วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ของแอสตร้าเซนเนก้าในต่างประเทศแล้ว และเริ่มจัดส่งล็อตแรก 1.8 ล้านโดส ส่วนเรื่องแผนการกระจายวัคซีนในประเทศไทยเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกัน
อดทนอีกหน่อย...ทำตามมาตรการอีกสักระยะ เพราะวัคซีน AstraZeneca ล็อตแรกที่ผลิตจาก ศูนย์การผลิตวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย จากความร่วมมือระหว่าง บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กำลังจะเข้าสู่กระบวนการจัดส่งและกระจายตามจุดฉีดเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้พวกเราชาวไทย
บางข้อความหลังผลิต AstraZeneca ล็อตแรกสำเร็จ
"การที่ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนโควิด 19 ที่มีมาตรฐานด้านคุณภาพได้ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนนั้นถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งเกิดขึ้นจากการมีพันธมิตรด้านการผลิตที่ยอดเยี่ยมอย่าง สยามไบโอไซเอนซ์" เจมส์ ทีก ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ฝั่งผู้ผลิตยาชีววัตถุชั้นนำของไทย นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จของการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนจากประเทศอังกฤษสู่เมืองไทยว่า
“สยามไบโอไซเอนซ์ในฐานะผู้รับจ้างผลิต ตระหนักดีถึงหน้าที่สำคัญในการผลิตวัคซีนโควิด 19 ที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากลให้สำเร็จโดยรวดเร็วที่สุด และรู้สึกภาคภูมิใจที่บริษัทของคนไทยได้รับเลือกจากแอสตราเซนเนกาให้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัคซีน AstraZeneca และสามารถส่งมอบวัคซีนล็อตแรกได้ตามกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญา เพื่อจะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่และสุขภาพของคนในชาติ รวมถึงประชาชนและเศรษฐกิจไทยจะได้กลับคืนสู่ภาวะปกติอีกครั้ง”
กลยุทธ์การบริหารจัดการโรคระบาด จากการเสวนาแบบ Virtual
ช่วงค่ำของวันที่ 2 มิถุนายน 2564 องค์การอนามัยโลก (WHO Thailand) องค์การยูนิเซฟ กระทรวงสาธารณสุข สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) ร่วมเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ Virtual briefing with media on COVID-19 vaccination โดยพูดถึงแผนกระจายวัคซีนในไทย, วัคซีน AstraZeneca และสิ่งที่ควรดำเนินการต่อ ดังต่อไปนี้
1. วัคซีนโควิด 19 ใช้ได้ผลดีและช่วยรักษาชีวิตของผู้คนทั่วโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน คุณควรเข้ารับวัคซีนทันทีที่มีโอกาส
- การศึกษาในปัจจุบันระบุว่าวัคซีนที่มีใช้อยู่ในขณะนี้ที่ผ่านการรับรองสำหรับการใช้แบบฉุกเฉินโดยองค์การอนามัยโลกหรือที่ได้รับการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ล้วนมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการป่วยหนักและการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ทั้งจากสายพันธุ์ดั้งเดิมและเชื้อกลายพันธุ์
2. วัคซีน AstraZeneca ที่จะใช้ในประเทศไทยนั้นใช้ได้ผลจริง สามารถป้องกันการป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ได้
- วัคซีน AstraZeneca ประมาณ 500 ร้อยล้านโดส ถูกจัดสรรไปยัง 170 ประเทศทั่วโลกเรียบร้อยแล้ว และมีรายงานว่า พบผลข้างเคียงจากวัคซีน AstraZeneca (รวมถึงภาวะลิ่มเลือดอุดตัน) มีโอกาสเกิดขึ้นแต่น้อยมาก ความเสี่ยงจากการป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 นั้น ยังมีสูงกว่าการพบอาการข้างเคียงชนิดรุนแรงจากวัคซีนหลายเท่า
3. องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ผู้ใหญ่ทุกคนเข้ารับวัคซีน AstraZeneca หากเป็นไปได้ และขอสนับสนุน 'แผนฉีดวัคซีนให้ประชากร 50 ล้านคนภายในสิ้นปี' ของประเทศไทย
4. ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยหนักหรือเสียชีวิต ควรได้รับวัคซีนโดสแรกก่อนกลุ่มอื่น
5. ทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยควรเข้ารับวัคซีนโควิด 19 ให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
6. การปรับเปลี่ยนแผนการและกลยุทธ์เกี่ยวกับวัคซีนตามสถานการณ์ คือสิ่งที่พึงกระทำ
7. การฉีดวัคซีนร่วมกับการใช้มาตรการสาธารณสุขอื่นๆ เป็นกลยุทธ์ในการหาทางออกจากการแพร่ระบาดใหญ่อย่างไร
AstraZeneca จะมาเป็นงวดๆ
“เนื่องจากกรมควบคุมโรคจะได้รับการส่งมอบวัคซีนจากบริษัทผู้ผลิตมาเป็นงวดระยะ ประมาณ 4 งวดในเดือนมิถุนายน ดังนั้น การส่งต่อให้โรงพยาบาลจึงเป็นงวดเช่นเดียวกัน” ดร.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวในงานเสวนาออนไลน์ Virtual briefing with media on COVID-19 vaccination
ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เชื้อไวรัสก็เช่นกัน ที่สามารถกลายพันธุ์ได้ไม่จบสิ้นและแพร่กระจายได้เร็วยิ่ง รุนแรงกว่าเดิมอย่างยิ่งยวด การดีลงาน - ดำเนินงานในสถานการณ์วิกฤตจึงต้องมีความยืดหยุ่น แผนกระจายวัคซีน จึงต้องปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ โดยทางกรมควบคุมโรคระบุ 4 เรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเกี่ยวกับแผนกระจายวัคซีน ดังนี้
ไทม์ไลน์กระจายวัคซีน AstraZeneca ล็อตแรก
เนื่องจากเป็นวัคซีน AstraZeneca จะเป็นวัคซีนหลักของประเทศ เดือน มิ.ย. จึงเป็นช่วงสำคัญของการดำเนินงานเพื่อกระจายวัคซีนให้เร็วที่สุด กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงเผยช่วงเวลาและจำนวนวัคซีน AstraZeneca ที่จะกระจายในช่วงเดือนมิถุนายนไว้ดังนี้
*ตัวเลขที่คำนวณจากจำนวนวัคซีนขั้นต้น 1.8 ล้านโดส
ที่มา : กรมควบคุมโรค, กระทรวงสาธารณสุข (4 มิ.ย. 2564)
แต่หากเป็นข้อมูลตลอดเดือนมิถุนายน จะมีการจัดส่งวัคซีนไปยังจังหวัดต่างๆ อยู่ที่ประมาณ 5 - 6 ล้านโดส ทั้งนี้ ทางสยามไบโอไซเอนซ์เปิดเผยว่า การจัดส่งวัคซีนตามสัญญาของแอสตราเซนเนกา ระบุไว้ว่าเดือนมิถุนายน แต่ไม่มีการระบุวันที่เอาไว้
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานภาครัฐที่เป็นผู้ดำเนินการส่งมอบวัคซีน คือ สถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมควบคุมโรค ส่วนข้อมูลการส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด 19 ของแอสตราเซนเนกาให้แก่รัฐบาลไทยนั้น จะเริ่มทยอยส่งมอบวัคซีนล็อตแรกที่จะเริ่มฉีดในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ จำนวน 1.8 ล้านโดส ซึ่งเป็นจำนวนเดิมที่กระทรวงสาธารณสุขเคยประกาศไว้ และคาดว่าในวันที่ 7 เพียงวันเดียว จะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้มากกว่า 500,000 โดส (รวมทั้งวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac)
เรื่องอื่นๆ ที่ภาครัฐเคยประกาศไว้
เคลียร์เลขให้ชัด! เดือนมิถุนายนนี้จะนำเข้าวัคซีนอะไรบ้าง
นอกจากนี้ ยังมีการนำเข้าวัคซีนและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อุปกรณ์การฉีดวัคซีนที่จะจัดส่งในช่วง 2 - 4 มิ.ย. 64 ส่วนวัคซีนทางเลือกแบรนด์ต่างๆ จะเข้ามาในไตรมาส 3 - 4 ของปีนี้
ทั้งหมดคือ ความเคลื่อนไหวและแผนกระจายวัคซีน AstraZeneca ในไทย ก่อนที่จะผลิตเพื่อส่งออกวัคซีนโควิด 19 ไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงวัคซีนได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม