ฝังไมโครชิป สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะ หมา-แมว เพื่อป้องกันโดนทอดทิ้ง และ ช่วยติดตามตัวเมื่อสัตว์เลี้ยงสูญหาย เริ่มบังคับใช้แล้ว 1 มิ.ย. ที่ญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นแก้ไขกฏหมาย ประกาศบังคับให้เจ้าของสัตว์เลี้ยง สุนัขและแมว ต้องฝังไมโครชิปเพื่อบันทึกข้อมูลของเจ้าของ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันและติดตามตัวเมื่อสัตว์เลี้ยงหายออกไปจากบ้านเป็นเวลานานหรือถูกเจ้าของทอดทิ้ง ไม่ดูแล
ทั้งนี้มีผลให้ร้านขายสัตว์เลี้ยงทั่วประเทศต้องฝังไมโครชิป และผู้ที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องนำสุนัข หรือ แมวไปดำเนินการติดไมโครชิปตามที่กำหนด โดยมีกระทรวงสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพดูแลกฏระเบียบข้อนี้ ซึ่งในช่วงเริ่มต้นต้องมีทำการประชาสัมพันธ์ รณรงค์เน้นย้ำให้ผู้เลี้ยงสัตว์คำนึงถึงความสำคัญของกฏหมายฉบับนี้ เพื่อเป็นการลดกรณีสัตว์เลี้ยงสูญหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สัตว์เลี้ยงหายอยากได้คืน มาดู 10 วิธีรับมือเมื่อสัตว์เลี้ยงของเราหายไป
คนกรุงรู้ไว้ "เลี้ยงปลา" ก็ขึ้นรถไฟฟ้าไม่ได้ แม้ใส่ถุงมัดแน่นหนาก็ตาม
ฝังไมโครชิปที่ใช้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 มม. และยาวประมาณ 10 มม. ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,000 เยน (คิดเป็นเงินไทย 2,600 บาท)แต่ละชิ้นจะมีหมายเลขเฉพาะ 15 หลัก ซึ่งบันทึกข้อมูลและอ่านผล โดยอุปกรณ์พิเศษที่ติดตั้งในโรงพยาบาลสัตว์ หรือ หน่วยงานราชการในท้องถิ่น ซึ่งเชื่อมโยงเข้าฐานข้อมูลของกระทรวงที่เจ้าของได้ทำการลงทะเบียนไว้ ประกอบด้วย ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ และอีเมลของเจ้าของ ส่วนข้อมูลเฉพาะของสัตว์เลี้ยงก็จะมี การระบุ สายพันธุ์ ชื่อและสีขน
สำหรับใครที่กังวลเรื่องการฝังไม่โครชิปลงบนร่างกายสัตว์จะทำให้เจ็บปวดหรือไม่ สัตว์แพทย์ ทาคาชิ ไซโตะ ยืนยันว่า ใช้เวลาดำเนินการไม่กี่วินาทีก็เรียบร้อยความเจ็บอยู่ในระดับเดียวกับการฉีดยาตามปกติ เมื่อฝังลงไปแล้วจะไม่เคลื่อนที่หรือเป็นอันตรายกับร่างกายของสัตว์
ทั้งนี้ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการให้ข้อมูลประชาชนในการดำเนินการลงทะเบียนและอัปเดตข้อมูลล่าสุด เพื่อเป็นการติดตามตัวส่งคืนเมื่อยามสัตว์เลี้ยงเกิดเหตุฉุกเฉินเช่น การสูญหาย หรือ เสียชีวิต โดยทางกระทรวงต้องเน้นย้ำและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องโดยวางแผนที่จะเร่งแจกแผ่นพับในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้และเร่งติดตั้งเครื่องอ่านข้อมูลในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
ที่มา