ย้อนเส้นทางแห่งความปังตลอด 15 ปีของการเดบิวต์ กับเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ Girls’ Generation ตัวแม่ในตำนานที่เหล่าไอดอลมองเป็นต้นแบบ เพราะเหตุใดทำไมพวกเธอถึงยังเป็นที่พูดถึงทุกครั้งที่มีการเอ่ยถึง
เป็นอีกหนึ่งข่าวดี สำหรับชาวโซวอน (SONE) ที่แท้ เมื่อแฮชแท็ก #GirlsGeneration กลับมาติดเทรนด์ทวิตอีกครั้ง หลังจากมีการยืนยันเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (17 พ.ค. 65) จากต้นสังกัดว่า "Girls’ Generation จะกลับมาร่วมตัวกันอีกครั้งในรอบ 5 ปี ในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อฉลองครบรอบ 15 ปี พร้อมมีเรียลลิตี้และเดินสายตามรายการต่างๆ อีกด้วย"
ถ้าพูดถึงเกิร์ลกรุ๊ปที่มีชื่อว่า Girls’ Generation หรือ SNSD เป็นอีกหนึ่งวงที่มีความคุณภาพเป็นอย่างสูง เรียกได้ว่าเก็บได้หมดทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการร้อง การเต้น หรือการแสดง ไม่เว้นแม้กระทั่งความตลกในรายการวาไรตี้ พวกเธอก็ทำได้ดี เรียกได้ว่าความสามารถครบและสีสันแตกต่างกันออกไปไม่จำเจ อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งวงที่รุ่นน้องไอดอลเกาหลีหลายคน ตั้งไว้ในใจให้เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจ ว่าวันหนึางฉันจะเป็นแบบรุ่นพี่บ้าง!
Girls’ Generation เป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปสร้างชื่อที่อยู่มาตั้งแต่ยุคบุกเบิก นั่นก็คือช่วงแพร่กระจายความนิยมไม่ได้ให้อยู่แค่ในประเทศเกาหลีใต้อย่างเดียว ซึ่งความนิยมที่มีมาตลอด 14 ปี ที่จะเข้าสู่ปีที่ 15 นี้ เป็นเครื่องชี้วัดได้อย่างดี อีกทั้งยังเป็น ฮันรยูสตาร์ ต้นแบบของรุ่นน้อง ที่หลายคนเคยได้ใช้เพลงของพวกเธอในการประกวด หรือออดิชันมากันหลายต่อหลายคนแล้ว
ความปังของแม่ไม่ได้มีแค่ในหมู่แฟนคลับทั่วไป แต่บรรดาคนบันเทิงหลายคนก็ประกาศตัวเองว่า "เป็นติ่งแม่" เช่นเดียวกัน
ซึ่งความประทับใจสำหรับเหล่าโซวอน (SONE) ทั่วเอเชียและทั่วโลก มีโมเมนต์มากมายหลายตอนที่เป็นเครื่องตอกย้ำความทรงจำอยู่เสมอ และวันนี้ SPRiNG จะพาย้อนรอยความสำเร็จบางส่วน ก่อนที่จะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับคัมแบ็กครบรอบ 15 ปีที่จะถึงในเดือนสิงหาคมนี้!
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Girls’ Generation เตรียมปล่อยเพลงใหม่ ส.ค. นี้ ฉลองครบ15 ปีเดบิวต์!
Girls’ Generation จ่อคัมแบ็กยูนิต oh!GG ปลายปีนี้ ภาพทีเซอร์สวยจนใจเจ็บ!
