ชวนดูสารคดี Cyber Hell: Exposing An Internet Horror สารคดีที่สร้างจากเรื่องจริง เรื่องราวการตีแผ่ห้องแชตลับ Nth Room อาชญากรรมทางเพศครั้งใหญ่ในเกาหลีใต้
ชวนมาดูหนังสารคดีเชิงข่าวจากเกาหลีใต้ ที่เห็นแค่ทีเซอร์ตัวอย่างก็แอบทำให้รู้สึกสนใจเบา ๆ เพราะนี่คือ "Cyber Hell: Exposing an Internet Horror" (เปิดโปงนรกไซเบอร์) สารคดีที่หยิบประเด็นดังในเกาหลีเมื่อช่วงโควิด-19 เพิ่งแพร่ระบาดมาจับคู่กับ การเปิดโปงขบวนการอาชญากรรมทางเพศทางดิจิตอลครั้งใหญ่ระดับชาติ การทำงานร่วใกันจากหลายภาคส่วน นำมาสู่การจับกุมคนร้าย
Cyber Hell: Exposing an Internet Horror เป็นสารคดีเชิงข่าวที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริง เพื่อตีแผ่อาชญากรรมทางเพศที่สุดจะเลวร้ายอย่าง "Nth Room" เครือข่ายห้องแชตกับการทารุณกรรมเพศ การข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และการค้ามนุษย์ ที่วิธีการทารุณกรรมนั้นผ่านการใช้งานแอปพลิเคชัน Telegram โดย "Nth Room" เป็นประเด็นใหญ่เมื่อสองปีที่ก่อน โดยสารคดีเรื่องนี้จะบอกเล่าผ่านการสัมภาษณ์นักข่าว, โปรดิวเซอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 24 คน รวมไปถึงเหยื่อบางคนที่เผชิญหน้าคดี Nth Room ด้วยตนเอง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ประเด็นที่ถูกนำมาเปิดโปงในหนัง Cyber Hell เคยเป็นหนึ่งในข่าวใหญ่ของสังคมเกาหลีใต้ เมื่อช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก เพราะเป็นการเปิดโปงชุมชนสนทนาออนไลน์ที่ไม่ปกปิดตัวตนและใช้ในการแสวงหาผลประโยชน์จากการล่วงละเมิดและอาชญากรรมทางเพศในเกาหลีใต้ นับว่าเป็นความสำเร็จอย่างเยี่ยมยอดในการประสานงานเชิงสืบสวนสอบสวนระหว่างสื่อมวลชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ช่วยกันประสานข้อมูลในการสืบเสาะเจาะทลายกลุ่มอาชญากรไซเบอร์กลุ่มใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
ความน่าสนใจของ Cyber Hell คือการเล่าเรื่องของหนัง เพราะข้อมูลการสอบสวนแต่ละอย่างที่ได้ฟังจากคนแรกเป็นการเล่าเรื่องที่สอดคล้องกับคนต่อไป ถึงแม้ประเด็นที่นำเสนอจะละเอียดอ่อน แต่การร้อยเรื่องราวออกมาในหนัง นับว่าเป็นหมัดเด็ดที่ทำให้คนตั้งใจดูติดจอได้ไม่อยาก อีกทั้งข้อมูลแต่ละอย่างที่ปล่อยออกมา มีความเข้มข้นและกลมกล่อมในระดับที่ค่อย ๆ บีบคั้นอารมณ์ผู้ชมด้วยข้อมูลมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นหนังสารคดีที่ทำให้ผู้ชมได้ซึมลึกและลุ้นไปถึงแก่นของเรื่องราวนี้ได้เป็นอย่างดี
ครึ่งแรกของหนังทำการปูทางด้วยข้อมูลเชิงสืบสวนและเจาะลึกจากฝั่งสื่อมวลชนเป็นหลัก การทำงานระหว่างภาคสื่อและภาคประชาชนผู้แจ้งเบาะแส และพาผู้ชมออกเดินไปลึกขึ้น ส่วนช่วงครึ่งหลังเป็นแนวการการสืบสวนและทำคดีของฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเข้มข้น ได้เห็นวิธีการทำงาน การแกะรอย หาเบาะแส และนำไปสู่ปลายทางของอาชญากรรมครั้งนี้
