svasdssvasds

จับตาวง H1-KEY หลัง จาเมซ CEO ค่ายแม่ของ ลูกหนัง ศีตลา ประกาศยุบค่าย

จับตาวง H1-KEY หลัง จาเมซ CEO ค่ายแม่ของ ลูกหนัง ศีตลา ประกาศยุบค่าย

ส่อแววอีกรอบ? ชาวเน็ตแห่จับตา หลัง จาเมซ หรือ คิมซองฮี CEO ของ GLG (Grand Line Group) ต้นสังกัดวง H1-KEY เจอข่าวฉาวถูกแฟนเก่าแฉ ทั้งเล่นยา-ทำร้ายร่างกาย พร้อมประกาศลาออกและยุบค่ายใหญ่

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนที่เเล้ว หลังมีข่าวว่าค่ายเพลงเกาหลี กำลังจะเปิดตัว H1-KEY (ไฮ-คีย์) ศิลปินใหม่ของค่าย GLG (Grand Line Group) ที่ประกอบด้วยสมาชิกสาวไทยอย่าง SITALA หรือ ลูกหนัง ศีตลา วงษ์กระจ่าง ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง

เเละเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมานั้น ยูทูบของค่ายต้นสังกัดอย่าง GLG ได้ปล่อยคลิปเต้นของทั้ง 4 สาวออกมา มีความยาวประมาณ 1.32 นาที ซึ่งยอดการเข้าชมในตอนนี้อยู่ที่ 110,381 วิว เเละคอมเมนต์ของเเฟนคลับที่ยังคงยืนยันว่าจะสนับสนุนเพียงเเค่ 3 คนเท่านั้น

H1-KEY

หลังจากกระแส #แบนลูกหนัง เพิ่งซาไป ล่าสุดมีข่าวว่า คิมซองฮี หรือ จาเมซ ประธานบริหาร (CEO) ของ  GLG (Grand Line Group) และศิลปินในสังกัด GRDL ซึ่งเป็นค่ายใหญ่ของบริษัท ต้นสังกัดของลูกหนัง ถูกแฟนเก่าออกมาแฉว่า เขามีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง และเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และประกาศลาออกจากตำแหน่ง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ทั้งนี้  จาเมซ ได้ออกมาอธิบายว่า ในโลกออนไลน์ของเกาหลีได้มีการตั้งห้องแชตที่ใช้ชื่อว่า “un-silence ja mezz” และแฟนเก่าของ จาเมซ ที่ใช้ชื่อว่า นางสาวเอ (นามสมมุติ) ได้ออกมาแฉแหลกถึงพฤติกรรมหลายอย่างของเขา ซึ่ง  จาเมซ ได้แยกออกมาเป็นข้อ ๆ ดังนี้

  • แฟนเก่าลงบันทึกประจำวัน กล่าวหาจาเมซใช้ความรุนแรงกับเธอ

จาเมซเผยว่า เหตุการณ์นี้ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 เมื่อทั้งจาเมซและเอ ทะเลาะกันในรถ จาเมซพยายามที่จะเดินออกมา จึงเปิดประตูเพื่อลงจากรถ แต่เอได้ขยุมคอเสื้อของจาเมซเอาไว้เพื่อให้อยู่เคลียร์กันก่อน ด้วยความที่ทั้งคู่โมโหและอารมณ์ร้อน จึงทำให้ทั้งคู่ตบตีกัน เอใช้ความรุนแรงกับจาเมซตลอดเมื่อเวลาที่โมโห อารมณ์เสีย แต่ครั้งนี้จาเมซก็ผลักและใช้ความรุนแรงคืนบ้าง ทำให้เอไปแจ้งความกับตำรวจว่าถูกจาเมซทำร้าย