Love and Leashes ภาพยนตร์ความรักแบบโหดโหด จาก Netflix โดย "ซอฮยอน×อีจุนฮยอน"
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2005 ค่ายชมพูชื่อดังอย่าง SM Entertainment ได้เริ่มต้นโปรเจ็กต์ Yeoja Danchae (ยอจา ดันแซ) โปรเจกต์สำหรับเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ของค่ายทั้งหมด 11 คน มาเดบิวต์เพื่อเป็นน้องใหม่ของค่าย แต่น่าเสียดายที่เมื่อครั้งเริ่มต้นนั้นกลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร จึงมีการปรับรูปแบบมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 2007 ก็ได้สมาชิกที่แน่นอนและลงตัว ก็คือ
อิมยุนอา (Im Yoon-A), ฮวัง มิยอง (Hwang Mi-Young) หรือทิฟฟานี่ (Tiffany), ควอนยูริ (Kwon Yu-Ri), คิมฮโยยอน (Kim Hyo-Yeon), ชเวซูยอง (Choi Soo-Young), ซอจูฮยอน (Seo Joo-Hyun) หรือซอฮยอน, คิมแทยอน (Kim Tae-Yeon), จองซูยอน (Jung Soo-Yeon) หรือเจสสิก้า (Jessica) และลีซุนคยู (Lee Soon-Kyu) หรือซันนี่ (Sunny) พร้อมกับชื่อวงว่า Girls’ Generation ที่ถูกตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
เพลงเดบิวต์ของวงคือเพลง Into the New World ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 3 สิงหาคม ปี 2007 ซึ่งจากการขึ้นรายการเพลงครั้งแรก ทำให้เธอได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีการันตีด้วยรางวัลเพลงมากมาย และสามารถคว้าอันดับที่หนึ่งในรายการเพลงได้ภายในเวลา 2 เดือน (ในสมัยก่อนการเป็นที่ 1 ในรายการเพลง นับเป็นเรื่องที่ยากมาก"
การเดบิวต์ในครั้งนั้น ทำให้พวกเธอทั้ง 9 คน กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติแทบจะทันที และไม่มีใครรู้ว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการสร้างตำนานที่ไม่มีวันตายในยุคต่อมาของวงการ K-Pop ที่ไอดอลหลายวงต้องเคยฟังและเคยเต้น ไม่เว้นกระทั่งบอยแบรนด์หรือเกิร์ลกรุ๊ป หนทางการทำงานในสายไอดอลของพวกเธอส่งผลให้เพลงต่อๆมา อย่างเพลง Girls’ Generation, Kissing You และ Baby Baby ได้รับผลตอบรับที่ดีต่อมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะต้องมาเจอกับกระแสบอยคอตต์จากแฟนคลับอย่างหนักบนเวที 2008 Dream Concert
การแสดงครั้งนั้นทำให้พวกเธอต้องแสดงบนเวทีโดยไม่ได้รับเสียงตอบรับเป็นเวลานานกว่า 10 นาที โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าต้นเหตุนั้นมาจากเรื่องอะไร แต่เดาได้ว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดกันระหว่างกลุ่มแฟนคลับ รวมถึงเรื่องความสนิทสนมของพวกเธอกับบอยแบนด์รุ่นพี่ร่วมค่าย
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นความไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ส่งผลให้พวกเธอเดินหน้าผลิตผลงานเพลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งการคัมแบ็กครั้งถัดมาอย่างเพลง Genie ผลงานในมินิอัลบั้มที่ 2 ของ Girls’ Generation ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2009 ทำให้พวกเธอได้รับความนิยมและกวาดรางวัลอีกครั้ง
คำว่ายุคทองของวงไม่ผิดจากที่อวยไว้เท่าไรนัก เพราะหลังจากการปล่อย 2 เพลงที่ถูกจริตแฟนคลับไป ทำให้พวกเธอมีงานโฆษณาอย่างไม่พัก และ 2 ชิ้นที่ต้องพูดถึงก็คือผลงานโฆษณากับโทรศัพท์มือถือ LG รุ่น Chocolate ผ่านมิวสิกวิดีโอเพลง Chocolate Love และต่อเนื่องกับมิวสิกวิดีโอเพลง SEOUL สำหรับการโปรโมตกรุงโซลของ Seoul Metropolitan Government
หลังจากนั้นพวกเธอก็เดินหน้าโปรโมทเพลงต่อมาจนกระทั่งเข้าปี 2010 ที่เดินทางไปตีตลาดเพลงญี่ปุ่นด้วยการเดบิวต์อย่างเป็นทางการ และเป็นการตอกย้ำความนิยมของพวกเธอที่กว้างไปถึงการจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกใน Taipei Arena ประเทศไต้หวัน ในวันที่ 15-16 ตุลาคม ซึ่งสร้างสถิติการเป็นศิลปินกลุ่มผู้หญิงชาวต่างชาติที่มีจำนวนผู้เข้าชมสูงที่สุด
พอเข้าสู่ช่วงปี 2011-2013 ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยผลงานเพลงครั้งไหน ก็ทำให้ชื่อเสียงของ Girls’ Generation เป็นที่นิยมอยู่เสมอ ตั้งแต่อัลบั้มเต็มชุดที่ 3 The Boys, ดิจิทัลซิงเกิล Dancing Queen, อัลบั้มเต็มชุดที่ 4 I Got A Boy และมินิอัลบั้ม Mr. Mr.
