Nexgen เมืองใหม่กรุงไคโร กำลังดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และพลังงาน เตรียมเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนอาหารในอนาคต และตั้งเป้าเป็นเมืองแรกของโลกที่มีคาร์บอนเป็น 0
การแข่งขันด้านความเขียวหรือการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าเข้มข้นมาก ๆ หลาย ๆ ประเทศเริ่มวางแผนออกนโยบายเพื่อสร้างเมืองของตนเองให้มีความยั่งยืนมากขึ้น เนื่องจากทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาเดียวกัน นั่นคือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและภาวะโลกร้อน และที่สำคัญที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบคือโลกของเรากำลังเผชิญกับปัญหาภาวะขาดแคลนอาหารในอนาคต ด้วยปัจจัยข้างต้น การระบาดของโรคร้ายและสงคราม
อนาคตที่แท้จริงคือความยั่งยืน เมืองไหนประเทศใดสามารถทำให้เมืองของตนยั่งยืนและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ เมืองนั้นถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เช่นเดียวกับประเทศหนึ่งที่คิดไม่ถึงว่า ภายนอกแม้จะดูเหมือนเป็นผู้ประสบภัยในในการปรับตัวด้านสภาพอากาศมากที่สุด จะมีแนวคิดสีเขียวได้น่าสนใจและกำลังเริ่มลงมือทำตอนนี้แล้วด้วย นั่นคือประเทศ อียิปต์
อียิปต์เป็นเมืองที่ติดภาพจำของผู้คนทั่วโลกว่า เป็นเมืองแห่งทะเลทรายและความแห้งแล้ง หาความเขียวในประเทศนี้ได้ยาก แต่ในความเป็นจริง อียิปต์ก็ยังมีด้านพื้นที่สีเขียวอยู่พอสมควร ดังนั้น หากอียิปต์จะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายในอนาคต บวกกับการเผชิญหน้ากับวิกฤตต่างๆมากมายที่อาจเกิดขึ้นได้ พวกเขาจึงได้วางแผนสร้างเมืองยั่งยืน เพื่อรองรับผลกระทบดังกล่าว
เมือง Nexgen เป็นโมเดลแผนผังเมืองแบบใหม่ ที่จะตั้งอยู่ในเขตตะวันออกของกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ บนพื้นที่ 580 เฮกตาร์ มีพื้นที่ 9,000 ยูนิตสำหรับผู้อยู่อาศัย 35,000 คนในทุกระดับรายได้ ตัวโครงการจะสร้างงาน 10,000 ตำแหน่งที่เน้นไปในด้านของเทคโนโลยีอาหาร พลังงานสะอาด น้ำและของเสีย ซึ่งจะเป็นการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนสีเขียวให้กับเมืองได้
โครงการ Nexgen นี้เป็นแผนแม่บทจากบริษัทที่ชื่อว่า URB ที่ออกแบบเมืองสำหรับอนาคตของอียิปต์ โดยตั้งเป้าว่าเมืองนี้จะกลายเป็นเมืองคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์แห่งแรกของโลกที่สามารถผลิตพลังงานและอาหารในปริมาณที่มากกว่านำไปบริโภค เมืองใหม่นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อผลิตอาหาร พลังงานและน้ำแก่ผู้อยู่อาศัยแบบครบวงจรโดยไม่พึ่งปัจจัยจากภายนอก และอาจจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
ความคาดหวังของโครงการ Nexgen ที่หวังจะเป็นหมุนหมายทางด้านการท่องเที่ยวนั้น ความหมายที่แท้จริงไม่ใช้เพื่อประโยชน์สำหรับการเที่ยวชมระบบเทคโนโลยีสีเขียวของเมืองเท่านั้น ภายในยังรวมไปถึงจะมีรีสอร์ทเชิงนิเวศ 5 ดาว สิ่งอำนวยความสะดวกแกลมปิ้ง ศูนย์นักท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติเพื่อการอนุรักษ์ที่ดินและความหลากหลายทางชีวภาพ สถานพยาบาลต่างๆในเมืองนี้ก็ตั้งเป้าที่จะเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ในด้านของการสร้างหมู่บ้านออทิสติก ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและคลินิกอื่นๆอีกมากมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เทสลาเปิดตัว รถแท็กซี่ไร้คนขับ Robotaxi ค่าใช้จ่ายต่อไมล์ต่ำสุดเกินคาด
ข่าวดี! นักวิทย์ประดิษฐ์เอนไซม์ย่อยสลายพลาสติก สลายเร็วสุดแค่ 24 ชั่วโมง
เรือโดยสารพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุด ฟีเจอร์น่าสน มีห้องสมุดด้วย!
