จะเป็นอย่างไรเมื่อน้องหมาน้องแมวในโลกดิจิทัลได้รับการพัฒนาให้อัจฉริยะและโต้ตอบสมจริงขึ้นอีกขั้น ด้วยการนำเทคโนโลยี A.I. ไปปรับใช้กับงาน 3D และทำให้ Digital A.I. Dog ในโลกเสมือน ตอบโต้ได้ เห่าได้ แสดงอารมณ์ได้ เสมือนว่า สัตว์เลี้ยงดิจิทัลมีชีวิตจริงๆ
ถ้าคุณเป็นคนเจน X เจน Y ที่เคยมี ทามาก็อตจิ (Tamagotchi) สัตว์เลี้ยงดิจิทัลขนาดพกพาที่ฮิตมากในกลุ่มเกมเมอร์วัยเยาว์ยุค 90 - ยินดีด้วย ถือว่าเป็นคนอินเทรนด์ (ณ ตอนนั้น) คนหนึ่ง
มาดูการเลี้ยงสัตว์ในโลกดิจิทัลยุคใหม่
ข้ามจาก Tamagotchi นวัตกรรมและเทคโนโลยีก็ได้รับการพัฒนาจนเหนือความคาดหมาย ทั้งภาพที่มีความคมชัด สีสันสวยงาม สมจริง โดยเฉพาะการออกแบบภาพ 3 มิติ ที่แม้แต่เปิดดูผ่านจอก็ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับสิ่งต่างๆ มากขึ้นได้ และในยุคดิจิทัล บริษัทมากมายก็พัฒนาแพลตฟอร์มออกสู่ตลาด และสำหรับคนรักสัตว์ ชอบตามเทรนด์ใหม่ๆ สัตว์เลี้ยงดิจิทัล หรือ สัตว์เลี้ยง A.I. บนแพลตฟอร์มต่างๆ อาจเป็นตัวเลือกที่ดี
สำหรับผู้เล่นหรือผู้ที่ต้องการเชื่อมต่อกับสัตว์ในโลกเสมือนจริง Petaverse แพลตฟอร์มที่พัฒนาโดย Polygon ซึ่งจะสร้าง NFT น้องแมวออกมาเร็วๆ นี้ เป็นเครือข่ายที่มุ่งจะเป็นแพลตฟอร์มแรกสำหรับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงดิจิทัลข้ามสายพันธุ์ เพื่อเข้าถึงผู้ใช้งานในวงกว้าง โดยผู้ใช้งานหรือผู้เล่นจะได้ประสบการณ์การเล่นเกมและได้ครอบครอง NFT เป็นการเชื่อมต่อทางความรู้สึกและแสดงความเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงดิจิทัลได้อย่างแท้จริง
The Digital Pets Company ผู้พัฒนาสุนัขดิจิทัล 3 มิติ ประกาศว่า จะเปิดตัวน้องหมา A.I. เพื่อมาเป็นเพื่อนใหม่ใน Metaverse และการันตีว่าเป็นสัตว์เลี้ยงดิจิทัลของแท้ด้วยการออก NFTs ทางบริษัทมั่นใจว่า วิวัฒนาการ Metaverse ของ Nintendogs จะประสบความสำเร็จในกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยงดิจิทัล เพราะเจ้าของจะสามารถโต้ตอบ เล่น และดูแลน้องหมาดิจิทัลของพวกเขาได้ในโลกเสมือน ซึ่งก้าวข้ามได้ทั้งเทคโนโลยี VR, AR, MR ตลอดจนอุปกรณ์เคลื่อนที่และเว็บบราวเซอร์
นักพัฒนาใน Metaverse มองเห็นโอกาสว่า ร้านขายสัตว์เลี้ยงดิจิทัล เป็นช่องทางขายสินค้าให้แก่ผู้คนได้ในระดับแมส
ตามมาด้วย Neopets ที่เปิดตัวเว็บเกมในไม่กี่ปีถัดมา แล้วก็ Nintendogs, The Sims, Farmville ตลอดจนแพลตฟอร์มอินเทอร์แอ็คทีฟอื่นๆ ที่เปิดตัวตามมาอีกเพียบ
ความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยงดิจิทัลเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ความผูกพันเกิดขึ้นได้จากการได้ใกล้ชิดกับ สัตว์เลี้ยงดิจิทัล ตั้งแต่การที่ผู้เล่นสมัครเป็นผู้ใช้งานระบบ เข้าไปให้อาหารน้องหมาน้องแมว (หรือน้องอื่นๆ) ทำความสะอาดที่อยู่ของน้อง เก็บอึน้อง เล่นกับน้อง - ดูแลเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเป็นๆ เพราะต้องการให้พวกเขามีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี
ชวนให้คิดว่า ความสนใจหรือเทรนด์เลี้ยงสัตว์ดิจิทัลนี้อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ ครอบครัวดิจิทัล ที่บ่งบอกถึงความทับซ้อนระหว่างชีวิตจริงในโลกทางกายภาพและชีวิตในโลกเสมือน...ที่ใกล้และเสมือนจริงเข้าไปทุกที
Our SDK will enable incredible experiences with your Digital Dog, from games to virtual worlds.
— THE DIGITAL DOGS ™ (@TheDigitalDogs) June 4, 2022
😍But we're most excited about our own dog parks.
Did you try our demo? https://t.co/LTGDzbtckN
✅5 WL Giveaway✅
🎁Like, follow & comment on the breeds we should introduce first👇 pic.twitter.com/aBqIYYuq5Q
สิ่งมีชีวิตดิจิทัล ฉลาดขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยี A.I.
คนที่เคยดูแลสัตว์เลี้ยงและสิ่งมีชีวิตดิจิทัล ยังคงเปิดรับการดูแลสิ่งต่างๆ ในโลกดิจิทัลต่อไป และในที่สุดอาจก้าวไปสู่การดูแล เด็กเสมือนจริง (Virtual Children)
ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงดิจิทัลที่จะได้รับความสนใจในอนาคตอันใกล้ (และไกล) แคทริโอนา แคมป์เบลล์ (Catriona Campbell) ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (A.I. - Artificial Intelligence) จากสหราชอาณาจักร คาดการณ์ว่า ภายใน 50 ปีข้างหน้า จะมี เด็กเสมือนจริง (Virtual Children) อยู่ใน Metaverse
แคมป์เบลล์เชื่อว่า เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างทารกแรกเกิดเสมือนจริงจะได้รับการยอมรับจากกลุ่มคนที่เติบโตขึ้นมาในการดูแลของเล่นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอย่าง Tamagotchi ในยุค 1990 และยังบอกเพิ่มว่า เด็กเสมือนจริงจะดูเหมือน "พ่อแม่" ของเขา สามารถเล่นและโต้ตอบจากที่อยู่ในโลกดิจิทัลได้ และในยุคที่คนรุ่นใหม่กำลังคิดทบทวนเรื่องการมีครอบครัวเป็นของตัวเอง เด็กเสมือนจริงอาจดึงดูดให้มี ผู้ดูแลดิจิทัลเจนใหม่ อีกนับไม่ถ้วน
ข้อพึงระวัง...อยู่ในโลกเสมือนนานเกินไป อาจจะอยู่ยาก เข้ากับคนอื่นยากในโลกความจริงได้
....................................................................................................................................