ภาวะหมดไฟในการทำงานคืออะไร? ทำไมช่วงนี้เรามักเห็นคำนี้ในโซเชียลอยู่บ่อย ๆ แต่ถึงแม้จะยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริง หลาย ๆ คนก็ยังแอบเผลอยกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว! เอ๊ะ แล้วคำที่มันช่างตรงกับชีวิตของตัวเราเองนี้จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรดี
จัดลำดับความสำคัญ
หากเรากำลังต้องรับมือกับงานที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด และปัญหาชีวิตที่มากเกินจะแก้ไหว ลองหยุดแล้วแยกแยะดูว่าสิ่งไหนที่เราต้องจัดการกับมันในตอนนี้ สิ่งไหนที่รอได้ จัดลำดับความสำคัญจากมากที่สุดไปน้อยที่สุด และเขียนออกมาเป็น to-do list
ฝึกนิสัยที่ดี
ในช่วงเวลาที่เราเครียดจะเป็นช่วงที่เรามักสร้างนิสัยที่ไม่ดีขึ้นมา เช่น การทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือไม่ออกกำลังกาย ซึ่งว่าง่ายๆ คือ เราจะไม่ค่อยดูแลสุขภาพของตัวเอง เนื่องจากเรามัวแต่เอาเวลาทั้งหมดไปให้กับงาน
กำหนดขอบเขต
เมื่อไรที่เรารู้สึกว่าหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานได้มอบหมายงานให้เราในจำนวนที่มากเกินไป ลองหยุด และกำหนดขอบเขตเวลาการทำงานของเรา เช่น ไม่ตอบอีเมลหลัง 4 ทุ่ม หรือนำโทรศัพท์ไปไว้ไกลตัวบ้างในช่วงเวลาพักผ่อน เพื่อป้องกันการทำงานตลอดเวลา
นอกจากเรื่องงานแล้ว บางคนอาจรู้สึกกดดันจากความคาดหวังของคนรอบข้าง ให้เราเป็นในแบบที่เขาต้องการ ลองหยุดและอธิบายให้พวกเขาเข้าใจถึงสถานการณ์ของเรา ว่าเรากำลังต้องจัดการกับอะไรบ้าง ลองบอกให้พวกเขารู้ว่าเรากำลังทำงานชิ้นนี้อยู่ เมื่อทำเสร็จแล้ว เราจะไปใช้เวลาร่วมกับพวกเขา การทำเช่นนี้จะช่วยกำหนดขอบเขตของเรา และทำให้เราได้มีเวลากลับมาโฟกัสกับงานตรงหน้าได้ดีขึ้น
ชาร์จแบตให้ตัวเอง
ไม่มีใครที่จะสามารถวิ่งอยู่ในสนามแห่งการแข่งขันได้ตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกเหนื่อยหรือท้อ ลองหยุดพักดูบ้าง การพักอาจเป็นอะไรที่เรียบง่ายที่สุด อย่างการนอนหลับให้เพียงพอ ออกไปเดินสูดอากาศ หรืออาจเป็นการเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดก็เป็นได้
ทุกคนต่างต้องมีเวลาหยุดพักของตัวเองกันทั้งนั้น อย่ารู้สึกผิดหากวันนี้เรายังไม่ได้ทำงานสักชิ้น เพราะในช่วงที่เรากำลังรู้สึกดาวน์ สิ่งที่ควรทำมากที่สุดนั้นคือการชาร์จแบตให้กับตัวเอง และเมื่อไหร่ที่ร่างกายรู้สึกดีขึ้น เราจะสามารถกลับเข้ามาวิ่งในสนามได้อย่างเฉิดฉายอีกครั้งอย่างแน่นอน
ขอความช่วยเหลือ
หากวันไหนที่ความเครียดมันมากเกินรับไหว ลองหยุด และหาใครสักคนที่เราไว้ใจเพื่อเล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้พวกเขาฟัง ซึ่งหากงานที่ได้รับมามันมากจนล้นมือ ลองแบ่งงานให้เพื่อนๆ หรือลูกน้องทำแทน หรือลองบอกหัวหน้าของเราว่าตอนนี้สภาพร่างกาย และจิตใจของเรานั้นไม่สามารถรับงานนี้ได้จริงๆในช่วงเวลาที่ยากที่สุด ลองกลับไปใช้เวลากับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงที่เราไว้ใจดูสักพัก บางครั้งเราอาจเข้มแข็งมานานเกินไป จนลืมไปว่าเราสามารถที่จะอ่อนแอได้ และหากวันไหนที่ไม่ไหว อย่าลืมที่จะขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างของเราดูบ้าง