5 เมนูอาหารไทยต้านมะเร็ง อร่อยง่าย ๆ ได้ประโยชน์

รศ.ดร.สมศรี เจริญเกียรติกุล อาจารย์ประจำฝ่ายเคมีทางอาหาร สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า จากงานวิจัยที่เกี่ยวกับเรื่องของน้ำแกงต่าง ๆ เป็นการทดลองที่เรียกว่านอกสิ่งมีชีวิต คือ เอาเซลล์มะเร็งออกมาทำนอกห้องทดลอง

โดยการเอาน้ำแกงปรุงสำเร็จมาทดสอบกับเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว เวลาที่เราประเมินผล จะดูว่าเซลล์มะเร็งนั้นตายแบบไหน เซลล์นี้มีอายุของมันถึงเวลามันจะตายเองเรียกว่า ตายแบบธรรมชาติ การตายธรรมชาติหนึ่งเซลล์ก็ตายของไม่เกี่ยวกับเซลล์ข้าง ๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่มันตายแบบผิดธรรมชาติมันจะไม่ตายตัวเดียว จะตายเป็นกลุ่ม เพราะว่าเซลล์จะบวมและอักเสบแล้ว ส่งผลให้เซลล์รอบข้างตายไปด้วย โดยน้ำแกงที่อยู่ในการทดลอง ได้แก่ แกงเลียง แกงส้มแกงป่า แกงเหลือง และต้มยำ โดยใช้น้ำแกงไปเลี้ยงเซลล์ แล้วเทียบกับยาที่ใช้ในการรักษามะเร็ง ความสามารถในการฆ่าเซลล์มะเร็ง พบว่า ยาสามารถ ฆ่าเซลล์มะเร็งได้ประมาณ 70% แต่แกงเลียง แกงส้มและแกงป่า สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งแบบธรรมชาติได้ประมาณ 45% ส่วนแกงเหลืองจะได้ประมาณ 25% ต้มยำประมาณ 30%

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง โดยการเอาแกงเลียง มาทำเหมือนแกงที่คนทั่วไปกินมีการใส่ผักใส่ใบแมงลัก ตำลึง แล้วนำไปทำให้แห้งเพื่อจะเอามาป้อนให้หนู โดยแบ่งหนูเป็น 3 กลุ่ม คือ หนูที่เลี้ยงปกติทุกอย่าง กลุ่มที่ให้สารก่อมะเร็งอย่างเดียว และกลุ่มที่ให้แกงเลียง ตั้งแต่เริ่มต้นเลี้ยงไปทั้งหมดประมาณ 6 อาทิตย์ และในอาทิตย์ที่ 2กับ3 จะชักนำให้หนูเกิดภาวะที่มีสารก่อมะเร็ง แล้วหลังจากนั้นก็จะรอจนครบ 6 สัปดาห์ และเอาลำไส้หนูมาดูผลการศึกษา ยืนยันว่าเซลล์มะเร็งในหนูที่ไม่ได้รับแกงเลียงเลยจะมีโอกาสเกิดเซลล์ผิดปกติมากกว่าหนูที่ได้รับแกงเลียงถึงประมาณ 50%

จากข้อมูลตรงนี้เป็นการบอกให้เราทราบว่า การที่เรากินแกงเลียงช่วยลด ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ถึงแม้ว่าการศึกษานั้น จะเป็นระยะสั้นแต่ทำให้เซลล์ที่มันผิดปกติลดลง ซึ่งถ้าเซลล์ผิดปกติลดลงก็จะไม่นำไปสู่การเกิดมะเร็งในระยะต่อไป เพราะฉะนั้นอันนี้เป็นผลการวิจัยที่ยืนยันว่า อาหารไทยยกตัวอย่าง เช่น แกงเลียง ซึ่งเป็นอาหารที่มีพลังงานต่ำมีพืชผักสมุนไพรเยอะเหมาะที่จะนำมาบริโภคเพื่อสุขภาพ