ่ายตัวเองไปก่อน ทั้งนี้ควรมองหาประกันสุขภาพต่างๆ มองเผื่อไว้ก็เป็นแผนที่ช่วยมีทางเลือกเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปได้จำนวนหนึ่ง
- คนโสดสายท่องเที่ยวอาจต้องจ่ายเพิ่มเมื่อไปแจมกับทัวร์
คนโสดที่รักอิสระและชื่นชอบการเดินทางต้องยอมแบกค่าห้อง ค่าเดินทางคนเดียว ซึ่งถ้าเทียบการเดินทางเป็นกลุ่มที่มีคนช่วยหารก็อาจมากกว่าเท่าตัว แต่ก็แลกกับความสบายใจคล่องตัว ดังในตัวอย่างของ CNN Yves Marceau รองประธานของ G Adventures ที่ให้บริการทัวร์รูปแบบผจญภัย กล่าวว่า ในแพ็คเกจการท่องเที่ยวจะอ้างอิงราคาที่พักต่อห้องซึ่งถ้านักท่องเที่ยวมากันเป็นคู่ก็จะแบ่งครึ่งกัน เท่ากับว่าคนที่มาคนเดียวที่เป็นโสดหรือไม่ก็ตามต้องจ่ายค่าส่วนต่างเพิ่มเอง ซึ่งสามารถถามรายละเอียดและตัวเลือกสำหรับห้องพักเดี่ยวก็ตกลงใจจะได้ไม่รู้สึกผิดใจเสียมู้ดการเดินทางกันหน้างาน
- คนโสดได้รับสวัสดิการประกันสังคมน้อยกว่า
อ้างอิงจากข้อมูลในสหรัฐคนโสดที่ไม่เคยแต่งงานหรือมีลูก เมื่อเกษียณอายุและอยู่ในเกณฑ์ที่มีคุณสมบัติครบ คุณจะได้รับผลประโยชน์ประกันสังคมตามอายุการทำงานในกรณีที่เสียชีวิต ผลประโยชน์เหล่าจะสิ้นสุดลง ต่างกับเพื่อนร่วมงานที่แต่งงานแล้ว หรือหย่าร้าง ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่า ตัวอย่างเช่น คู่สมรส ที่แต่งงานกันอย่างน้อย 10 ปีรวมถึงเด็กๆ จะได้รับเงินเพิ่มเติมเลี้ยงดูให้ด้วย ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิต
- คนโสดมีแนวโน้มจะขาดเงินเก็บเพื่อการเกษียณ
จากข้อมูลสถาบันวิจัยสวัสดิการพนักงานพบว่า ผู้หญิงโสดซึ่งรวมถึงผู้ที่หย่าร้างและเป็นหม้าย มีเงินออมเพื่อการเกษียณไม่เพียงพอใช้ ซึ่งมากกว่าผู้หญิงที่แต่งงานอยู่กับคู่ชีวิตถึงสามเท่า
ส่วนหนึ่งก็มาจากค่าใช้จ่ายพื้นฐาน เช่น ที่อยู่อาศัย อาหาร การขนส่ง เสื้อผ้า และการดูแลสุขภาพ ที่ต้องหาด้วยตัวคนเดียว นอกจากนี้ยังรวมถึงรายได้ที่ลดลงโดยเหตุผลหลักที่ Craig Copeland ผู้อำนวยการวิจัยความมั่งคั่งของ EBRI กล่าวเสริมคือ การเป็นโสดสามารถเก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง แต่คนที่แต่งงานมีชีวิตคู่มีส่วนลดหย่อนทางภาษีที่ทำให้ช่วยประหยัดเงินต่อคนได้มากกว่า และถึงแม้จะหย่าร้างคู่สมรสก็มักจะแบ่งเงินที่เก็บออมกันไว้เพื่อการเกษียณในระหว่างแต่งงานแก่กัน