ในช่วงนี้พวกเธอยังคงทำกิจกรรมเพลงที่เกาหลีสลับกับญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บางเพลงมีออกมาหลายเวอร์ชัน หลายภาษา รวมไปถึงการเข้าครองชาร์ตเพลงทุกครั้งที่คัมแบ็ก และยังมีการคว้ารางวัลนอกประเทศด้วยซิงเกิลอัลบั้มแรก Genie ก็ยังคว้ารางวัล The Golden Disc จาก The Recording Industry Association of Japan (RIAJ) อีกด้วย
จุดเปลี่ยนที่ทำให้หลายคนเสียใจ "นั่นก็คือการออกจากวงของเจสสิก้า" เมื่อปี 2014 ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จากการขึ้นเวทีโปรโมท 9 คน กลับต้องเหลือเพียง 8 คน ตั้งแต่ครั้งนั้น
ข่าวการออกจากวงของหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ สร้างความฮือฮาในวงกว้าง เพราะตัวของ เจสสิก้า เองนั้นก็ไม่ได้ดูเต็มใจที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพราะหลังจากที่มีข่าวถูกเผยแพร่ออกไปเพียง 2 วัน เธอก็ส่งจดหมายถึงสื่อมวลชนโดยมีใจความว่า เธอตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเธอไม่เคยคิดที่จะออกจากวง Girls’ Generation เลย
ข่าวนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ Girls’ Generation เตรียมคัมแบ็ก J-Pop ซิงเกิล Catch Me If You Can พอดิบพอดี ซึ่งในความเป็นจริงมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ต้องถ่ายทำใหม่ทั้งหมด ทำให้เป็นครั้งแรกที่เราเห็นสาวๆ Girls’ Generation เพียง 8 คนเท่านั้น
หลังจากนั้นเมื่อปี 2015 พวกเธอกลับมาอีกครั้งหลังผ่านความเปลี่ยนแปลงด้วยอัลบั้มชุดที่ 5 Lion Heart ในวันที่ 19 สิงหาคม โดยมีเพลงฮิตติดหูอย่าง Party, Lion Heart ที่ถึงแม้แนวเพลงจะแปลกและแตกต่างไปจากเดิม แต่เหล่าโซวอนก็พร้อมจะสนับสนุนทางเดินของพวกเธอ
เมื่อเสร็จสิ้นกับภารกิจวงในอัลบั้มชุดที่ 5 Lion Heart แล้ว สมาชิกทุกคนต่างแยกย้ายกันไปโฟกัสที่งานเดี่ยวของตนเอง เพื่อเพิ่มความถนัดส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นการออกเพลงเดียวของ แทยอน, ทิฟฟานี่, ฮโยยอน และการโฟกัสที่งานแสดงของ ยูริ, ซูยอง และยุนอา ตามมาด้วยการปล่อยเพลงเดี่ยวครั้งแรกของน้องเล็กสุดอย่าง ซอฮยอน และการผันตัวไปเป็นดีเจวิทยุของ ซันนี่