ตำรวจบอกว่า ทางเอจะไม่เอาเรื่องจาเมซถ้าจาเมซยอมขอโทษ แต่จาเมซรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้วเพราะเขาต่างหากที่ถูกตบตี เขาเลยไม่ยอมขอโทษ และนั่นทำให้จาเมซต้องเขียนคำสารภาพทั้งหมดลงไป จาเมซเลยถามตำรวจว่า “คนที่มาแจ้งความก่อน จำเป็นต้องเป็นเหยื่อหรือเปล่า” แต่ตำรวจบอกว่า “คุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเขียนรายงานบันทึกประจำวันว่าต่างฝ่ายต่างใช้ความรุนแรงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” แต่จาเมซไม่อยากทำแบบนั้นกับคนที่เขารัก เพราะเขามองว่า เขาแค่พยายามจะหลุดออกจากเหตุการณ์ความรุนแรงเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ทางเอมองว่าตัวเธอคือเหยื่อของความรุนแรง เพราะเธอตั้งใจที่จะลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เอมองว่าเรื่องนี้จะเป็นธรรมได้ก็ต่อเมื่อได้รับคำขอโทษ และการที่ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ แตไม่แจ้งความดำเนินคดี ก็คือเป็นทางออกที่สวยที่สุดแล้ว แต่ทางจาเมซไม่ได้ลงบันทึกประจำวันแจ้งความกลับเพราะไม่อยากเอากฎหมายมาแก้ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์

 

จับตาวง H1-KEY หลัง จาเมซ CEO ค่ายแม่ของ ลูกหนัง ศีตลา ประกาศยุบค่าย

  • รูปที่ปัดน้ำฝนหัก

จาเมซอธิบายเรื่องที่ปัดน้ำฝนหักว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2564 ทั้งเอและจาเมซทะเลาะกัน เอได้เอามือถือของจาเมซไปแล้วขับรถหนี จาเมซต้องใช้มือถือติดต่อกับผู้จัดการเพราะวันต่อมาจะมีอีเวนต์ที่ต้องไปโชว์ตัว เอก็รู้ว่าจาเมซต้องใช้มือถือทำงาน และคิดว่าเอจะเอามือถือมาคืนให้ทัน แต่สุดท้ายเอก็ไม่เอามือถือมาคืน และจาเมซก็ติดต่อเอไม่ได้ จาเมซจึงออกตามหาเอจนทั่ว จนไปเจอกับรถของเอ จาเมซไปขวางหน้ารถไม่ให้เอขับรถหนี แต่เอก็ไม่ยอมและขับรถใส่จาเมซ พอรถเข้ามาใกล้ จาเมซกลัวว่ารถจะชนเลยกระโดดขึ้นกระโปรงหน้ารถเอ จาเมซโมโหสุด ๆ จนไม่มีสติ และยืนบนกระโปรงรถและเหยียบหน้ารถจนก้านปัดน้ำฝนหักพร้อมกับตะโกนว่า “เอามือถือกูคืนมา”

  • ข้อความ SMS ที่สถานีตำรวจระบุว่า ได้รับรายงานแล้วเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564

จาเมซเล่าว่า เขาได้ทะเลาะกันกับเอบนชั้นดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่งในย่านเออร์วาน-ดง เอบอกจาเมซว่า “เพราะเธอคนเดียว ทำให้ฉันเกลียดที่จะมีชีวิตอยู่” “เธอคือคนที่ฆ่าฉัน” ซึ่งก่อนหน้านี้ เอเคยพยายามฆ่าตัวตายและข่มขู่จาเมซว่าสิ่งที่เขาทำ ทำให้เธอต้องจ่ายด้วยราคาชีวิต ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะยอมรับ จาเมซพยายามเข้าใจเอ แต่ยิ่งได้รับคำขู่มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้จาเมซใจเสียมากเท่านั้น (และนี่ทำให้ถึงจุดที่จาเมซบอกเอว่า ก็ไปตายเลยซะสิ)

เอเคยขู่จาเมซหลายครั้งว่าจะกระโดดตึกตาย และจาเมซคิดว่าคงไม่สามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ นั่นทำให้จาเมซต้องโทร. หาตำรวจ โดยเอามือถือของเอมาโทร ซึ่งพอตำรวจมา ก็พยายามไกล่เกลี่ยจนสถานการณ์เบาบางลง ซึ่งก่อนที่ตำรวจจะมา ตำรวจก็จะส่งข้อความมาบอกว่าได้รับรายงานและกำลังเดินทางไป

  • ภาพที่จาเมซนั่งคุกเข่าบนพื้น 

ภาพนี้ถ่ายที่บ้านของจาเมซ วันหนึ่งเอมาที่บ้านของจาเมซและทั้งคู่ก็ทะเลาะกัน ตอนนั้นพ่อแม่ของจาเมซอยู่ในบ้านด้วย และจาเมซไม่อยากให้พ่อแม่เห็นภาพที่ไม่ดี จาเมซอยากให้เอหายโกรธ จาเมซจึงทำตัวกึ่งเล่นกึ่งจริงด้วยการที่คุกเข่าเพื่อขอโทษเอ และไม่รู้ว่าเอจะถ่ายรูปนั้นแล้วเอามาประจาน

