ขวดซอสมะเขือเทศย่อยสลายได้ บรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ Heinz ที่กำลังพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถยั่งยืนและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค
‘ขวดซอสมะเขือเทศแห่งอนาคต’
หลายอุตสาหกรรมทั่วโลกเริ่มออกมาปฏิวัติวการใหม่ เดินหน้าสู่นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น Heinz ก็เช่นกัน Kraft Heinz แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารและเครื่องดื่มระบุว่า ‘แม้แต่บรรจุภัณฑ์เครื่องปรุงรสก็สามารถยั่งยืนได้’ บริษัทประกาศในสัปดาห์นี้ว่ากำลังจับคู่กับบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนอย่าง Pulpex เพื่อพัฒนาขวดซอสที่ใช้กระดาษหมุนเวียนและสามารถรีไซเคิลได้
Kraft Heinz กล่าวว่า ขวดดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะทำจาก “เยื่อไม้ที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืน 100 เปอร์เซ็นต์” ไฮนซ์เป็นแบรนด์ซอสแห่งแรกในการทดสอบบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นขั้นตอนล่าสุดในการเดินทางเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และนี่เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่จะทำให้บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดทั่วโลกสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือย่อยสลายได้ภายในปี 2025
ตามเว็บไซต์ของ Pulpex ระบุว่า บรรจุภัณฑ์จะทำมาจากเยื่อไม้ที่มาจากแหล่งที่ยั่งยืน ซึ่งได้รับการรองรับโดยโครงการ NGO ระหว่างประเทศเพื่อการรับรองป่าไม้ โดย Forest Stewardship Council ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆมาจากป่าที่ได้รับการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบและเป็นระบบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สตาร์ทอัพสิงคโปร์ผุดไอเดียบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทำจากถั่ว รับมือวิกฤตอาหาร
ข่าวดี! นักวิทย์ประดิษฐ์เอนไซม์ย่อยสลายพลาสติก สลายเร็วสุดแค่ 24 ชั่วโมง
UNIQLO มุ่งสู่ความยั่งยืน เป็นมิตรกับโลก โดยผลิตยีนส์ใช้น้ำเพียง 1 ถ้วยชา
ปัจจุบันขวดของ Pulpex ไม่ได้ใช้สำหรับอาหารและเครื่องดื่มเนื่องจากข้อบังคับด้านความปลอดภัย ตามหน้าคำถามที่พบบ่อยของบริษัท แต่บรรจุภัณฑ์ใหม่นี้จะสามารถรีไซเคิลได้ด้วยผลิตภัณฑ์กระดาษ และหากทิ้งลงในถังขยะ ก็สามารถย่อยสลายได้
ตามที่บริษัทระบุ ขวดของ Pulpex มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยกว่าแก้ว 90% และน้อยกว่า PET 30% ซึ่งเป็นพลาสติกน้ำหนักเบาประเภทหนึ่งที่ใช้กันทั่วไปในบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม
คราฟท์ ไฮนซ์ ยังตั้งเป้าที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 Miguel Patricio ซีอีโอของ Kraft Heinz กล่าวว่า
“ขยะบรรจุภัณฑ์เป็นความท้าทายทั่วทั้งอุตสาหกรรมที่เราทุกคนต้องทำในส่วนของเรา นั่นคือเหตุผลที่เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อสำรวจโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนทั่วทั้งแบรนด์ของเรา และเพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ขวด Heinz ใหม่นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของวิธีที่เราใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเพื่อสำรวจวิธีการใหม่ๆในการจัดหาผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่พวกเขรู้จักและชื่นชอบในขณะเดียวกันก็คิดอย่างยั่งยืน”
บริษัทและรัฐบาลหลายแห่งให้คำมั่นสัญญาที่คล้ายกันเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ องค์การสหประชาชาติและนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกต่างเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าความล้มเหลวในการลดเชื้อเพลิงฟอสซิลและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะมีผลกระทบร้ายแรง และกล่าวว่าการปล่อยมลพิษจะต้องลดลงเร็วกว่าในภายหลัง
ในเดือนเมษายน องค์การสหประชาชาติได้ออกคำเตือนอันเลวร้ายอีกประการหนึ่งว่าอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.1°C หรือ 2°F นับตั้งแต่ระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งได้สร้างน้ำท่วมฉับพลัน ภัยแล้ง พายุเฮอริเคน และไฟป่าบ่อยครั้งและเป็นอันตราย
เลขาธิการสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส กล่าวว่าเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นภายใต้ 1.5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้ความหิวโหย ความขัดแย้ง และภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรงขึ้นอย่างมากทั่วโลก การปล่อยมลพิษทั่วโลกจะต้องลดลง 45% ในทศวรรษนี้
อย่างไรก็ตาม คำมั่นสัญญาทั่วโลกในปัจจุบันจะเพิ่มการปล่อยมลพิษเพียง 14%
“เราอยู่บนเส้นทางสู่ภาวะโลกร้อนที่มากกว่าสองเท่าของขีดจำกัด 1.5 องศาที่ตกลงกันในปารีส” กูเตอร์เรสกล่าว "รัฐบาลและผู้นำธุรกิจบางคนพูดอย่างนึง แต่ทำอีกอย่าง ... พูดง่ายๆ ก็คือ พวกเขากำลังโกหก และผลลัพธ์จะเป็นหายนะ"
ดังตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ข้างต้น หลายอุตสาหกรรมเริ่มปรับตัวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกมากขึ้น ทาง Springnews จึงอยากชวนผู้อ่านทำความรู้จักกับ ESG นโยบายหรือเกณฑ์เพื่อนำบริษัทไปสู่ตลาดโลก สามารถศึกษาต่อได้ที่ >>> ธุรกิจไทยไปตลาดโลกได้ไหม ESG คืออะไร ทำไมธุรกิจยุคใหม่ต้องมี
ที่มาข้อมูล
https://www.cbsnews.com/news/heinz-ketchup-bottle-wood-pulp-eco-friendly/