หนึ่งในเครื่องมือที่ภาครัฐมุ่งมั่นพัฒนาออกมาให้คนไทยทั้งประเทศได้ใช้งานสะดวก เก็บข้อมูลและเข้าถึงข่าวสารเกี่ยวกับโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว คือ ระบบ หมอพร้อม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และในขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาเวอร์ชัน 2
• คนทั่วไปใช้งานสะดวกเพราะแอด หมอพร้อม แล้วใช้งานผ่าน LINE ได้เลย
• มีระบบจำแนกและจัดลำดับผู้ได้รับวัคซีนตามกลุ่มเสี่ยง ตรวจสอบได้ว่า ถึงคิวเราหรือยัง (แต่สำหรับประชาชนทั่วไปยังไม่สามารถทำได้ในขณะนี้)
• เชื่อมต่อกับ 1,500 โรงพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทั่วประเทศ และสามารถแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์
• ใช้ติดตามความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนแบบเรียลไทม์ และอาการไม่พึงประสงค์ของผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว
• เจ้าหน้าที่ด่านหน้าหรือบุคลาการทางการแพทย์ใช้งานสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาใส่หรือพิมพ์ข้อมูลซ้ำซ้อน และเห็นการแสดงผลในลักษณะ dashboard แบบเรียลไทม์ที่เข้าใจง่าย
• การมี Dashboard ช่วยให้ผู้บริหาร, ผู้มีอำนาจตัดสินใจ สามารถใช้ข้อมูลที่ปรากฏแบบเรียลไทม์ประกอบการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้เร็วขึ้น
SPRiNG ขอนำข้อความบางส่วนที่ นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านสาธารณสุข) ประธานคณะทำงานด้านระบบข้อมูลการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ข้อมูลไว้บนเว็บไซต์ สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า
“หมอพร้อม เป็นระบบสนับสนุนการทำงานเพิ่มเติมจากระบบโรงพยาบาลที่มีรองรับการฉีดวัคซีนอยู่แล้วทั่วประเทศ แม้ว่าจะไม่มีระบบหมอพร้อม โรงพยาบาลก็ทำงานได้เป็นปกติ เพียงแต่ระบบหมอพร้อมจะอำนวยความสะดวกให้แก่ทุกฝ่ายมากขึ้น"
สำหรับตัวเลขที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพและความสามารถของระบบหมอพร้อมได้อย่างน่าสนใจ ดูได้จากอินโฟกราฟิกนี้
นอกจากนี้ ระบบหมอพร้อมกำลังเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลประชาชนทั้งประเทศกับกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และข้อมูล Passport ของผู้มาใช้บริการกว่า 60 ล้านคน จากกรมการกงศุล กระทรวงการต่างประเทศ
นพ.พงศธรยังบอกอีกว่า หมอพร้อมสามารถออก Vaccine Certificate สำหรับประชาชนที่รับวัคซีนเข็มที่ 2 และหลังจากนี้จะมี QR Code เฉพาะบุคคลเอาไว้ตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อยืนยันว่า บุคคลนั้นได้รับวัคซีนชนิดใด พร้อมกันนี้ QR Code เฉพาะบุคคลยังเป็นวิธีป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลบุคคลไปในตัว
และในวันที่ 1 พฤษภาคม จะมีการเปิดตัว หมอพร้อม เวอร์ชัน 2 ที่พัฒนาต่อยอดและปรับปรุงแก้ไขจากการใช้งานมากกว่า 500,000 คนในระบบ โดยคาดว่าการพัฒนาครั้งนี้จะพร้อมรองรับผู้ใช้งานอีก 10 ล้านคน ในเดือนมิถุนายนที่กำลังจะถึง
Source : pixabay
ณ วันนี้ องค์กรอนามัยโลกยังไม่ได้ประกาศรูปแบบ Vaccine Passport ที่จะให้ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก เพื่อให้ผู้คนมีข้อมูลยืนยันการรับวัคซีนและสามารถเดินทางข้ามแดนได้อีกครั้ง
ประเทศไทยก็กำลังรอที่จะออก Vaccine Passport ตามมาตรฐานโลก เพราะหากคนไทยและชาวต่างชาติกลับมาการเดินทางท่องเที่ยวได้ดังเดิมโดยไม่ต้องกลัวโรคระบาดระลอก 5-6-7 แม้จะเป็นการท่องเที่ยววิถีใหม่ วิถีใหม่ล่าสุด ย่อมนำมาซึ่งเม็ดเงินที่จะช่วยให้คนค้าขายตัวเล็กๆ เอสเอ็มอี กลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง ก่อนที่จะขยายผลไปพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศต่อไป