 

จับตาวง H1-KEY หลัง จาเมซ CEO ค่ายแม่ของ ลูกหนัง ศีตลา ประกาศยุบค่าย

จับตาวง H1-KEY หลัง จาเมซ CEO ค่ายแม่ของ ลูกหนัง ศีตลา ประกาศยุบค่าย

  • เรื่องที่จาเมซเสพกัญชาและ LSD

จาเมซยอมรับว่า ในอดีตเขาเคยเสพกัญขาและเสพ LSD และถ้าจะมีบทลงโทษใด ๆ เขาก็ขอยอมรับไว้ ส่วนที่เอรู้เรื่องนี้ เพราะจาเมซเคยบอกเอผ่านแชต kakaotalk เอไม่เคยเห็นจาเมซเสพยาเสพติดด้วยตาของตัวเอง

หลังจากนั้น จาเมซได้หันไปรับงานเป็นผู้บรรยายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และเป็นซีอีโอของค่ายแกรนด์ไลน์ (ค่ายต้นสังกัดของลูกหนัง ศีตลา) จาเมซหันมาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ พยายามแก้ไขสิ่งที่ผิดให้เป็นถูก และยินดีที่ตัวเองได้หลุดพ้นและตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองแล้ว

จาเมซได้กล่าวว่า ตัวเขาก็ไม่เคยเปิดเผยเรื่องชีวิตส่วนตัวขนาดนี้ แต่การได้เขียนเรื่องนี้ออกมา ก็ทำให้เขาโล่งใจไม่น้อย เขาไม่ได้บอกว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาทำผิดและต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และสุดท้าย เขาอยากขอโทษเอและครอบครัวของเธอด้วยที่เขาทำให้ทุกคนต้องเจ็บปวด

สุดท้าย จาเมซบอกว่า “ผมได้ลาออกจากการเป็นซีอีโอของแกรนด์ไลน์ และตอนนี้ก็ตัดสินใจแล้วว่า จะยุบค่ายแกรนด์ไลน์ ผมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สืบสวน และไม่หนีความรับผิดชอบ ตอนนี้ก็ถึงช่วงสิ้นปีแล้ว ผมขอโทษที่ไม่สามารถนำข่าวดี ๆ มาฝากทุกคนได้”

ในขณะเดียวกัน ก็มีข้อความที่ประกาศว่า ค่าย Grandline จะยุบค่ายนับตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อข่าวฉาวของจาเมซ ซีอีโอของค่ายและนี่เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างนักดนตรีและทีมงาน 

 

จับตาวง H1-KEY หลัง จาเมซ CEO ค่ายแม่ของ ลูกหนัง ศีตลา ประกาศยุบค่าย

  • แถลงการณ์จากทางค่าย GRDL

ในวันที่ 28 ธันวาคม 2021 ค่ายเพลงฮิปฮอป GRDL จะถูกยุบด้วยความรู้สึกรับผิดชอบต่อ จาเมซ นักดนตรีและซีโอของการโต้เถียงเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันขอโทษที่ทําให้เกิดเรื่องอื้อฉาวและแบ่งปันข่าวนี้

นอกจากนี้เราจะแจ้งให้คุณทราบว่านี่เป็นการตัดสินใจที่เคารพความคิดเห็นของทุกคนโดยข้อสรุปที่นักดนตรีและพนักงานของพวกเขากล่าวถึง

ตําแหน่งของจาเมซคือเขาจะไม่กลับไปหาบุคคลและหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบใด ๆ

 

จาเมซ กลายเป็นที่รู้จักในวงการจากการเป็นเมนเทอร์ในรายการ Show Me the Money ของเกาหลีใต้ และขึ้นเป็น CEO ของ Grand Line Group เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมีข่าวฉาวจนประกาศยุบค่ายในสังกัดและลาออกจากตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีข่าวฉาวเกี่ยวกับตัว CEO ของค่าย แต่ยังไม่มีรายงานว่า H1-KEY วงของลูกหนัง ศีตลา จะได้รับผลกระทบหรือไม่ และการเดบิวต์ในวันที่ 5 มกราคมปีหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป