จีนไล่ตามสหรัฐฯติดๆ ผลิตโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ตามรถแท็กซี่บินได้

เมื่อไม่นานสหรัฐฯเพิ่งเปิดตัวแท็กซี่บินได้ไปหยกๆ ตอนนี้พี่จีนตามหลังมาอย่างติดๆกับรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ กินกันไม่ลงจริงๆสำหรับ 2 ประเทศนี้

HT Aero บริษัทผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศในเขตเมือง หรือ (UAM : Urban air mobility) บริษัทในเครือ XPENG ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ได้นำโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ไปนำเสนอในงาน EUROPEAN ROTOR 2021 ที่จัดขึ้นในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นที่แรกที่เปิดตัวรถยนต์ดังกล่าว

ในวันเปิดตัววันแรก HT Aero มีกล่าวคีย์สำคัญของโครงการว่า “สำรวจการเคลื่อนไหวแห่งอนาคต”, “การพัฒนาที่ล้ำสมัยล่าสุดของแบรนด์”- X2 คือยานยนต์รุ่นที่ 5 ของยานยนต์ 2 ที่นั่งที่ประสบความสำเร็จ และเป็นรุ่นที่ 6 ตามโมเดลรถยนต์บินได้ของ HT Aero

Zhao Deli ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท HT Aero เผยว่า

บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ปลอดภัยที่สุดในโลก โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้คนมีความหลงใหลในการมีเครื่องบินส่วนตัว และเชื่อว่าในอนาคตทุกคนจะสามารถเดินทางทางอากาศด้วยยานยนต์จาก HT Aero นวัตกรรมใหม่ที่มุ่งผลักดันเหนือขีดจำกัดของความคล่องตัวทั้งบนท้องถนนและบนท้องฟ้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แท็กซี่บินได้กับสนามบินขนาดเล็ก สกายพอร์ต กำลังจะตีตลาดในอีก 3 ปีข้างหน้า

• เป็นไปได้ไหมที่ราคารถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะถูกลง? Story of Green Ep.3

• พาเปิดสเปคราคา ORA Good Cat รถยนต์ไฟฟ้า100%

• สหภาพยุโรปออกเงินช่วยประชาชนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ทำยอดขายไตรมาสที่ 3 พุ่ง

• ยอดขายเทสลาในตลาดจีนดิ่งเหว หายไปเกือบ 70%

ภายในระยะเวลา 8 ปี ที่ HT Aero ได้ผลิต eVTOL หรือ electric vertical take-off and landing ยานพาหนะไฟฟ้าที่สามารถบินขึ้นและลงจอดได้ในแนวดิ่ง ออกมาแล้วทั้งหมด 5 แบบ และบริษัทเริ่มพัฒนา X2 รุ่นของยานยนต์ 2 ที่นั่งที่สามารถเดินทางทั้งทางบกและอากาศตั้งแต่ปี 2013 ที่ผ่านการทดสอบมาแล้วมากกว่า 15,000 ครั้ง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเพื่ออัพเกรดคุณสมบัติในด้านต่างๆถึงระบบควบคุมการบิน ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบร่มชูชีพและฟีเจอร์เพิ่มเติมคือน้ำหนักที่เบามากขึ้น โยออกแบบให้ตัวเครื่องยนต์มีน้ำหนักเท่ากับครึ่งหนึ่งของซีดานรุ่น XPENG P7 ที่มีน้ำหนักประมาณ 1.9 ตัน วัสดุที่ใช้คือคาร์บอนไฟเบอร์ผสมกับวัสดุที่แข็งแรงและเบากว่า อย่าง อลูมิเนียมการบิน อัลลอยด์ไทเทเนียมและแมกนีเซียมอัลลอยด์ ในการผลิตตัวถังของรถ

