เผยเหตุผลว่าทำไม คน Gen Z ถึงหลงใหลและชื่นชอบในคริปโทเคอร์เรนซีและ NFT

Generation Z หรือที่รู้จักกันในชื่อ Zoomers คือกลุ่มอายุที่เกิดระหว่างกลางปี ​​1990 ถึงต้นทศวรรษ 2000 พวกเขาเติบโตขึ้นมาในโลกออนไลน์ เล่นเกม และพบปะเพื่อนฝูง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นเรื่องปกติ และเรามาดูเหตุผลว่าทำไม? คน Gen Z ถึงให้ความสนใจคริปโทเคอร์เรนซีและ NFT กันมากนัก

คริปโทเคอร์เรนซี เป็นสกุลเงินดิจิทัล คือ สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ประเภทหนึ่งที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเช่นเดียวกับสกุลเงินทั่วไป (Fiat Currency) เพียงแต่ไม่สามารถจับต้องได้

NFT คือ Non-Fungible Token หรือที่ถูกเรียกย่อ ๆ ว่า NFT ก็คือ Cryptocurrency ประเภทหนึ่งที่แสดงความเป็น “เจ้าของ” ของสินทรัพย์ โดยในแต่ละเหรียญจะมีความแตกต่าง มีมูลค่าที่ไม่เท่ากันและ Non-Fungible Token เหรียญอื่น ๆ ไม่สามารถทดแทนกันได้
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• พลังงานไฟฟ้ากับวงการบิทคอยน์หรือคริปโทเคอร์เรนซี ส่งผลต่อโลกแค่ไหน
• สรุปสั้นๆเข้าใจง่าย ทำไมบิตคอยน์หรือคริปโทเคอร์เรนซี ร่วงหนัก
• ทำความรู้จัก 10 อันดับเหรียญคริปโทเคอร์เรนซียอดฮิตของคนไทย

ไม่ว่าจะมีคำเตือนมากมายว่าการลงทุนคริปโทฯนั้นมีความเสี่ยงสูงมาก แต่คน Gen Z ก็ยังต้องการลงทุนกับมัน ไม่ว่าจะเป็นหลากหลายเหตุผลเช่น 

อยากสานฝันวัยเด็ก ที่เกมสามารถสร้างรายได้ 
สำหรับหลายๆ คน รสนิยมแรกของสินทรัพย์ดิจิทัลคือผ่าน "เกมที่เล่นเพื่อหารายได้" ซึ่งให้รางวัลแก่ผู้เล่นด้วย NFT และสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้ภายในเกมได้ หรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด เช่นเกมดังอย่าง Axie Infinity ที่ดังเป็นพลุแตกทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก มีการเปิดสกอล่าชิปหรือโรงเรียนที่เทรนด์ผู้เล่นมากมาย และมีคนรับรายได้จริงออกมาโปรโมท

ผู้มีอิทธิพลทางการเงิน หรืออินฟลูเอนเซอร์
ในยุคดิจิทัลแบบนี้สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่จำนวนมาก คำแนะนำมีพร้อมให้ใช้งานบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube, Twitter และ Reddit ทั้งออกมาพูดในแง่ลบและแง่บวก พร้อมนำเสนอวิธีเล่นคริปโทเคอร์เรนซีตามช่องทางต่างๆ ซึ่งทำให้การเริ่มต้นเล่นคริปโทเคอร์เรนซีหรือลงทุนใน NFT ยิ่งง่ายกว่าเดิม

นอกเหนือจากการสูญเสียทางการเงินแล้ว อันตรายอีกอย่างหนึ่งคือการเสพติด
มีทั้งคนพูดถึงความหลงใหลและการเสพติดคริปโทเคอร์เรนซี บางคนนั่งดูกราฟทั้งวัน หรือเฝ้ารอดูราคาขึ้นลงอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ทำอะไรเลย โดยเฉพาะ “ผู้ชาย” มักมีความอยากเอาชนะและต้องการเงินคืนกลับมาเสมอเมื่อเสียเงินกับคริปโทเคอร์เรนซีไป
 

สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอาจติดคริปโทเคอร์เรนซี

เสียเวลากับการเทรดคริปโทเคอร์เรนซีมากเกินไป จนลืมกิจกรรมประจำวัน

คุณมีหนี้สินและปัญหาทางการเงินอันเนื่องมาจากความสูญเสียที่เกิดจากการซื้อขายคริปโทฯ

คุณโกหกเพื่อนและครอบครัวเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำหรือปัญหาที่คุณเผชิญ เช่น จำนวนที่เสียไปกับคริปโทฯ

คุณมักจะมีอารมณ์แปรปรวน รู้สึกสิ้นหวังและซึมเศร้า

ความวิตกกังวลที่ส่งผลให้เกิดอาการทางร่างกาย เช่น เหงื่อออกมาก และตัวสั่น

ความเชื่อมั่นที่ไม่สมจริง เช่น คิดว่าตัวเองจะเอาเงินคืนมาได้ทั้งๆที่ไม่มีโอกาส

และเรามีวิธีง่ายๆในการแก้อาการเสพติดคริปโทเคอร์เรนซีง่ายๆดังนี้

อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ
 
อย่าลงทุนหรือแลกเปลี่ยนเงินที่คุณไม่สามารถเสียได้หรือไม่ใช่เงินของคุณเอง
 
มีกลยุทธ์และตั้งกฎเกณฑ์สำหรับตัวคุณเองโดยที่คุณไม่ฝ่าฝืน
 
กำหนดตารางการซื้อขายเพื่อให้คุณทำการซื้อขายเฉพาะในบางช่วงเวลาหรือบางวันเท่านั้น
 
หยุดพักเพื่อที่คุณจะไม่ทำการซื้อขายทุกวัน และไม่ติดตามราคาหรือข่าวของสกุลเงินดิจิทัลอย่างสม่ำเสมอ
 
หาช่องทางที่ดีต่อสุขภาพอื่นๆ เช่น การทำสมาธิ การอ่าน การเขียน การออกไปเที่ยวในธรรมชาติ ออกกำลังกาย และใช้เวลากับคนที่คุณรัก

อ้างอิงจากนักบำบัดที่ Castle Craig Clinic ใกล้ ๆ เมือง Edinburgh เขากล่าวว่านักเทรดคริปโทนั้นอาจจะเสพติดคริปโท เช่น Bitcoin เนื่องจากความผันผวนที่สูง จะทำให้รู้สึกตื่นเต้น แต่ก็อาจสูญเสียเงินได้มาก เช่นเดียวกับการพนัน

สรุปแล้ว แนวคิดในเรื่องการเทรดคริปโตนั้นเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ว่าจะถือว่าเป็นสิ่งเสพติดหรือไม่ ด้วยความที่โลกของคริปโตยังใหม่ และการเสพติดในรูปแบบพฤติกรรม อย่างการติดพนัน ซึ่งพฤติกรรมการติดนั้นนอกจากติดพนันแล้วก็ยังไม่มี การยอมรับการติดในรูปแบบพฤติกรรมในรูปแบบอื่น ๆ 

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานกำกับดูแลมีข้อกังวลบางประการเกี่ยวกับการเทรดคริปโต อย่างแพลตฟอร์มการเทรด Robinhood ได้เคยถูกกล่าวหาว่าเล่นการพนันเพื่อสร้างความเสียหายให้กับนักเทรดคริปโต