อย่างที่บอกงานเดี่ยวของสมาชิก Girls’ Generation ปังไม่หยุด พีคมาตั้งแต่เดบิวต์แรกๆ ถึงปัจจุบัน ด้วยความที่สมาชิกแต่ละคนมีของ แถมยังพากันทำสถิติอันงดงาม ไม่เว้นแม้กระทั่งการ Sold Out อย่างต่อเนื่องจากการจัดงานคอนเสิร์ตหรือแฟนมีตติ้ง ที่ยังคงแสดงให้เห็นว่าพวกเธอเป็นตำนาน ไม่ว่าจะเป็นงานเดี่ยวหรืองานกลุ่มก็ยังคงมีแฟนคลับตามซัพพอร์ต
ยังไม่รวมงานพิธีกร งานวาไรตี้ที่ตลอด 14 ปี สมาชิกเดินสายออกรายการมาเยอะ และเป็นกระแสพูดถึงมานับไม่ถ้วน อีกทั้งยังโฆษณา พรีเซ็นเตอร์ แอมบาสเดอร์ ที่แต่ละคนต่างมีเส้นทางของตัวเองที่ต่อให้ฉายเดี่ยวก็ยังทำได้ดีและขายได้ ซึ่งหาได้ยากมากที่จะเห็นสมาชิกในวงขายได้ทุกคน ทำได้ดีในด้านของตัวเอง แม้วงจะไม่ได้ปล่อยเพลงร่วมกัน ชื่อของ Girls’ Generation ก็ไม่เคยเลือนหายไป ทั้งที่การแข่งขันในวงการก็สูงมาก
เข้าสู่ปีที่ 2017 Girls’ Generation กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 Holiday Night ที่มีเพลงฮิตอย่าง All Night, Holiday ที่ถึงแม้จะไม่ได้โปรโมทต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่พวกเธอก็ยังคงเป็นดาวบนฟ้าที่หลายคนรอคอย
เมื่อหลังจากการจบกิจกรรมของวงในครั้งนั้น เมื่อ 5 ปีก่อน ทำให้บรรดาสมาชิกหันกลับไปโฟกัสที่งานเดี่ยวได้อย่างเต็มที่ จนกระทั่งมีสมาชิกบางคนหมดสัญญา และเดินออกจากค่ายไป แต่การออกจากค่ายครั้งนี้ไม่เหมือนวงอื่น พวกเธอทั้ง 8 คน ยังคงมีชื่อและเป็นสมาชิกของวง Girls’ Generation มาโดยตลอด
หลังจากวันนั้นจนวันนี้ แฟนคลับหลายคนยังคงเฝ้ารอการคัมแบ็กแบบครบ 8 คนมาโดยตลอด หลังจากเมื่อปี 2018 ยูนิต oh!GG ของวง Girls’ Generation ประกอบด้วย 5 สมาชิกคือ “แทยอน, ยุนอา, ซันนี่, ยูริ และ ฮโยยอน” กับซิงเกิล Lil’ Touch จะมีการปล่อยมาเพื่อให้แฟนคลับหายคิดถึงแล้ว แต่ก็ยังคงเฝ้ารอการโปรโมทแบบเต็มวงอีกครั้ง
อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า #แม่ก็คือแม่ ไม่มีใครมาแทนที่ Girls’ Generation ได้ งานนี้เมื่อต้นสังกัดยืนยันอย่างเป็นทางการว่าในการครบรอบเดบิวต์ปีที่ 15 ของพวกเธอ เธอจะกลับมาอีกครั้ง พร้อมทั้งเพลงและวาไรตี้ เชื่อว่าทั้งโซวอนและหลายคนที่เติบโตมาพร้อมกับ Girls’ Generation ต้องดีใจกับข่าวนี้แน่นอน
"ข่าวของตำนาน ตำนานที่ยังคงมีลมหายใจ"