District 2020 สมาร์ทซิตี้แห่งใหม่ของ UAE ที่เริ่มจากอีเวนต์ EXPO 2020 Dubai
Baharash Bagherian ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ URB ผู้สร้าง Nexgen ยังได้มีแผนการออกแบบเมืองอื่นๆที่ยั่งยืนเช่นกัน หลังเสร็จจากโครงการนี้ เขาตั้งเป้าหมายกับโครงการ Nexgen นี้ว่าจะสามารถแก้ปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหาร ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัย 1 ใน 4 ทั่วโลก ด้วยเหตุผลนี้ Nexgen จะรวบรวมระบบหลายระบบสำหรับการผลิตอาหารเพื่อคนในท้องถิ่นและสร้างความยั่งยืนสำหรับผู้อยู่อาศัยได้ เช่น เครื่องกำเนิดนำในบรรยากาศจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะผลิตน้ำสะอาดจากอากาศได้ และจะสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยทางน้ำในพื้นที่แห้งแล้งแห่งนี้
“การสร้างเมืองไร้คาร์บอนอย่าง Nexgen นี้ที่จะจัดหาอาหาร พลังงานและน้ำเพื่อความมั่นคง จะไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวเลือกอีกต่อไป มันจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นในอนาคต Nexgen เป็นวิวัฒนาการต่อไปในเมืองที่ยั่งยืนซึ่งนำเสนอโซลูชันหรือแนวทางแก้ไขอเนกประสงค์ที่จะเป็นนวัตกรรมสำหรับความท้าทายทางสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เราก็ได้กำหนดมาตรฐานความยั่งยืนสูงสุดสำหรับการสร้างเมืองที่ยืดหยุ่นและน่าอยู่ควบคู่ไปด้วย”
ฟีเจอร์เพิ่มเติมที่น่าสนใจเกี่ยวกับเมือง Nexgen
ในฐานะเมืองไร้พรมแดน Nexgen จะฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยอื่นๆที่อุดมไปด้วยคาร์บอนและเกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมืองนี้จะถูกเร่งให้เป็นโมเดลของเมืองที่มีสภาพอากาศเชิงบวกมากขึ้น ซึ่งเมืองนี้ได้รับการพัฒนาโดยเน้นที่เทคนิคการออกแบบแบบ Passive เป็นหลัก เช่น การวางแนว ความหนาแน่นและรูปแบบที่ต้องการการลงทุนทางการเงินน้อยที่สุด หรือก็คือใช้ทุนในการสร้างน้อยที่สุด แต่ยังไว้ได้ซึ่งผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมสูงสุด
สรุปโดยผู้เขียน
เห็นโมเดลหลายเมืองของต่างประเทศแบบนี้แล้วก็แอบอิจฉา ในการที่จะมีเมืองต้นแบบและยั่งยืนเกิดขึ้น และถือว่าหลายประเทศเริ่มมองการณ์ไกลกันบ้างแล้วในการจัดการปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหาร ทรัพยากร สังคมและสิ่งแวดล้อมที่กำลังพุ่งต่ำลงในทุกด้านจากสภาวะการณ์แวดล้อมที่ไม่ค่อยสู้ดี อย่างการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้เศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของหลายประเทศต้องหยุดชะงัก หารใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
การเกิดสงครามยูเครน-รัสเซียก็ทำให้ผู้คนขาดแคลนอาหาร ผลกระทบแบบโดมิโนของประเทศมหาอำนาจต่างๆก็หันเหความสนใจด้านสิ่งแวดล้อมหรือเรื่องสำคัญอื่นๆไปสู่การแก้ปัญหาสงคราม ซึ่งก็มีทั้งผลลัพธ์ที่ดีและร้ายปนกันไป ยังไม่นับรวมกับปัจจัยย่อย เช่น สภาพอากาศที่เลวร้ายขึ้น ภัยพิบัติที่เกิดถี่ขึ้นและสุดขั้วมากๆ หรือภาวะขาดแคลนทรัพยากรหนัก การรุกรานพื้นที่ป่าทำให้สัตว์สูญพันธุ์ไปหลายร้อยสายพันธุ์แล้ว เป็นต้น หรือจะจากวิกฤตของปัญหาขยะล้นโลก หรือมลพิษต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา ล้วนนำไปสู่ทิศทางที่แย่ลง
การปรับตัวก่อนถือว่าได้เปรียบมากในปัจจุบัน เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง วิกฤตอาหารจะขาดแคลนจริงหรือไม่ พืชผลจะให้ผลผลิตที่น้อยลงจริงไหม น้ำกำลังขาดแคลนหรือเปล่า หรือแม้กระทั่งอากาศก็จะไม่มีให้หายใจได้อีกก็อาจเกิดขึ้นได้ หากไม่มีการแก้ไขอย่างถูกต้องและรวดเร็วที่สุด โมเดลดังกล่าวจึงเป็นตัวอย่างของการจัดการที่ดีที่จะทำให้อียิปต์คงความยั่งยืนยามเกิดวิกฤตได้ นี่จึงเป็นนาทีทองของทุกประเทศที่จะต้องเริ่มนโยบายใหม่ๆเพื่อเพิ่มความยั่งยืนให้กับประเทศของตนเองให้อยู่รอดได้ แม้ต้องเผชิญกับภัยที่เลวร้ายที่สุด
ที่มาข้อมูล
https://inhabitat.com/first-climate-positive-net-zero-city-in-the-world/
https://urb.ae/projects/nexgensustainablecity/