XPENG X2 จะมีความพิเศษด้านคุณสมบัติดังนี้

• ตัวรถยาว 4.97 เมตร กว้า 4.78 เมตร สูง 1.36 เมตร
• ปีกสามารถพับเก็บได้ โดยขนาดของปีกมีความยาว 4.79 เมตร กว้าง 1.95 เมตร
• ใบพัดมีขนาด 1.83 เมตร
• น้ำหนักประมาณ 560 กิโลกรัม น้ำหนักช่วง take-off ประมาณ 760 กิโลกรัม ด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด
• ความเร็วประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีในการไปถึงระยะบินเหนือพื้นดิน 1000 เมตร

แต่ X2 ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ยังไม่จัดจำหน่าย แต่คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2024 นอกจากนี้ทางบริษัทยังเผยอีกว่าพวกเขาใช้เวลาพัฒนาเพียง 8 เดือนในการพัฒนา X2 ซึ่งเป็นแนวคิดรุ่นที่ 5 ของการทดสอบและบริษัทยินดีที่จะเปิดเผยแผนสำหรับแนวคิดรุ่นที่ 6 ใน European Rotors

การบุกตลาดยุโรป

รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของ XPENG มีวางจำหน่ายแล้วในนอร์เวย์ แต่ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้าบินได้หรอกนะ อาทิ ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา XPENG เปิดตัวยานยนตร์ซีดานรุ่นเรือธง P7 ให้จับจองกันล่วงหน้าแล้วในนอร์เวย์ ซึ่งบริษัทเปิดคุณสมบัติคร่าวๆว่า P7 สามารถวิ่งได้ไกลกว่า Tesla Model 3 ซะอีก ดูแจ๋วไม่เบา และอีกไม่นานก็จะขยายฐานการค้าให้กว้างออกไปอีกในหลายประเทศของยุโรป

ทางด้านอเมริกาแม้ว่า Tesla ยังเป็นยานยนต์ที่นำโด่งอยู่ แต่การแข่งขันทางตลาดไม่เคยรอใคร จีนก็เร่งตามมาติดๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Springnews ก็ได้เขียนอธิบายของการพัฒนารถแท็กซี่บินได้ในสหรัฐฯกันไปแล้ว สามารถตามไปอ่านได้ที่ แท็กซี่บินได้กับสนามบินขนาดเล็ก สกายพอร์ต กำลังจะตีตลาดในอีก 3 ปีข้างหน้า

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอิทธิพลและสร้างกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ครองสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก โดยการถือครองกรรมสิทธิ์รถยนต์ไฟฟ้าในจีนมีอยู่ราว ๆ 5.8 ล้านคัน จากการนับล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีน (CAAM) ณ การประชุมยานยนต์แห่งประเทศจีนในนครเซี่ยงไฮ้ ระบุว่ายอดจำหน่ายยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2021 อยู่ที่ 950,000 คัน เพิ่มขึ้น 2.2 เท่าจากช่วงเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า

ส่วนประเทศไทยในปี 2564 กรมการขนส่งทางบกได้เก็บสถิติรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ (ป้ายแดง) ในประเทศไทย ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2564 ระยะเวลา 7 เดือน มีจำนวนทั้งสิ้น 1,010 คัน มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 16.1% หรืออยู่ที่ 870 คัน

ในขณะที่ต่างประเทศเริ่มไปกันไกลมากขึ้น เราผู้เป็นประเทศกำลังพัฒนาก็หวังว่าจะได้มีโอกาสใช้เทคโนโลยีแบบนี้บ้างในอนาคตและหวังว่าการตลาดด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของไทยจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ราคาสมเหตุสมผลกับรายได้คนไทยมากขึ้น ให้สมกับเป้าหมายการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์ใช้น้ำมัน หลังรัฐบาลไทยเดินทางไปให้คำมั่นสัญญา Carbon Neutral ให้ได้ภายในปี 2050 ในงานประชุม COP26

ที่มาข้อมูล

Posttoday

en.xiaopeng.com

mgronline

www.autospinn.com