สำหรับคนไหนที่รู้สึกว่าตัวเองรายจ่ายเยอะ อยากจะลด แต่ไม่อยากลดลงแบบหักโหม เรามีวิธีลดรายจ่าย มาบอกว่ารายจ่ายตัวไหนสามารถลดได้ และตัดทิ้งได้โดยที่ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันแถมยังทำให้ทุกคนมีเงินเหลือเพิ่มต่อเดือนอีกเยอะเลย
วิธีลดรายจ่าย สายใช้เงินเก่ง
ลดค่าเครื่องดื่มในแต่ละวันลง ปกติใครดื่มเครื่องดื่มวันละ 2 แก้ว ตอนเช้าก่อนทำงานต้องมีกาแฟ ตอนบ่าย ชาเขียว ชาเย็นชานมไข่มุก น้ำหวาน แก้วนึงราคาขั้นต่ำ 50 บาทต่อวัน เราใช้จ่ายเงินค่าเครื่องดื่มไปไม่ต่ำกว่า 100 บาท ไม่ได้บอกว่าให้ทุกคนเลิกกินกาแฟ ให้ลองเปลี่ยนมาเป็นการชงกาแฟกินเอง ข้อดีข้อแรก คือ ประหยัดลงไปเมื่อหันมาชงกาแฟกินเอง ข้อดีอีกอย่าง คือ ได้สุขภาพดีขึ้น เพราะ ชงกินเองสามารถลดความหวานลงได้ ส่งผลดีต่อสุขภาพ สำหรับรอบบ่ายใครที่เป็นสายของหวาน น้ำหวาน ไม่ได้บอกว่าให้เลิกซะทีเดียว เพียงแต่เราอาจลดปริมาณลงเหลือสัปดาห์ละ 2-3 แก้วก็พอ
ลองสังเกตตัวเองดูว่าต้องจ่ายค่าสมาชิกอะไรบ้าง แต่ไม่ได้ไปใช้บริการเหล่านั้นเลย หรือว่าใช้ก็ใช้ไม่คุ้ม ไม่ว่าจะเป็นค่าฟิตเนส แต่รู้สึกว่าตัวเราเองไปใช้บริการไม่คุ้ม ไปน้อยมาก จนรู้สึกว่าเสียเงินไปฟรี ๆ ลองไปยกเลิก หมั่นสังเกตที่ตัวเราเองเป็นหลัก ว่าใช้บริการเหล่านั้นคุ้มหรือเปล่า ถ้ารู้สึกว่าไปคุ้ม ก็ถือเป็นการซื้อสุขภาพ อีกอย่างคือค่ารายเดือนแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ แต่ถ้าเราไม่ได้ใช้ หรือใช้ไม่คุ้มก็ควรที่จะไปยกเลิกได้เลย
ปรับ package Wi-Fi บ้านและโปรโมชั่นโทรศัพท์มือถือให้เท่ากับการใช้งานของเราจริง ๆ เพราะสองรายจ่ายนั้นปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเราจะต้องใช้ แต่เราสามารถลดมันลงได้ บางคนใช้โปรโมชั่นมือถือที่มากเกินความจำเป็น
การตัดค่าทำเนียมธนาคาร และค่าธรรมเนียมของบัตรต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป เพราะบางคนที่เปิดบัญชีไว้หลายธนาคาร ทั้งบัตรเดบิต เอทีเอ็ม บัตรเหล่านี้จะมีค่าธรรมเนียมรายปีอยู่ที่ 200-700 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเป็นบัตรชนิดไหน ธนาคารอะไร ยุคนี้มีการกดเงินโดยไม่ใช้บัตร เพราะฉะนั้นเราสามารถลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ลงไปได้ มีบัญชีหลายธนาคารได้ แต่บัตรเอทีเอ็มมีไว้แค่พอประมาณ และเอสเอ็มเอสต่าง ๆ ที่จะจัดส่งมาบอกเรามียอดเงินคงเหลือเท่าไหร่ เอสเอ็มเอสเหล่านี้ จะมีค่าทำเนียมเพียงแค่เราไปยกเลิกให้หมด เพราะแอพพลิเคชั่นธนาคารสามารถแจ้งยอดได้เป็นการประหยัดได้อีกทางหนึ่ง
สุดท้ายใครจะไปรู้ว่าการวางแผนการเดินทาง เป็นอีกวิธีลดรายจ่ายได้เยอะ โดยเฉพาะมนุษย์กรุงเทพนั้น จะต้องมีค่าวินมอเตอร์ไซค์ ค่าแท็กซี่ ค่าทางด่วน สังเกตง่าย ๆ จากค่าวินมอเตอร์ไซค์ครั้งละ 10 บาท 20 บาท เป็นระยะทางไม่ได้ไกล ที่เราสามารถเดินถึงได้ สำหรับวันไหนที่อากาศหรือบรรยากาศดีดี ก็สามารถเดินเพื่อประหยัดค่าวินได้