เหยื่อหลายคนที่ถูกพูดถึงใน Cyber Hell เป็นเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่ถูกล่อลวงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ข้อเสนอปลอมที่บอกว่ามีงานรายได้มหาศาลให้ แต่กลับถูกบังคับให้ถ่ายวิดีโอหรือภาพอนาจาร และนำมาลงในกลุ่ม Nth Room ที่มีสมาชิกที่ไม่เปิดเผยชื่ออยู่มากมาย ถ้าพวกเธอแสดงความขัดขืนหรือไม่ยินยอม ก็ถูกขู่จะแบล็กเมล์ เปิดเผยชื่อและข้อมูลส่วนตัวให้ทุกคนรอบตัวเธอได้รับรู้
ทั้งหมดทั้งมวลของการนะเสนอ Cyber Hell: Exposing an Internet Horror ต้องปรบมือให้กับเหล่าสื่อมวลชนที่อดทนและใช้ความกล้าในการนำเสนอข่าว แม้ว่าต้องยอมให้ตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยง จากข่าวที่ไม่มีใครให้ความสนใจกลายเป็นคดีความที่ตอกหน้าสังคม เพราะคดีนี้เป็นปัญหาอาชญากรรมทางเพศในโลกดิจิตอล
และเมื่อหนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่ม Nth Room อย่าง พัคซา ถูกจับตัวมาได้ ก็พบว่าเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่จบมหาวิทยาลัย อดีตนักกิจกรรมดีเด่นสู่อาชญากรที่ทำเรื่องโหดร้าย ที่ทำให้คดีนี้กลายเป็นคดีอาชญากรรมทางไซเบอร์ และคดีอาชญากรรมทางเพศที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ โดยเหยื่อที่อายุน้อยที่สุดนั้นเป็นแค่เด็กประถมเท่านั้น
ชเวจินซอง ผู้กำกับของ Cyber Hell: Exposing An Internet Horror กล่าวถึงสารคดีเรื่องนี้ว่า "ชาวเกาหลีทุกคนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับคดี Nth Room เพียงนิดหน่อยเท่านั้น เมื่อพวกเขาดูสารคดีนี้แล้ว พวกเขาจะได้รู้ว่า สิ่งที่รู้มานั้นเป็นเพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ยังมีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังอีกมาก วิธีการที่อาชญากรเหล่านี้ใช้นั้นซับซ้อนและพิถีพิถันมากกว่าที่เราคิดมาก แต่คนที่สืบเรื่องราวของพวกเขาก็แข็งแกร่งกว่าที่คิดเหมือนกัน"
อีกหนึ่งข้อที่ยกให้กับ Cyber Hell: Exposing An Internet Horror ก็คือเรื่องของโปรดักชั่น การถ่ายทอดที่ใช้องค์ประกอบฉากการแสดงสมมุติ และงานดีไซน์ในหนังเรื่องนี้ เป็นตัวแทนการเล่าประกอบเรื่องที่ถ่ายทอดออกมาได้ดี และช่วยปลุกอารมณ์ให้กับผู้ชมได้อย่างลื่นไหล
Cyber Hell เป็นสารคดีคดีอาชญากรรมที่รสะท้อนปัญหาสังคมในยุคไซเบอร์ได้อย่างดี ปัญหาการล่วงละเมิดและอาชญกรรมทางเพศทางดิจิตอลยังเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ และความสำเร็จในการเด็ดหัวอาชญากรครั้งนี้ของเกาหลียังเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ เท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้วเหยื่อจากการก่ออาชญากรรม ก็ยังคงต้องทนทุกข์ทรมาณกับข้อมูลส่วนตัวที่ถูกเผยแพร่ต่อไปบนโซเชียลแบบไม่รู้จบ เพราะเมื่อมันถูกแพร่มาในครั้งที่หนึ่ง "มักจะมีเหล่าคนที่คิดว่าฉันก็แค่ดู, ฉันก็แค่เซฟไว้ แต่ฉันไม่ได้บอกให้เหยื่อทำนิ คนพวกนั้นมันกลัวไปเอง" เหล่าคนกลุ่มนี้คือแรงกระหายชั้นดี ที่จะให้อาชญากรคนต่อไปผุดมา และในทุกครั้งเหยื่อไม่เคยได้รับคำขอโทษจากคนพรากความสุขออกไปตลอดชีวิต
รับชมต่อได้ที่ Cyber Hell: Exposing An Internet Horror - Netflix